มาจากไหน สันติ กีระนันทน์ "ผมไม่ใช่นักการเมือง"
ชื่อ "สันติ กีระนันทน์" ร้อนแรงขึ้นมาทันที หลังมีสื่อขุดโพสต์ในเฟซบุ๊ก โยงดราม่าการเมืองในพลังประชารัฐ
++
กลายเป็นข่าวการเมืองร้อนๆ ในวันฝนพรำหยุดยาวช่วงเข้าพรรษา เมื่อสื่อออนไลน์หลายสำนัก เสนอข่าว "สันติ กีระนันทน์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว อย่างเช่น "คนที่เนรคุณผู้มีพระคุณ คนที่หักหลังเพื่อน เพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ เป็นคนที่จะฝากความหวังไว้ได้หรือไม่ครับ"
หลายข้อความที่อยู่ในหน้าฟีด ใครอ่านก็ทราบว่า สันติต้องการสื่อความไปถึงใคร? กลุ่มใด?
สื่อทุกสำนักจัดให้ “สันติ” อยู่ในกลุ่ม 4 กุมาร และจอมยุทธ์กวง-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ย้อนไปเมื่อ 17 เม.ย.2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แต่งตั้งให้ สนธยา คุณปลื้ม เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, อิทธิพล คุณปลื้ม เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และสันติ กีระนันทน์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี รมว.อุตสาหกรรม
นี่คือก้าวแรกสู่ถนนการเมืองของสันติ หลังลาออกจากตำแหน่งรองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
สันติเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ในตลาดทุนมายาวนาน มีประสบการณ์ด้านตลาดหุ้น และตลาดตราสารหนี้
ผู้ที่ชักนำสันติเข้าสู่วงจรอำนาจยุค คสช. คงหนีไม่พ้น สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจสมัยนั้น
สมัยก่อการตั้งพรรคพลังประชารัฐ ผู้ที่ขับเคลื่อนเบื้องหลังการทำนโยบายพรรคชุดประชารัฐ ประกอบด้วย นฤมล ภิญโญสินวัฒน์, สันติ กีระนันท์ และ วิเชียร ชวลิต อดีตปลัดมหาดไทย
ไม่น่าแปลกที่จะเห็นรายชื่อของ นฤมล และสันติ อยู่ใน 10 อันดับแรกของผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (อันดับ 5 นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และอันดับ 6 สันติ กีระนันท์)
เวลานั้น พรรคพลังประชารัฐ อยู่ในมือจอมยุทธ์กวง โดยวางตัว อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค และ กอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค อันเป็นที่มาของ “กลุ่ม 4 กุมาร”
ก่อนพายุโควิดจะพัดผ่าน พรรคก้าวไกล เสนอญัตติตั้ง กมธ.ต้านรัฐประหาร ปรากฏว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่เอาด้วย ญัตติจึงคว่ำ เลยมีกระแสโจมตี ส.ส.ซีกรัฐบาลว่า ไม่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย เป็นทาสเผด็จการ
สันติ กีระนันทน์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวสะท้อนความคิดอ่านการเมืองของตัวเขาว่า "...ผมนิยามตัวเองเสมอว่า ผมเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ผมไม่ใช่นักการเมือง เพราะผมทำงานการเมืองเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติเท่านั้น แต่ผมไม่ได้เล่นการเมืองเพราะหวังอำนาจ"
"..ผมผ่านโลกนี้มาเกือบ 60 ปีแล้ว ผมผ่านรัฐประหารมามากกว่าผู้ที่แสดงความไม่พอใจและแสดงออกใน twitter และแม้กระทั่งผู้ที่อภิปรายในสภาฯ ในเรื่องนี้หลายคนครับ...นักการเมืองนั่นแหละครับที่ทำให้คนส่วนใหญ่สิ้นหวัง และหมดศรัทธากับเขาเหล่านั้น ในขณะที่เขาครองอำนาจการปกครองอยู่"
นับแต่กลุ่ม 4 กุมาร ถูกกันออกจากการบริหารพรรคพลังประชารัฐ สันติได้โพสต์แสดงความเห็นเชิงสัญลักษณ์หลายหน ประหนึ่งว่าสิ้นหวังกับ “การเมืองใหม่”