คอลัมนิสต์

บุรีรัมย์สะดุ้ง 'รวมไทยสร้างชาติ'

บุรีรัมย์สะดุ้ง 'รวมไทยสร้างชาติ'

30 พ.ค. 2564

ส่งสัญญาณชัด ไม่เอา "บิ๊ก ป." เขย่ากันเห็นๆ ไม่ต้องเกรงใจกันอีกแล้ว

++

เหมือนได้กลิ่นยุบสภา อยู่มาวันหนึ่ง สื่อสายโรงโม่ ก็จุดพลุเรื่อง “รวมไทยสร้างชาติ” เพื่อโยงไปหา “บิ๊ก ป.” ผู้คุมมหาดไทย

มิหนำซ้ำ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ผู้ที่ไม่ขานชื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มาเล่นเรื่อง “บิ๊ก ป.” กับการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ด้วย

จริงๆแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติ ถูกโจษขานมานานแล้วว่า เป็นพรรคสำรอง ของผู้ถืออำนาจในปัจจุบัน มีการวิเคราะห์เจาะลึกถึง “ปลัดคนดัง” ที่ถูกวางตัวเป็นหัวหน้าพรรค

แปลกที่ “บ้านใหญ่โรงโม่” ให้ความสำคัญกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งที่พรรคนี้เพิ่งจดทะเบียน และยังไม่เปิดโฉมหน้าคณะกรรมการบริหารพรรคตัวจริง แต่ดูเหมือนว่า หลายคนจะหวาดกลัวพรรคนี้ไปเสียแล้ว

ช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ พรรคภูมิใจไทย ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงสำคัญในฐานะรัฐมนตรีว่าการได้แก่ กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคม

ห้วงเวลานั้น ความสัมพันธ์ระหว่าง เนวิน ชิดชอบ กับพี่น้อง 3 ป. มีความสัมพันธ์แนบแน่นและซื้อใจกันในวันที่ต้องฝ่าด่าน “คนเสื้อแดง” และเครือข่ายคนแดนไกล

วันนี้ กลับมีสุ้มเสียงแปลกแปร่งต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และสองพี่ใหญ่ ผ่านกระบอกเสียงในเครือข่ายอีสานใต้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรวบอำนาจ การทำงานแบบวันแมนโชว์ ของ “บิ๊กตู่” 

อย่างไรก็ตาม พรรคภูมิใจไทย ไม่กล้าแตกหักกับ “3 ป.” ในเวลานี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ยืดเยื้อ ไม่ได้เป็นแต้มบวกแก่ “อนุทิน” ในฐานะรัฐมนตรีสาธารณสุข ขณะที่ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เจอปัญหาคลัสเตอร์ทองหล่อ ก็ถึงกับไปลำบาก

การเลือกตั้งปี 2562 ค่ายสีน้ำเงิน ยังอาศัยนโยบายกัญชาหาเสียง ได้รับความนิยมระดับหนึ่ง แต่หากมีเลือกตั้งใหม่ ยังไม่เห็นว่า พรรคนี้มีจุดขายใหม่ๆอะไร?

พรรคภูมิใจไทย เพิ่งมาอายุได้ 13 ปี เริ่มจากคนของสมศักดิ์ เทพสุทิน ไปจดทะเบียนพรรคไว้ตั้งแต่ปี 2551 ก่อนจะเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรคใหม่ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค และพรทิวา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค 

ระยะ 3-4 ปีแรกของภูมิใจไทยคือ พรรคท้องถิ่น พรรคไฟท์เตอร์ ชักธงรบกับคนเสื้อแดง ไม่ประสบความสำเร็จ “เนวิน” จึงรื้อพรรคใหม่ ให้ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค ลดการเผชิญหน้ากับ “นายเก่า”

บุรีรัมย์สะดุ้ง \'รวมไทยสร้างชาติ\'

                       เนวิน และเสี่ยหนู จะขายนโยบายกัญชาอีกมั้ย

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
หมอพัง "หนู-โอ๋" ถอย พปชร.รุกชิงมวลชน

++
ยุคหนูซิ่ง
++

การเข้ามาของอนุทิน ก็เพื่อจะปรับภาพลักษณ์จาก “พรรคสีน้ำเงิน” หรือพรรคขั้วสี ให้เป็นพรรคขนาดกลางที่ปรองดองกับทุกฝ่าย โดยอาศัยบุคลิกแบบ “หนูดิ้นได้” เป็นตัวชูโรง 

สังเกตได้จากช่วงปี 2561 เสี่ยหนูเริ่มออกอีเวนท์กับเสี่ยทอม เครือโสภณ ขายแนวคิดการเมืองสไตล์คนรุ่นใหม่ รวมถึงมีสำนักข่าวส่วนตัว ที่ได้นักวิชาการ และคนทำทีวีจอแดงมาช่วยโปรโมตเสี่ยหนูอีกแรง บวกกับ เนวิน ชิดชอบ ลุยตลาดฟุตบอล และอีสปอร์ต ก็เข้าไปอยู่ในหัวใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบกีฬา

ภาพพรรคไฟท์เตอร์ชนกับเพื่อไทยทุกสนามได้เจือจางลง กลายเป็นพรรครวมคนทุกรุ่นทุกสี ไม่มีได้ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับเครือข่าย “คนแดนไกล

ว่ากันตามจริง กติกาเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้เอื้อแค่พรรคเล็กเท่านั้น พรรคขนาดกลางอย่างภูมิใจไทย ก็ได้อานิสงส์ ทุกคะแนนไม่ตกน้ำ เพียงผู้สมัคร ส.ส.เขต ทำแต้มให้ได้ถึง 1-2 หมื่นแต้มต่อเขต ก็ส่งผลดีต่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค

สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ทราบว่า จะมีการแก้ไขกติกาหรือไม่? หากไปยึดตามแนวรัฐธรรมนูญ 2540 บัตร 2 ใบ พรรคภูมิใจไทยก็เสียเปรียบ

ดังนั้น เมื่อมีข่าวเรื่องพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่รวบรวมผู้คนไว้ทุกสี จะเปิดตัวลงสนาม ก็ทำให้ค่ายบุรีรัมย์หวั่นไหว แถมมีข่าวลือว่า คนเด่นคนดังที่เตรียมจะไปสมัครผู้ว่าฯ กทม. อาจเปลี่ยนใจมาเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

เลือกตั้งสมัยหน้า อาจเป็นปลายปีหรือต้นปีหน้า ภูมิใจไทยจะเจอคู่แข่งที่สำคัญอย่างรวมไทยสร้างชาติ ด้วยเหตุนี้ ปฏิบัติการแฉ “บิ๊ก ป.” กับรวมไทยสร้างชาติ จึงอุบัติขึ้น

บุรีรัมย์สะดุ้ง \'รวมไทยสร้างชาติ\'

                         เสี่ยโอ๋กับเสี่ยหนู แกนหลักของค่ายบุรีรัมย์