ดีใจก็ไม่ได้ ขำก็ขำไม่ออก 'เงิน1 บาท ต่อคนต่อวัน' สำหรับ 'อาหารกลางวัน' นักเรียน
30 ปี ของโครงการ 'อาหารกลางวัน' นักเรียน จาก 5 บาทถึง 21 บาท ในขณะที่สวัสดิการอื่นเกิดขึ้นมากมาย และจ่ายหนักจ่ายเต็ม ล่าสุด ครม.มีมติ เพิ่มเงินรายหัวค่าอาหารกลาวันนักเรียน คนละ 1 บาท ทำให้รู้สึกตื้นตันไปหมด ดีใจก็ไม่ได้ ขำก็ขำไม่ออก...โดยชัยวัฒน์ ปานนิล
ความเป็นมาของโครงการอาหารกลางวันนักเรียน เริ่มในปีงบประมาณ 2534 รัฐบาลในขณะนั้น ต้องการให้ความช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลนอาหารกลางวันให้รอดพ้นจากภาวะทุพโภชนาการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครม.เคาะแล้ว เด็กป.1-ป.6 ได้ค่า 'อาหารกลางวัน' เพิ่มอีก1บาท
จึงตราพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา พ.ศ. 2535 ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายสำหรับการสนับสนุนและช่วยเหลือภาวะโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา ในปีพ.ศ. 2536 การบริหารกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวัน
โดยกรรมการบริหารกองทุนได้กำหนดให้ได้รับเงินอุดหนุน อาหารกลางวันสำหรับนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการและนักเรียนที่ขาดแคลนอาหารกลางวัน โดยให้ได้รับ เงินอุดหนุน ปีการศึกษาละ 200 วันๆ ละ 5 บาทต่อคน
ต่อมาในปีการศึกษา 2542 เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 6 บาทต่อคน ทั้งนี้กำหนดให้รับนักเรียนที่อยู่ในภาวะทุพโภชนาการทุกคนเข้าโครงการก่อน หากมีส่วนที่เหลือจึงจัดให้ นักเรียนที่ขาดแคลนอาหารกลางวันเข้าสมทบจนครบเงินอุดหนุนอาหารกลางวันที่จัดให้แต่ละปี
ปีงบประมาณ 2544 กระทรวงศึกษาธิการ ได้ถ่ายโอนงบประมาณค่าอาหารกลางวันให้กระทรวงมหาดไทยตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมอบหมาย ให้โรงเรียนดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้กำกับดูแล
ปี พ.ศ. 2551 คณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้มีมติเห็นชอบให้เพิ่มเงินอุดหนุนสำหรับอาหารกลางวันนักเรียนระดับประถมศึกษาเป็นวันละ 10 บาทต่อคน และใน ปี พ.ศ.2552 ให้เพิ่มเป็นวันละ 13 บาทต่อคน ต่อมารัฐบาล ได้มี มติครม. เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 สนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนทุกคนในระดับอนุบาลและประถมศึกษาในอัตรา 20 บาทต่อคนต่อวัน โดยยังจัดสรรผ่าน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อโอนงบประมาณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและจัดสรรให้โรงเรียนดำเนินจัดอาหารกลางวันให้นักเรียน เช่นเดิม
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ประชุม ครม. เห็นชอบ ปรับค่าอาหารกลางวันนักเรียน เป็น 21 บาทต่อคนต่อวัน ในปีงบประมาณปี 2565 เป็นต้นไป งบประมาณ จำนวน 25,436 ล้านบาทเศษ แบ่งเป็นงบอุดหนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีงบประมาณเพิ่มจาก ปี 2564 จำนวน 823 ล้านบาทเศษ เพื่อจัดสรรให้เป็นค่าอาหารกลางวันของนักเรียนในระดับอนุบาลและประถมศึกษา
ระยะเวลา 30 ปี นับจาก ปี พ.ศ. 2534 ถึง ปี พ.ศ. 2564 งบประมาณรายหัวค่าอาหารกลางวันนักเรียนเริ่มต้นที่ 5 บาท ต่อวันต่อคน เพิ่มเป็น 21 บาทต่อวันต่อคน ในปัจจุบัน เทียบกับระยะเวลาที่ได้รับ 30 ปี เพิ่มมา 16 บาท คิดเฉลี่ยรัฐบาลเพิ่มงบประมาณค่าอาหารกลางวันนักเรียนให้ 50 สตางค์ ต่อคนต่อวัน ในระยะเลา 30 ปี
และขอเน้นย้ำให้เข้าใจว่า งบประมาณค่าอาหารกลางวันจัดให้เฉพาะนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการและนักเรียนที่ขาดแคลนอาหารกลางวัน ไม่ได้จัดให้ทุกคน และจัดให้เฉพาะนักเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาเท่านั้น ไม่ได้จัดให้นักเรียนทุกคน
เมื่อเทียบกับงบประมาณที่จัดให้สำหรับสวัสดิการของรัฐอื่น เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ค่าตอบแทน อสม. หรือโครงการสวัสดิการอื่นๆ ที่รัฐจัดให้สำหรับประชาชนหรือวัตถุประสงค์อื่นๆ งบประมาณอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนถือว่าน้อยมาก โดยเฉพาะ มติ ครม.
ล่าสุดเพิ่มให้อีกคนละ 1 บาท ต่อคนต่อวัน ในปี 2565 (ปีหน้า ไม่ได้รับทันที) เป็นคำถามสะท้อนกลับไปยังผู้บริหารและผู้รับผิดชอบ ไม่ได้ดูถูกเงินน้อยหรือหมิ่นค่าของเงิน 1 บาทซื้ออะไรได้บ้าง ไม่รู้จะดีใจหรือขำ กับนโยบายนี้ของรัฐบาล