คอลัมนิสต์

แก้ รธน. “พรรคก้าวไกล” เสี่ยงสูง พรรคใหญ่ยึดบัตร 2 ใบ

แก้ รธน. “พรรคก้าวไกล” เสี่ยงสูง พรรคใหญ่ยึดบัตร 2 ใบ

23 ส.ค. 2564

ศึกแก้รัฐธรรมนูญ “พรรคก้าวไกล” ขวางสุดฤทธิ์ ต้าน 2 พรรคใหญ่ยึดบัตร 2 ใบ ขวางยึดสภาฯ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ศึกงบประมาณผ่านพ้นไปแล้ว ก็ถึงคิวแก้รัฐธรรมนูญ ช่วงเวลาวันที่ 24-25 ส.ค.2564 จะมีการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ฉบับที่.…พ.ศ.… (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง ส.ส.) ซึ่งเป็นการพิจารณาในวาระ 2

 

ในร่างดังกล่าว ได้เสนอแก้ไขเป็นระบบบัตรเลือกตั้งสองใบ แยกคะแนน “ส.ส.เขต” กับ “บัญชีรายชื่อ” รวมถึงแก้ไขจำนวนและที่มาของ ส.ส.จากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่ให้มี ส.ส.เขต 350 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน ก็มีการแก้ไขให้มี ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน

 

ถ้าจำกันได้ การแก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยระบบเลือกตั้ง ทำให้เกิดรอยร้าวในฝ่ายค้าน เมื่อพรรคเพื่อไทย เดินหน้าขอแก้เป็น “บัตร 2 ใบ” เหมือนรัฐธรรมนูญ 2540 แต่"พรรคก้าวไกล" ก็ค้านหัวชนฝา ขอเป็นบัตรใบเดียวเหมือนเดิม

 

ที่แปลกคือ ในชั้นกรรมาธิการฯ ส.ส.เพื่อไทย และพลังประชารัฐ สุมหัวแก้ระบบเลือกตั้ง ราวกับอยู่ฝ่ายเดียวกัน ด้านพรรคประชาธิปัตย์ ตัวชงเรื่อง กลับเล่นตามน้ำ

 

พูดตรงๆ พรรคของทักษิณ ชินวัตร ประสบความสำเร็จอย่างสูง จากกติกาเลือกตั้ง “บัตร 2 ใบ” (เลือกคนและเลือกพรรค) เลือกตั้ง 6 ก.พ.2548 พรรคไทยรักไทย ได้ ส.ส.เขต 310 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 67 คน รวม 377 คน เป็นรัฐบาลพรรคเดียว

แก้ รธน. “พรรคก้าวไกล” เสี่ยงสูง พรรคใหญ่ยึดบัตร 2 ใบ

พิธา ยังไม่ป็อบปูลาร์เท่า ธนาธร

มาวันนี้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล วัดกันที่ตัวบุคคล เรตติ้งยังต่ำ ถ้าเทียบกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ก็ยังห่างกันไกล

 

++

เลือกระบบเยอรมัน

++

ดังที่ทราบกัน ส่วนพรรคอนาคตใหม่(พรรคก้าวไกล) ได้ประโยชน์จากระบบเลือกตั้งจัดสรรปันส่วนผสม(บัตรใบเดียว) ตามสูตรของ มีชัย ฤชุพันธ์

 

ซึ่งผลการเลือกตั้งปี 2562 พรรคก้าวไกล ได้ 6,265,950 คะแนน แยกเป็น ส.ส.เขต 31 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 50 คน ขณะที่พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แม้แต่คนเดียว

ในชั้นกรรมาธิการฯ ส.ส. พรรคก้าวไกล เสนอวิธีการคำนวณหาจำนวนที่นั่ง ส.ส.ของแต่ละพรรคการเมืองตามระบบเลือกตั้งแบบเยอรมันหรือระบบสัดส่วนผสม (MMP) แต่ไม่สำเร็จ เพราะ กมธ.เสียงส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย แต่ กมธ.ของพรรคก้าวไกล ก็สงวนความเห็นไว้ เพื่อมาอภิปรายในวาระ 2

แก้ รธน. “พรรคก้าวไกล” เสี่ยงสูง พรรคใหญ่ยึดบัตร 2 ใบ

ระบบเลือกตั้งแบบเยอรมัน ที่พรรคก้าวไกล ภูมิใจเสนอ

ระบบเลือกตั้งแบบเยอรมันหรือระบบสัดส่วนผสม (Mixed Member Proportional-MMP) ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดยแยกเป็นบัตรเลือก ส.ส. เขต และเลือกพรรค (ส.ส.บัญชีรายชื่อ) ซึ่งคะแนนของบัตรเลือกพรรคการเมืองนั้น จะถูกนำมาใช้เพื่อคำนวนเป็นจำนวน ส.ส.พึงมีของพรรคการเมือง คล้ายระบบจัดสรรปันส่วนผสมของมีชัย

 

ถ้าเอาตามระบบ MMP พรรคก้าวไกล ที่ไม่แข็งแกร่งในระบบ ส.ส.เขต ก็ยังพอหายใจได้บ้างกับการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบจัดสรรปันส่วนผสม

 

++

จุดอ่อนก้าวไกล

++

หากย้อนไปดูผลการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2562 ผลคะแนนป็อบปูลาร์โหวต พรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตใหม่(พรรคก้าวไกล) ตัวเลขใกล้เคียงกันมาก แต่พรรคหนึ่งไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว อีกพรรคหนึ่งได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 50 คน

 

เมื่อสแกน ส.ส.เขต ของพรรคอนาคตใหม่ แยกเป็น ส.ส.กรุงเทพฯ 9 คน , ส.ส.ภาคกลาง 6 คน ,ส.ส.ภาคตะวันออก 9 คน ,ส.ส.ภาคอีสาน 1 คน และ ส.ส.ภาคเหนือ 6 คน

 

ชัยชนะของ ส.ส.เขต ของพรรคสีส้ม ส่วนใหญ่มาจากกรณีพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ ส่งผลให้ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ดังนั้น เอฟซีทักษิณจึงเทคะแนนมาที่พรรคอนาคตใหม่

 

ที่น่าสนใจ จำนวน ส.ส.เขตของพรรคก้าวไกลในวันนี้ จาก 31 คน เหลืออยู่เพียง 12 คน และในนี้ 8 คน เป็น ส.ส.กทม. ส่วนใหญ่ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ยกเว้นเขต 5 นครปฐม ที่มีการเลือกตั้งใหม่ และพรรคก้าวไกลก็พ่ายแพ้

 

สาเหตุหนึ่งที่ ส.ส.เขตเหล่านั้น ตัดสินใจไม่ไปต่อกับพรรคก้าวไกล เพราะประเมินดูแล้ว การเลือกตั้งสมัยหน้า ยากที่ค่ายสีส้มจะปักธงในพื้นที่ได้ เนื่องจากพรรคเพื่อไทย ส่งสัญญาณส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทุกเขตทั้งประเทศ ไม่เว้นให้พรรคใดพรรคหนึ่ง

 

พฤติกรรมของผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งในต่างจังหวัด ยังไว้เนื้อเชื่อใจ “นักเลือกตั้ง” ในระบบอุปถัมภ์ ซึ่งคณะก้าวหน้าของ “ธนาธร-ปิยบุตร” ก็ได้บทเรียนมาแล้ว จากการเลือกตั้งนายก อบจ.เมื่อปลายปี 2563 ปรากฏว่า แพ้ราบคาบ

 

ฉะนั้น อิทธิฤทธิ์บัตร 2 ใบตามสูตร 2540 อาจทำให้ค่ายสีส้ม ไม่ได้ ส.ส.แม้แต่คนเดียว ทั้งที่ป็อปปูลาร์โหวต 6-7 ล้านเสียง