คอลัมนิสต์

ลางสังหรณ์ "ธรรมนัส"วืด คำสั่งตรงเช็กบิลหลัง"อภิปรายไม่ไว้วางใจ"

ลางสังหรณ์ "ธรรมนัส"วืด คำสั่งตรงเช็กบิลหลัง"อภิปรายไม่ไว้วางใจ"

02 ก.ย. 2564

หึ่งพรรคพลังประชารัฐ ภายหลัง“ธรรมนัส ”ปีนเกลียวเก้าอี้นายกฯ ส่อแววแป๊ก หลังมีคำสั่งตรงเช็กบิลริบทุกเก้าอี้หลัง"อภิปรายไม่ไว้วางใจ" เจาะประเด็นร้อน โดย อสนีบาต

 

“ยืนยันว่ายังไม่มีความคิดตรงนี้ โดย 2 เรื่องที่ขอยืนยันตรงนี้ ใครจะพูดอะไรก็แล้วแต่ ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอนนี้ และจะไม่มีการยุบสภาตอนนี้ ไม่มีในสมองเลย เพราะฉะนั้น ใครที่พูดในลักษณะนี้ระวังตัวไว้ด้วยแล้วกัน เพื่อสร้างความตื่นตระหนกอะไรก็แล้วแต่ ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีหลายข่าวที่ติดตามอยู่ตลอด ถ้ามีใครทำเช่นนั้นจริง คิดว่าเป็นคนที่ใช้ไม่ได้”   

 

นี่เป็นการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม   เมื่อวันที่ 1 ก.ย.64  ก่อนเข้าร่วมประชุมสภาเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 

 

เป็นการตอบคำถามสื่อที่ว่า"ผ่านไปแล้ว 1 วันคิดว่าจะเป็นตัวแปรต่อการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่"  

 

รายละเอียดระหว่างบรรทัดที่ถูกถ่ายทอดออกมา บ่งบอกนัยยะทางการเมืองหลายประการ

 

ไม่บ่อยนักที่พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาให้ความเห็น ทำนองรับรู้ความเคลื่อนไหวภายในพรรคร่วมรัฐบาลกำลังสร้างแรงกดดันไปถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จึงต้องออกมาพูดผ่านสาธารณชนได้ชัดเจนถึงขนาดนี้  

 

ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวเป็นระยะๆ พร้อมรอจังหวะประเหมาะถาโถมเป็นสึนามิซัดเก้าอี้นายกฯรัฐมนตรีให้กระเด็นออกจากทำเนียบรัฐบาล 

ในจังหวะที่สารพันปัญหาทั้งจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19  การเคลื่อนไหวจากมวลชนนอกสภาจะมาด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตย หรือมาด้วยการจัดตั้งจากฝ่ายการเมืองตรงกันข้าม ก่อตัวทำลายความนิยมศรัทธาผู้นำ กอปรกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรมต.ที่กำลังเกิดขึ้น มันจึงเป็นจังหวะประเหมาะของนักเลือกตั้งทั้งหลายที่ต้องใช้โอกาสแบบนี้เดินเกมแซะเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สร้างประโยชน์ต่อตนเองให้มากที่สุด  

 

 

กระดานการเมืองจึงเปิดหน้าตัวละครสำคัญออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าใครกำลังคิดอะไร จะทำอะไร แสดงกำลัง   ผ่านกลุ่มก๊วนต่างๆภายในพรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึงกลุ่ม 3 ป. ที่ยังกุมอำนาจบริหารในกระทรวงเบอร์หนึ่ง 

 

ลางสังหรณ์ \"ธรรมนัส\"วืด คำสั่งตรงเช็กบิลหลัง\"อภิปรายไม่ไว้วางใจ\"

ช่างภาพสื่อมวลชนบันทึกภาพขณะร.อ.ธรรมนัสหารือกับแกนนำพรรคเล็กในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรมต.ที่ผ่านมา

 

กระแสข่าวที่พาดพิงชื่อ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นตัวจักรสำคัญในการรวบรวมไพร่พล  สร้างการต่อรองจึงไม่น่าเกินความหมายของบรรดาผู้คว่ำหวอดอยู่ในสนามการเมือง 

 

ทว่าสถานการณ์การเคลื่อนไหวต่อรองก่อนถึงวันลงมติไม่ไว้วางใจ (4 ก.ย. ) มีการพลิกไปพลิกมาได้ตลอดเวลา 

 

 

ล่าสุด แกนนำพรรคพลังประชารัฐ เช็คข่าวอย่างละอิดยิบ กรณีที่กลุ่ม 4ช. คือ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ  นฤมล ภิญโญศีลวัฒน์ รมช.แรงงาน  อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ไปต่อรองกับพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเพื่อให้ปรับครม.หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยอ้างว่าต้องคุมกระทรวงหลักเพื่อรองรับการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้มีผลงาน ผลักดันให้เปลี่ยนตัวนายกฯโดยเสนอให้พล.อ. ประวิตรรับหน้าที่แทนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  และเสนอให้เปลี่ยนรมว.มหาดไทย ซึ่งพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ปฏิบัติหน้าที่นี้อยู่  จนทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ไม่พอใจอย่างยิ่งและออกมาตำหนิการเคลื่อนไหวนี้อย่างรุนแรง แม้รอ.ธรรมนัสจะปฏิเสธในเรื่องนี้นั้น เเละอ้างว่าจะจัดการรมช.คนหนึ่งที่ปล่อยข่าวนี้

 

มีการวิเคราะห์ภายใน รมช.ดังกล่าว น่าจะเป็นรมช.ผู้หญิงในพรรคที่ไม่มีผลงานเเละมักเข้าพบหัวหน้าพรรคเสมอๆจนหลายครั้งสร้างความไม่เข้าใจระหว่างคนในพรรคเเละในครั้งนี้ก็หวังขยับตำเเหน่งพ่วงไปด้วย 


แน่นอน "กลุ่ม3ป." ไม่พอใจบทบาทของรอ.ธรรมนัสเป็นอย่างยิ่ง จึงเตรียมปรับรอ.ธรรมนัสออกจากตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์รวมทั้งเลขาธิการพรรคด้วยหลังเสร็จการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมทั้งรมช.ที่สนิทกับรอ.ธรรมนัสที่มีข่าวว่าจะขอขยับไปเป็นรมว.นั้นก็มีสิทธิที่จะถูกปรับออกเพราะไม่มีผลงานและไปร่วมกันกดดันพล.อ.ประวิตรในครั้งนี้
 

กล่าวกันว่า  "กลุ่ม 3 ป." กำลังจับตาบทบาทของร้อยเอกธรรมนัสทางการเมืองในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด เพราะทราบว่ารอ.ธรรมนัสมักจะอ้างว่าได้รับคำสั่งต่างๆจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้มาดำเนินการ และมักแสดงบารมีว่าเป็นผู้จัดการรัฐบาล  

 

ดังนั้น"กลุ่ม3ป."ตกลงกันว่าหากปล่อยไว้แบบนี้ไม่ใช่ผลดีกับรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐในระยะยาว จึงต้องปลดร้อยเอกธรรมนัสจากตำแหน่งทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองอีกต่อไป


อีกด้านในการรับมือฝ่ายค้านในสภา ฝ่ายยุทธศาสตร์ได้ให้พล.อ.ประยุทธ์ ควบคุมอารมณ์ตอบข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน ซึ่งตลอดสามวันที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าการอภิปรายครั้งนี้พล.อ. ประยุทธ์คุมอารมณ์ได้ดีเเละยกตัวอย่างประกอบในการชี้เเจง มีการเอาข้อมูล world bank , IMF มาตอบฝ่ายค้าน นับว่าพลเอกประยุทธ์ยืนระยะ ได้ดีกว่าที่ผ่านๆมา

 

ว่าไป การเมืองเป็นเรื่องของการจัดสรรผลประโยชน์ให้ลงตัว ย่อมมีการต่อรองเจรจา เกิดการพลิกผันตลอดเวลา จึงต้องจับตาอย่ากระพริบก่อนถึงวันที่ 4 ก.ย.