ไล่ประยุทธ์"กวิ้น" ปาดหน้า "ตู่"
ม็อบราษฎรเคลื่อนแล้ว "เพนกวิน" ลงถนนอีกครั้ง เฉพาะหน้าขอไล่ประยุทธ์ คอลัมน์ .. ท่องยุทธภพ โดย .. ขุนน้ำหมึก
ประเทศไทย เผชิญหน้าสงครามโควิด สงครามโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุวันละ 4 - 5 พันคน และมีผู้เสียชีวิตสะสมเกิน 2 พันคนแล้ว ส่งสัญญาณระบบสาธารณสุขใกล้ล่ม โรงพยาบาลล้น ห้องไอซียูเต็ม โรงพยาบาลสนามแน่น และ ต้องให้คนป่วยนอนรักษาตัวเองอยู่กับบ้าน
ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด เสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลประยุทธ์ดังกระหึ่ม จับกระแสอารมณ์ผู้คนในโซเชียล เหมือนว่าพวกเขาจะหมดความอดทน และไม่นำพาต่อมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ เกี่ยวกับการปิดแคมป์ และห้ามคนนั่งกินอาหารในร้าน ด้วยเหตุนี้ “บะหมี่” ประภาวี เหมทัศน์ ตัวแทนสมาคมคราฟต์เบียร์ ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายเครื่องดื่ม จึงเปิดตัวแคมเปญ “#กูจะเปิดมึงจะทำไม” เพื่อคัดค้านมาตรการของ ศบค. ที่ห้ามร้านอาหารและเครื่องดื่มให้ลูกค้านั่งรับประทานในร้าน
“บะหมี่” ได้รวบรวมร้านต่างๆ ที่ต้องการเข้าร่วมแคมเปญ #กูจะเปิดมึงจะทำไม และกำหนดกิจกรรมระยะแรก เปิดร้านเล่นดนตรีแบบ Flashmob ดาวกระจาย และระยะต่อไปคือ ลงถนน
แสดงว่าในระยะใกล้นี้ รัฐบาลประยุทธ์กำลังจะเจออารยะขัดขืนจาก “ผู้ประกอบการร้านอาหาร” ที่อาจยกระดับไปสู่การ “ไล่ประยุทธ์” ก็เป็นได้ อีกด้านหนึ่ง ผู้ประกอบร้านอาหารจำนวนไม่น้อยที่ยินดีจะปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ และรับความช่วยเหลือที่ได้ออกมาตรการเยียวยา ทั้งพนักงานและเจ้าของร้านมาแล้ว
ตลาดราษฎร
เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 แอดมินเพจกลุ่มราษฎร ได้แจ้งข่าวว่า “...ไม่มีเหตุผลที่จะอดทนอีกต่อไป ลุกขึ้นมาไล่ประยุทธ์และองคาพยพเผด็จการด้วยกัน วันที่ 2 ก.ค.2564 นี้ เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป เราจะไปเปิดตลาดนัดกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ใครใคร่ค้ามาค้า ใครใคร่ขายมาขาย ใครใคร่ไล่เผด็จการมาเจอกัน”
ก่อนหน้านี้ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ประกาศเชิญชวนล่วงหน้า ศุกร์นี้ ผมและเพื่อน ๆ จะไปไล่ประยุทธ์ จึงขอเชิญชวนพี่น้องราษฎรทุกคนมาไล่ประยุทธ์ด้วยกัน..พ่อค้าแม่ขายที่เดือดร้อนจากการทำงานของรัฐบาลนี้ โปรดเตรียมของมาเปิดตลาดขายกันโดยพร้อมเพรียง”
เพนกวิน นัดเปิดตลาดราษฎร
อานนท์ นำภา, “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และไผ่ ดาวดิน ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กทำนองชักชวนให้แนวร่วมราษฎรมาร่วมไล่ประยุทธ์กันอย่างจริงจัง พูดง่ายๆ ยุทธวิธีเฉพาะหน้าขับไล่รัฐบาลประยุทธ์ โดยไม่ทิ้งยุทธศาสตร์ทะลุเพดาน
“ตู่” ไหวมั้ย
กลุ่มไทยไม่ทน ได้ขยับ “ม็อบไล่ประยุทธ์” มาสองรอบแล้ว แต่ก็เรียกคนให้ไปชุมนุมได้ไม่มากเท่าที่ควร “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ จึงนัดใหม่อีกครั้งตอนเย็นวันเสาร์ที่ 3 ก.ค.2564 ที่สะพานผ่านฟ้า แล้วเดินขบวนไปทำเนียบรัฐบาล
แกนนำกลุ่มไทยไม่ทน ประกาศไปแล้วว่า จะนัดชุมนุมทุกวันเสาร์ และยาวไป 3 เดือน “จตุพร” ประเมินว่า มวลชนที่เข้าร่วมชุมนุมจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จากหลักร้อย อาจทะลุหลักหมื่น เพราะกระแสความไม่พอใจของประชาชน นับวันยิ่งเพิ่มทวีขึ้น
กลุ่มไทยไม่ทน ยังเดินหน้าจัดม็อบ แม้คนเข้าร่วมยังไม่มาก
ปฏิกิริยาของผู้คนที่มีต่อคำพูด “นะจ๊ะ” บวกกับอาการเริงร่าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดูจะทำให้ภาพลักษณ์ผู้นำติดลบ มีเสียงวิพากษ์รุนแรงและขยายวงกว้าง เหมือนประกายไฟไหม้ลามทุ่ง แกนนำกลุ่มไทยไม่ทน จึงเชื่อว่า จำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมวันเสาร์นี้ จะเพิ่มขึ้นกว่า 2 ครั้งที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของกลุ่มไทยไม่ทนคือ “แกนนำ” ล้วนเป็นคนหน้าเดิมๆ ที่เคยผ่านเวทีเสื้อเหลือง และเวทีเสื้อแดง จึงทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ขานรับ เหมือนว่า เวลาของแกนนำเหล่านี้ได้ล่วงเลยไปแล้ว
การต่อสู้บนท้องถนนในวันนี้ เป็นเรื่องของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ดังที่ “เต้น”ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จับทางได้ จึงขอโหนม็อบเด็ก มากกว่าจะทำม็อบแข่งกับเด็ก