"อนุทิน" รู้มั๊ย..นักรบเสื้อขาวกรำศึกหนักแค่ไหน
"อนุทิน" รู้มั๊ย..นักรบเสื้อขาวกรำศึกหนักแค่ไหน ทุกนาทีคือชีวิต เสี่ยงเป็น เสี่ยงตาย ด่านหน้าเผชิญเชื้อโรค เจ้าวายร้ายไวรัสโควิด-19 ไม่รู้ว่าจะชนะเมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่ แต่ยอมทิ้งครอบครัว เพื่อคนไทยทุกคน
“อนุทิน”อีกแล้ว
โซเชียลเดือดหนัก วิจารณ์ประเด็นร้อน หลัง “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์สื่อแสดงความไม่พอใจบุคคลากรทางกรแพทย์ที่ไม่เฝ้าระวังตัวเอง จนติดเชื้อวายร้ายไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ในโลกออนไลน์อย่างหนัก จนเกิดแฮชแท็ก #อนุทิน
อนุทิน ชาญวีรกูล
อ่านข่าว :
หมอเสาวภาสุดกลั้นน้ำตา อยากแขวนเสื้อกาวน์แล้วกลับบ้าน
ทำลายขวัญแพทย์ หมออำพลจี้ "อนุทิน" ขอโทษและพิจารณาตัวเอง
ไม่เพียงเท่านั้น เว็บไซต์ Change.org ได้สร้างแคมเปญรณรงค์ ขอเรียกร้องให้ “เสี่ยหนู” ลาออกจากเก้าอี้รมว.สาธารณสุข เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะสุขภาพอนามัยของประชาชนชาวไทย มิใช่กลุ่มก้อนแห่งผลประโยชน์ที่ผู้มีอำนาจจะจัดสรรแบ่งปันแก่กลุ่มคนและพวกพ้อง แต่เป็นสิทธิและสวัสดิภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ต้องได้รับการจัดสรรและดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ผู้นำที่มีความรู้ความสามารถ มีจรรยาบรรณและวิสัยทัศน์ เคารพต่อหลักการประชาธิปไตย และเห็นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ
ลามไปถึงแวดวงการสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นกันกระหน่ำโซเชียล ชนิดที่ “อนุทิน”เองก็คาดไม่ถึง
สะเทือนความรู้สึกคนไทยค่อนประเทศ จนอยากร้องไห้ตามคุณหมอ น่าจะเป็นความรู้สึกจากใจของหมอเสาวภา “แพทย์หญิงเสาวภา พรจินดารักษ์” เจ้าของเพจ หมอเสาวภาเลี้ยงลูกเชิงบวก ที่ถึงกับออกมาโพสต์ข้อความ..
"ทำไมคนเป็น รมต. ถึงพูดแบบนี้...
มีอะไรที่จะ “สิ้นหวัง” ได้มากกว่านี้อีก
อยากร้องไห้...
อยากแขวนเสื้อกาวน์แล้วกลับบ้านเลย
อุปกรณ์ป้องกันทุกสิ่งอย่าง อยู่หนายยยยยย"
ย้อนถ้อยคำบาดใจ ที่หมออยากร้องไห้ ทิ้งเสื้อกาวน์ หลังฟัง รมว.สาธารณสุข
“เท่าที่ผมได้รับรายงานมาการติดเชื้อของแพทย์จากการปฏิบัติหน้าที่ให้การรักษาโควิดยังไม่มี นี่คือสิ่งที่จะต้องไปหวดกันนะครับ อันนี้ก็ต้องยอมรับพวกเราก็ไม่พอใจนะครับ สำหรับบุคลากรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่เฝ้าระวังตัวเองเราซึ่งเราควรจะต้องเป็นบุคคลตัวอย่าง ต่อให้ไม่เป็นบุคคลตัวอย่างแต่เราต้องเป็นคนที่ Alert ตัวเองตลอดเวลาว่าช่วงนี้มีสถานการณ์ระบาดโลก เราต้องเซฟตัวเองให้ได้มากที่สุด”นายอนุทิน กล่าว
นักรบเสื้อขาว
ก่อนทุกอย่างจะเลวร้ายไปกว่าวิกฤติโควิด-19 ช่วงเย็นของวันที่ 26 มีนาคม 2563 “อนุทิน” ปล่อยคลิปความยาว 3.23 นาที อธิบายข้อวิพากษ์ในสังคม ใจความตอนหนึ่งว่า...
"เพื่อนๆ พี่น้องกระทรวงสาธารณสุข ที่รักและเคารพทุกท่าน วันนี้ผมได้มีการสื่อสารข้อมูลจากการสัมภาษณ์ออกไป ซึ่งอาจเกิดความไม่สบายใจกับเพื่อนร่วมงานของผมทุกคน โดยเฉพาะคุณหมอ พยาบาล ที่ให้การรักษาผู้ป่วย
ผมต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง แต่ผมขอยืนยันว่าผมไม่เจตนาที่ไม่ดี หรือมีเจตนาที่ตำหนิใครเลยผมมีเพียงเจตนาชื่นชม ศรัทธา และเคารพ ในสิ่งที่พวกท่านปฏิบัติอยู่ ซึ่งเป็นภารกิจที่ใหญ่หลวงมาก ผมเสียใจ ผมสื่อสารไม่ผ่าน และผมจะปรับปรุงตัวและขอให้ท่านให้โอกาสผม ขอให้ท่านรู้ว่าผมไม่มีเจตนาร้ายกับใคร ขอบคุณครับ”
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การสื่อสารของ “อนุทิน” นำไปสู่ข้อผิดพลาดใหญ่หลวง ต่อกรณีการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019(โควิด-19)
"โคโรนาไวรัส2019 แค่ “ไข้หวัดธรรมดา”
ตามมาด้วยอีกวลี “จะติดตั้งจุดคัดกรองที่สนามบินหาสวรรค์วิมานอะไร??”
เหล่านี้ล้วนมาจากปากของ อนุทิน ชาญวีรกุล “รมว.สาธารณสุข” ในยามที่บุคลากรทางการแพทย์กำลังออกสนามรบกับเจ้าวายร้ายไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดแพร่กระจายไปทั่วโลก
วายร้าย....ไวรัสโควิด-19
นาทีชีวิต เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ของนักรบเเสื้อขาว “อนุทิน รู้มั๊ย” แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน มีพ่อ มีแม่ มีครอบครัวอันเป็นที่รักและห่วงใย แต่ด้วยภารกิจที่ต้องแบกรับชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 จำต้องห่างไกลครอบครัวอันเป็นที่รักยิ่ง..
เหนื่อย ล้า อ่อนเพลีย ก่อนกำลัง ย่อมเกิดขึ้นเสมอ เมื่อต้องสู้ศึกที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า อย่าลืมว่าเมื่อผู้ป่วยผ่านคัดกรอง ผ่านการสืบสวนโรคแล้ว ไม่ใช่รับยาจากแพทย์แล้วกลับบ้านได้
ผู้ป่วยโควิด-19 ต้อง “แอดมิด”อย่างน้อย 30 วัน ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์
แม้เหนื่อยล้า อ่อนแรง เสี่ยงภัย กับภารที่หนักอึ้ง ที่ไม่มีวันรู้ว่าเมื่อไหร่จะรบชนะ อยากกลับบ้าน แต่บุคลากรทางการแพทย์ ไม่เคยทอดทิ้งผู้ป่วย
ยังปฏิบัติหน้าที่ อย่างดียิ่งเพื่อสานต่อพระราชปณิธานของ "สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก“พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน ที่ว่า "ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง"
ในยามที่ยากลำบาก นักรบเสื้อขาวต้องเป็นหน้าด่านเผชิญเชื้อโรค กรำงานหนักอยู่แล้วควรได้รับ "กำลังใจ" มากที่สุด
0 กมลทิพย์ ใบเงิน 0 รายงาน