ม็อบผลัดใบ สิ้นยุค "ตู่-เต้น"
ม็อบ 18 กรกฎา ได้เวลา "ตู่-เต้น" พักผ่อน ม็อบสามนิ้วรุกปลุกทวง "วัคซีนฟรี" คอลัมน์ .. ท่องยุทธภพ โดย .. ขุนน้ำหมึก
คาร์ม็อบ ยกที่ 2 นำโดย บก.ลายจุด มีความคึกคัก และได้รับความสนใจจากสื่อมากพอควร แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค.2564 “เจ๋ง ดอกจิก” และไทกร พลสุวรรณ ได้นำคณะไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย เปิดเวทีปราศรัยไล่ประยุทธ์ ที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ทำเนียบรัฐบาล กลับเงียบเหงากว่าทุกครั้ง
หลังยุติการชุมนุม “ไทกร” บอกกับสื่อว่า ช่วงรัฐบาลล็อกดาวน์ ทางกลุ่มไทยไม่ทนจะขอปรับรูปแบบการกิจกรรมใหม่ อาจจัดปราศรัยออนไลน์เหมือนที่ผ่านมา จะว่าไปแล้ว นับแต่ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ นำคณะไทยไม่ทน จัดการชุมนุมมวลชน ตั้งแต่สวนพฤษภาประชาธรรม จนมาถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล ก็มีคนเสื้อแดงเข้าร่วมหลักร้อย เหมือนยุคทองของ นปช.จะผ่านพ้นไปแล้ว หากส่องในโซเชียล ก็จะพบว่า มีแต่เสียงขับไล่ประยุทธ์ และแทบจะเป็นฉันทามติของคนไทยทั้งประเทศ เมื่อตัดกลับมาที่เวทีม็อบไทยไม่ทน เห็นแต่ภาพผู้คนโหรงเหรง ดังนั้น แกนนำม็อบไทยไม่ทน ที่มีทั้งแดงและเหลือง อาจจะต้องทบทวนตัวเอง และหันมาประเมินสถานการณ์ใหม่ว่า ยังใช่เวลาของแกนนำรุ่นเก่าอยู่อีกหรือไม่?
แกนนำไทยไม่ทน ในวันที่ไม่มี “ตู่ จตุพร”
ฟัง ‘เต้น’ พูด
“เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. เคยให้สัมภาษณ์สื่อออนไลน์สำนักหนึ่งว่า ยุคสมัยต่างกัน ระหว่างการต่อสู้ของคนเสื้อแดงกับคนหนุ่มสาวในวันนี้ ฉะนั้น เขาจึงไม่เข้าไปแสดงบทบาทนำอะไรในการเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎรหรือกลุ่มอื่น “มันเป็นคนละยุคสมัยกันแล้ว ผมไม่เคยคิดที่จะหยุดต่อสู้ แต่การจะกลับไปบนถนนหรือเวที ขอให้สถานการณ์เป็นตัวกำหนด ผมไม่ได้แทงกั๊กหรือเล่นตัว แต่มันเป็นเรื่องของยุคสมัย”
ขณะที่ “ตู่” ยังเชื่อมั่นในแนวคิดเดิมๆ จึงออกปากวิจารณ์แนวทางการเคลื่อนไหวของ “ม็อบสามนิ้ว” ในช่วงแรกๆ จึงถูกแกนนำเยาวชนคนรุ่นใหม่ ตอบโต้อย่างดุเดือด แถมระแวงแคลงใจว่า “ตู่” เปลี่ยนจุดยืนอุดมการณ์ไปแล้ว
“ตอนนี้องค์กรนำของเราก็ไม่ได้มีสภาพเหมือนเดิม ทุกวันนี้ก็ยังมีคนเสื้อแดงร่วมต่อสู้อยู่ด้วย โดยไม่ได้หยุดไปพร้อมกับ นปช. ทุกคนสามารถเลือกการเคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้” เต้นเข้าใจสภาพความเป็นจริงของ นปช. ได้เวลาที่พลพรรค “ตู่” ต้องถอยออกไป เพื่อเปิดทางให้คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ได้เปิดเวทีการแสดงอย่างเต็มรูปแบบ
ม็อบยุคดิจิตอล
ไม่มีใครปฏิเสธว่า เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ และโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้การเคลื่อนไหวทางการเมืองของเยาวชนคนหนุ่มสาว มีความหลากหลายในกลยุทธ์การต่อสู้ ทั้งบนท้องถนน และโลกออนไลน์
ดังนั้น การเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้วในช่วงแรกๆ จึงมีพลังและทำให้รัฐบาลจะจัดการอะไรก็ทำได้ยาก แต่เมื่อแกนนำบางกลุ่มพยายามจะยกระดับ จึงเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ก็ทำให้ภาพการชุมนุมติดลบ แถมเจองานการข่าวของฝ่ายความมั่นคง ขบวนม็อบสามนิ้วก็ป่วนไปพักใหญ่ประกอบกับแกนนำอย่างเพนกวิน, รุ้ง, ไมค์ ,ไผ่ และทนายอานนท์ ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ จึงมีเสียงสะท้อนว่า “ม็อบถอย ม็อบแผ่ว”
ชั่วโมงนี้ แกนนำสามนิ้ว ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว การชุมนุมรำลึก 24 มิ.ย.2564 ก็เป็นการทดสอบปฏิกิริยาจากฝ่ายความมั่นคง วันที่ 18 ก.ค.2564 คณะราษฎร ,เยาวชนปลดแอก ,การ์ดวีโว่ และแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้นัดหมายชุมนุม “ไล่ประยุทธ์” ครั้งใหญ่ ดูเหมือนว่า ครั้งนี้จะมี “องค์กรนำ” หนึ่งเดียว
ม็อบ 18 กรกฎา ชูทวงวัคซีนฟรี
การปักธงไล่ประยุทธ์ให้จบภายในปีนี้ จึงเป็นยุทธศาสตร์เฉพาะหน้าของเยาวชนคนรุ่นใหม่ทุกกลุ่ม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :