ม็อบทิพย์'คน' หายไปไหน
ม็อบแผ่ว คนหายไปไหน สาเหตุมาจากเกิด "ม็อบผู้ใหญ่" กับ "ม็อบเด็ก" ต่างรุ่นต่างวิธีคิด
เหมือนจะหักปากกาเซียน เพราะเมื่อปลายปีที่แล้ว บรรดานักวิเคราะห์การเมือง และนักการข่าว ต่างฟันธงว่า ต้นปีนี้ ม็อบราษฎรจะแข็งแกร่ง และสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลประยุทธ์
ผ่านมา 2 เดือน ปรากฏว่า คนเกลียดรัฐบาลประยุทธ์ คนไม่พอใจระบอบเก่า ไม่ได้ลดจำนวน แต่ม็อบกลับมีคนร่วมน้อยลง
คนหายไปไหน? คนเบื่อม็อบ? อาจมาจากความขัดแย้งในฝ่ายประชาธิปไตย มีการทะเลาะเบาะแว้งเรื่องเงินบริจาค เรื่องทรยศหักหลัง และเวทีคลับเฮาส์ กลายเป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่
“บก.ลายจุด” หรือสมบัติ บุญงามอนงค์ ให้สัมภาษณ์สื่อออนไลน์เกี่ยวกับภาพรวมการชุมนุมของกลุ่มราษฎรว่า หลังแกนนำม็อบราษฎรหลายคนถูกคุมขัง จึงขอแนะให้มีการทบทวนรูปแบบ ปรับขบวนใหม่ รวมถึงต้องลดความเร่าร้อน และลดความถี่ในการจัดชุมนุม
ดูเหมือนว่า บก.ลายจุด จะให้ความสำคัญกับกลยุทธ์สันติวิธี และการทำงานแนวร่วม
ปีที่แล้ว ช่วงม็อบพีคๆ “บก.ลายจุด” มองเห็นจุดอ่อนบางประการ จึงเสนอว่า การยกระดับแม้สร้างแรงกดดันได้ แต่ถ้าทำลายแนวร่วมและทำลายความชอบธรรม จะเป็นการยกระดับที่นำไปสู่ความถดถอยและพ่ายแพ้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองในช่วงนี้ แยกออกเป็น 2 กลุ่มชัดเจนคือ ม็อบผู้ใหญ่ กับม็อบเด็ก
ม็อบผู้ใหญ่
กิจกรรม “เดินทะลุฟ้า” จากขอนแก่น ถึงกรุงเทพฯ ได้แปรสภาพเป็น “หมู่บ้านทะลุฟ้า” ปักหลักข้างทำเนียบรัฐบาล คู่กับ “หมู่บ้านบางกลอย” ไปจนกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลาออก และข้อเรียกร้องอื่นๆ ทั้งหมดจะบรรลุ
พูดง่ายๆว่า ม็อบทะลุฟ้า ที่กำเนิดมาจากเครือข่าย People Go Network เอ็นจีโอ, นักเคลื่อนไหวภาคประชาชน และนักวิชาการบางกลุ่ม ผนึกกำลังกลุ่ม Unme of anarchy วางยุทธศาสตร์ชุมนุมยืดเยื้อ เหมือนสมัยม็อบสมัชชาคนจน
ที่เรียกว่า “ม็อบผู้ใหญ่” เนื่องจากแกนนำหมู่บ้านทะลุฟ้า และหมู่บ้านบางกลอย เป็นเอ็นจีโอสายไม่เอาเผด็จการทหาร
หมู่บ้านทะลุฟ้าข้างทำเนียบ
ฉะนั้น ในวันที่มีการเดินทะลุฟ้า จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาทำเนียบรัฐบาล จึงได้ออกข้อตกลงขบวนทะลุฟ้าคือ เดินด้วยแนวทางสงบ ไม่ปะทะ ไม่ยั่วยุ ไม่พกพาอาวุธทุกชนิด ไม่ว่าจะพกติดตัว หรือพกไว้ในรถ
ที่สำคัญ ข้อตกลงในการปราศรัย เราจะปราศรัยในเชิงหลักการ ข้อมูลและข้อเท็จจริง โดยไม่ด่าทอหรือลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ เพราะเรากำลังต่อสู้กับโครงสร้างที่กดทับประชาชน
แม้จะมีกลุ่มอาชีวะไม่เอาเผด็จการ มาร่วมแจม แต่เจอข้อตกลงข้างต้น ก็งานกร่อย และไม่กล้าฝืนมติผู้ใหญ่ของ 2 หมู่บ้าน
ม็อบสองหมู่บ้าน
ม็อบเด็ก
กลุ่ม REDEM เกิดมาจากกลุ่มเยาวชนปลดแอกได้พูดคุยกัน และตัดสินใจเคลื่อนไหวที่มวลชนร่วมกันเป็นเจ้าของในชื่อ “REDEM-ประชาชนสร้างตัว” ซึ่ง REDEM ในที่นี้ย่อมาจาก RESTART DEMOCRACY สร้างประชาธิปไตยให้เกิดใหม่อีกครั้งไปด้วยกัน
มีคนเสนอว่า “ถ้าจะทำม็อบ REDEM ม็อบหน้าศาล แสดงความโกรธ ก็ทำไป แต่ในขณะเดียวกัน ควรถอยกลับไปทำม็อบในมหาวิทยาลัย ในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อดึงคนเข้าร่วมการชุมนุมโดยสงบให้มากที่สุด”
เหมือนเยาวชนซ้ายใหม่ จะไม่ฟังผู้ใหญ่พูด เพราะพวกเขาเชื่อว่า “ถ้าต้องการกอบกู้ประชาธิปไตยกลับมา การปฏิวัติโดยประชาชนเท่านั้นที่จะสามารถกอบกู้เศษซากของประชาธิปไตยในไทยได้”
การที่เพื่อนถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ กระตุ้นพวกเขาให้โกรธแค้น และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่ “แรง” และท้าทาย
ล่าสุดผลโหวต REDEM จาก 11,745 เสียงเลือกชุมนุมใหญ่ 20 มี.ค.2564 โดยรายละเอียดของการชุมนุม คงมีการแจ้งในสัปดาห์หน้านี้
ม็อบรีเด็ม ได้ก้าวข้ามประยุทธ์ไปแล้ว พวกเขามีข้อเรียกร้องเดียว และจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้ ต้องก่อการปฏิวัติโดยประชาชนเท่านั้น
ม็อบรีเด็ม นัดหมาย 20 มี.ค.2564