คอลัมนิสต์

หลอกแล้วหลอกอีก เลื่อนแล้วเลื่อนอีก สุดท้ายไม่มีทั้ง "วัคซีน-เปิดเทอม"

หลอกแล้วหลอกอีก เลื่อนแล้วเลื่อนอีก สุดท้ายไม่มีทั้ง "วัคซีน-เปิดเทอม"

29 พ.ค. 2564

อ้างเลื่อนเปิดเทอมออกไป เพราะครูต้องฉีดวัคซีนโควิด19 สุดท้าย"วัคซีนทิพย์" ครูฝันสลาย บทวิเคราะห์ ชัยวัฒน์ ปานนิล

จึงต้องเลื่อนการเปิดภาคเรียนออกไป เพื่อความปลอดภัยและระวังป้องกันนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ไม่ต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อโควิด 19 และเพื่อให้มีระยะเวลารับการฉีดวัคซีนของครูและบุคลากรทางการศึกษา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หลอกครูและคนทั้งประเทศ 'เลื่อนการเปิดเทอมทิพย์' อีกแล้ว

ดูเหมือนว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวย้ำเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564  อ้างศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ได้รับทราบให้สถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จากวันที่ 1 มิถุนายน ออกไปอีก เป็นวันที่ 14 มิถุนายน 2564

 

ตามที่ ศธ.เสนอ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ยังมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จึงต้องเลื่อนการเปิดเทอมออกไป เพื่อความปลอดภัยและระวังป้องกันนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ไม่ต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อโควิด 19 และเพื่อให้มีระยะเวลารับการฉีดวัคซีนของครูและบุคลากรทางการศึกษา และรองรับการย้ายสถานศึกษาของนักเรียนในแต่ละช่วงชั้น


ก่อนหน้า เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ณ ห้องประชุมจันทรเกษม นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตอบคำถามสื่อมวลชนภายหลังแถลงข่าว ถึงความคืบหน้าการเตรียมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่าขณะนี้ ศธ.ยังกำหนดให้มีการเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2564 ในวันอังคารที่ 1 มิ.ย.นี้ แต่ยังมีความกังวล

 

เนื่องจาก ศธ.มีนักเรียนนักศึกษาในสังกัดจำนวนมากกว่า 8 ล้านคน ทำให้ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่อาจได้รับเชื้อโควิด 19 จึงพยายามผลักดันให้ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา ทุกคน ทุกสังกัด ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันก่อนเปิดภาคเรียน


เนื่องจากครูต้องใกล้ชิดกับนักเรียนจำนวนมาก และยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปกครอง เมื่อเปิดภาคเรียนใหม่ จะสามารถลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อโควิด 19 ได้ระดับหนึ่ง อีกทั้งยังให้ความมั่นใจได้ว่า โรงเรียนมีมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพ ซึ่งขณะนี้ ศธ.ได้เสนอมาตรการดังกล่าวให้ ศบค.ชุดเล็ก พิจารณา และผ่านการเห็นชอบแล้ว

ศธ.กำลังรวบรวมรายชื่อครูทุกอำเภอ ทุกสังกัด ส่งให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดสรรวัคซีนให้ครูทั้ง 6 แสนกว่าคน คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จเร็วๆนี้ เพื่อพร้อมสำหรับการทยอยฉีดให้ทันก่อนการเปิดภาคเรียน (กำหนดเดิม วันที่ 1 มิถุนายน 2564)

หลอกแล้วหลอกอีก เลื่อนแล้วเลื่อนอีก สุดท้ายไม่มีทั้งวัคซีนและความหวังที่จะเปิดเรียน

หากนับตามเวลาจริง สมมุติว่า ครูทุกคนได้รับวัคซีนเข็มแรกในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 นับไปอีก 2-4 สัปดาห์ ก็จะได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 และหลังจากรับวัคซีนครบแล้ว ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการสร้างภูมิคุ้มกันล

 

เพราะฉะนั้น ครูที่ได้รับวัคซีนในวันที่ 1 มิถุนายน จะสามารถมีภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด คือ 45 วัน หรือเดือนครึ่ง นับตามปฏิทิน คือ กลางเดือนกรกฎาคม จึงจะเป็นไปตามเงื่อนไข และสามารถเปิดเรียนได้อย่างปลอดภัย

 

แต่ปัญหามีอยู่ว่า หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ดำเนินการรวบรวมข้อมูลครู เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ยังไม่ปรากฏแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนให้กับครู ว่าต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

 

หลอกให้รอ หลอกให้หวัง แถมยังมีข่าว รัฐบาล ชะลอการใช้งาน “หมอพร้อม” ยิ่งไปกันใหญ่ ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้าก็หาย ที่ลงทะเบียนใหม่ก็ไม่เห็นอนาคต แล้วเด็กๆจะได้เปิดเทอมมาพบเพื่อนๆไหมหนอ