เปิดแผนลับ 3 ป. พลิกตำรารับมือคณะราษฎร
เปิดแผนลับ 3 ป. พลิกตำรารับมือคณะราษฎร
ทันทีที่มีการประกาศยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เมื่อเที่ยงของเมื่อวาน (22 ต.ค.63 ) เกมการเมืองก็พลิกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถูกใช้เป็น ”เงื่อนไข” ของฝ่ายม็อบคณะราษฎร ที่ให้เหตุผลมากมายว่าการใช้กฎหมายดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล กับการชุมนุมอย่างสันติ
ทำให้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กลายเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องใหม่ของกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะเดียวกันก็มีข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวอยู่ใน บก.ตชด.ภาค1 ด้วย
ฉะนั้นเมื่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นหนึ่งในเงื่อนไขข้อเรียกร้อง การที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศยกเลิก เท่ากับเป็นการตัดเงื่อนไขของกลุ่มผู้ชุมนุมทิ้งไป ประการต่อมา รัฐบาลอยากจะปล่อยผู้ชุมนุมทั้งหมด แต่ด้วยข้อกฎหมายการละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งโทษไม่หนัก ต้องส่งศาล และพอไปถึงศาล ศาลก็อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
หมายความว่าเงื่อนไขอีกข้อถูกตัดทิ้งไปอีก
ยุทธวิธีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่น้อง 3 ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์ ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เรียกว่าเป็นยุทธวิธีแบบ ลับ ลวง พราง ที่เคยใช้ในการศึกมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผนยึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แน่นอนว่ายี่ห้อ บูรพาพยัคฆ์ ไม่น่าจะทำให้กองทัพ และ ครม.ผิดหวัง เพราะมีการใช้ยุทธวิธีทางทหาร ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ทางการเมือง ที่ไฟเขียวให้เปิดสภาสมัยวิสามัญฯของรัฐบาล เป็นการพลิกเกมกลับมาเป็นต่อ
ด้วยการดึงเอาปัญหา ดึงเอาเงื่อนไขของม็อบที่ลงถนน เข้าไปว่ากันในที่ประชุมรัฐสภา โดยในที่ประชุมจะต้องมีพรรคฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทย และก้าวไกล รวมอยู่ด้วย
และด้วยจำนวนเสียงในสภาฝ่ายรัฐบาลมากกว่า การใช้สภาเพื่อแก้เกมการเมือง จึงเป็นความได้เปรียบของพรรครัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ที่ทั้งประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ก็ต้องเล่นตามเกมนี้
ไม่ว่าข้อเสนอของกลุ่มคณะราษฎร ทั้งแก้รัฐธรรมนูญ นายกฯลาออก ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ และการปฏิรูปสถาบัน เนื้อหาเหล่านี้จะถูกหยิบไปพูดในสภา และทางฝ่าย 3ป.จะเฝ้ามอนิเตอร์ว่า ส.ส.คนไหนพรรคไหน มีความเห็นต่อเรื่องเหล่านี้อย่างไร จะได้ใช้ยุทธวิธีทางทหาร บล็อกและประกบเป็นรายตัวไป
ซึ่งก็น่าเสียดายที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล และพรรณิการ์ วาณิช ไม่ได้เป็นส.ส.อยู่ในที่ประชุมด้วย
3ป. ต่างทราบดีว่า กำลังสู้กับนักรบไซเบอร์ ที่มี 1 หญิง 2 ชาย เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การมอนิเตอร์ของรัฐบาลและกองทัพ พอจะจับต้นชนปลายถูกแล้วว่า เกมจะเดินอย่างไร และต้องสกัดอย่างไร
ขณะที่ฝ่ายม็อบเล่นเกม “มวลชนดังผนังทองแดงกำแพงเหล็ก” ใช้เด็กนักเรียน นักศึกษา ออกหน้า รัฐบาลโดยพรรคพลังประชารัฐ ก็เล่นเกมนี้เหมือนกัน เพราะเมื่อมีการยกเลิกพรก.ฉุกเฉินฯแล้ว ทุกกลุ่มก็มีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมได้
เช่นนี้จึงมีคำสั่งจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คือ ป.ประวิตร ให้ส.ส.ของพรรคทุกเขตทุกจังหวัดจัดกิจกรรมเทิดทูนและปกป้องสถาบัน เอาให้เสื้อเหลืองพรึบทั้งแผ่นดิน โดยมี ป.ป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะ มท.1 อำนวยความสะดวกให้สส.ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด
ขณะที่ ป.ประยุทธ์ ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงกลาโหม คอยเป็นกำลังสำรอง คล้ายๆเป็นกองหนุนเติมคนเสื้อเหลืองให้เต็มพื้นที่ทุกจังหวัด แสดงพลังให้เห็นว่า คนที่ปกป้องสถาบัน มีมากกว่าผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงหรือปฏิรูปสถาบันเสียอีก
ดังนั้นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมตามข้อเรียกร้องของม็อบนั้น ไม่ใช่พล.อ.ประยุทธ์ ถอย แต่พล.อ.ประยุทธ์ และพี่น้อง 3ป. กำลังเล่นเกมลับลวงพราง ใช้ยุทธวิธีทางทหารและยุทธศาสตร์ทางการเมือง พลิกเกมกลับมาเป็นต่อกับกลุ่มผู้ชุมนุม
ตำราเล่มนี้จะเล่นไปเรื่อยๆจนกว่าจะเปิดสภาสมัยสามัญ และข้อเรียกร้องทั้งหมดจะถูกนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา รวมถึงเรื่องใหญ่คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากทุกอย่างถูกวางไว้ในสภาแล้ว แต่ม็อบคณะราษฎร ยังไม่ยอมหยุดลงถนน สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการด้อยค่า ทำให้ม็อบเสื่อมราคาลงเอง
โดยไม่จำเป็นต้องมีการปะทะหรือเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด