จากผู้ร้าย กลายเป็นฮีโร่ ? "ผู้กำกับโจ้" พลิกเกมสู้
การแถลงข่าวรับมอบตัว "ผู้กำกับโจ้" ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการจัดฉากหรือไม่ ทำไมมีอภิสิทธิ์ได้ชี้แจงข้อกล่าวหา
หลังปล่อยให้สื่อซักไซ้ผู้ต้องหาหลายนาที พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ก็ตัดบท งดคำถาม เพราะเกรงจะกระทบรูปคดี การปล่อยผู้กำกับโจ้ แจงรายละเอียดของการก่อคดี นอกจากจะถูกตั้งคำถามในโลกออนไลน์ ยังถูกตั้งคำถามจาก ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง รองคณบดีฝ่ายบริหาร สถาบันรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ทำไมผู้ต้องหารายนี้จึงมีอภิสิทธิ์ชี้แจงความิดที่ตัวเองก่อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ผู้กำกับโจ้" เครียดเกือบคิดสั้นดิ่งตึกจบชีวิต ก่อนตัดสินใจมอบตัว
เปิดเส้นทางหลบหนี "ผู้กำกับโจ้" สุดระทึกทีมจับ ไล่ล่ากระชั้นชิด
เกิดผล แก้วเกิด ทนายความมองว่า การชี้แจงของผู้ต้องหา ไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีเป็นเพียงความพยายามชี้ให้เห็นแนวทางการต่อสู้คดี ว่าเป็นความพยายามทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนาทำให้ผู้เสียหายเสียชีวิต ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา เพราะหากศาลเห็นว่าเป็นเรื่องของความประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อัตราโทษจำคุกไม่เกินสิบปี ขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณาโทษเท่าไร นอกจากนี้ยังสามารถรอลงอาญาได้ รอการลงโทษได้ และอาจไม่ต้องออกจากราชการ แต่หากเป็นทนายฝ่ายผู้เสียหาย ก็ต้องพยายามหาหลักฐานชี้ใหเห็นว่ามีเจตนาฆ่า หรือมีเจตนาเล็งเห็นผล เพราะเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ย่อมรู้ผลจากการกระทำของตนเอง และแนวทางนี้ น่าจะเป็นแนวทางของพนักงานสอบสวนด้วยเช่นเดียวกันแต่ก็มีคำเตือนจากนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติอดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทนายเตือนตำรวจว่าอย่าทำงานตามกระแส แต่ต้องสอบสวนให้สิ้นข้อสงสัย เพราะคดีอาจพลิกได้ คดีผู้กำกับโจ้ ยังมีคำถามถึงกระบวนชันสูตร ของแพทย์นิติเวช เรื่องการออกใบรับรองการตายว่ามีขบวนการขั้นตอนอย่างไร ส่งผลต่อรูปคดีหรือไม่ เรื่องนี้ได้รับคำอธิบายในเบื้องต้นว่า เมื่อศาลพิจารณา ศาลจะฟังจากปากคำแพทย์ผู้ดำเนินการ มากกว่าหนังสือรับรองการตาย ที่ออกให้ตามความจำเป็นของงานทะเบียนราษฎร์ และสถิติ
คดีอุฉกรรจ์ครั้งนี้ ยังมีผลทำให้ กฏหมายปฏิรูปตำรวจ ที่เงื้อค้างง้างคามานานได้รับการผลักดันและถูกจับตาเป็นพิเศษว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ผ่านกฤษฎีกามาแล้ว กรรมาธิการร่วมกันของรัฐสภา ก็พิจารณามากว่าสิบครั้งหลังเสนอเข้ามาตั้งแต่วันที่24 กุมภาพันธ์ ถ้ายังผลักดันไม่ได้ สุดท้ายก็คงจะเงียบหายไป พร้อมๆกับการคลี่คลายคดี