มองก้าวย่าง "ลุงตู่" ผ่านศึกในศึกนอก ภารกิจต่อไปลุย NEWHOPEฯ
ผลลงมติไม่ไว้วางใจเปิดทางให้ "ลุงตู่ได้ไปต่อ" มวลชนภายนอกแปรสภาพเป็นกลุ่มป่วนเมืองไร้อุดมการณ์ประชาธิปไตยทำให้ขาดแนวร่วม ขณะที่ประเทศคลายล็อค จึงเป็นก้าวต่อไปของ "ลุงตู่" ในการสร้างความฝันใหม่กับโครงการ "NEWHOPEฯ" ที่ต้องจับตามอง เจาะประเด็นร้อน โดย อสนีบาต
ศึกในศึกนอกได้รับการปลดล็อกไปตามลำดับ ก้าวต่อไปของ"ลุงตู่" น่าสนใจยิ่งโดยเฉพาะ โครงการ "NEWHOPEฯ"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
มติญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 4 กันยายน สะท้อนออกมาแล้ว ใครพอใจ-ไม่พอใจ ใครอยากเชียร์ "ลุงตู่อยู่ต่อ" หรือยังอยาก "ไล่ลุงตู่" ต่อไป ก็ไปไล่เบี้ยกัน เพราะงานนี้ไม่ว่า งูเห่า งูจงอาจ งูเขียว งูดิน โผล่กันทั่วถ้วน
เกมการป่วน "3 ป" จากคนวงในระดับพ่อบ้านพรรคพลังประชารัฐที่ชื่อ "รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ก็จบแบบดื้อๆ กลุ่มประท้วงรายวันที่ก่อการไล่รัฐบาลก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ขั้วการเมืองฝั่งตรงข้ามที่ลุยไล่ทางโลกออนไลน์ก็ต้องปั่นกระแสกันต่อ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังคงปฏิบัติหน้าที่ผู้นำฝ่ายบริหารต่อไปหลังคะแนนเสียงจากฝ่ายนิติบัญญัติในศึกซักฟอกบังเกิดแล้ว และสังคมบางส่วนคงเห็นลีลาใหม่ของ "ลุงตู่" ที่ปรับตัวแบบสุขุมคัมภีรภาพ ไม่โฉ่งฉ่าง อิงข้อมูลในการชี้แจงและตอบคำถาม รับฟังทุกฝ่าย รวมทั้งท่วงท่าความเป็นนักการเมืองไปอีกขั้นที่ตอกกลับฝ่ายตรงข้ามแบบเจ็บด้วยบางถ้อยคำ
ตรงนี้คือสิ่งที่เปลี่ยนไปในเชิงรุกของ "ลุงตู่" ที่หลายคนมองข้ามไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นายกฯขอบคุณสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจ รับคำแนะนำไปแก้ไข
- ฉลุย 264 : 208 สภาผู้แทนฯลงมติไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ "นายกฯ" และรมว.กลาโหม
- “เฉลิมชัย” ปลี้มคะแนนนำลิ่วมาเป็นอันดับ 1
ส่วนรมต.ขั้วพปชร.สองชีวิตคือ "ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์" รมว.ดีอีเอสและ "สุชาติ ชมกลิ่น" รมว.แรงงานที่จองบ๊วยในแต้มไว้วางใจคราวนี้น่าจะรั้งเก้าอี้เดิมไว้ได้ โดยเฉพาะ "รมต.โอ๋ สิงห์บุรี" ที่ตอบคำถามฝ่ายค้านในกรณีการปราบเฟคนิวส์หมิ่นสถาบันที่กำลังป่วนเมืองคราวนี้ได้เข้าเป้า
แม้เกมตอนนี้ยังไม่ปิดฉาก แต่แปลความได้แล้วว่า แรงต่อรองในพปชร.และในรัฐสภานั้น "3 ป" ยังกุมสภาพไว้ได้และ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์
แน่นอนว่าการเช็คบิล"ผู้ก่อการใหญ่"ที่อ้างเจตนาดีต่อพรรคและรัฐบาลในการโค่น "3 ป" คราวนี้ย่อมโดนแน่ เพียงแค่รอวันเวลาที่จะลงดาบเท่านั้น เพราะการริบอำนาจในรัฐนาวา การบริหารพรรคและการแจกกล้วยนั้น "ผู้ก่อการใหญ่" ทำใจรอไว้เลยว่า “เรามาไกลเท่านี้ก็ดีเหลือเกิน... อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด... และสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
พรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ภายใต้การนำของ "3 ป" ยังทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน โดยสถานีต่อไป คือ การเตรียมการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.,นายกเมืองพัทยาและนายกอบต.ทั่วประเทศ
นัยยะนี้คือการจัดขั้วกำลังขั้นต้นลงสู่ชุมชนเพื่อเป็นฐานการเมืองในวันต่อไป และวัดกระแสนิยมไปด้วยหลังทำงานมาแล้วกว่าสองปีเพื่อวางแผนเลือกตั้งคราวหน้าไปพร้อมๆกัน
เมื่อครม.พลเอกประยุทธ์ ได้รับไฟเขียวจากสภาผู้แทนฯ ดังนั้นภารกิจหลักยามนี้คือแก้วิกฤตโควิด-19ให้บรรเทาเพราะหลากปัญหาสุมรวมกันอยู่ และหัวหน้ารัฐบาลยังต้องวางแผนพัฒนาและฟื้นฟูประเทศไปในคราวเดียว
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่วางไว้กับบริบทโลกที่แปรเปลี่ยนเมื่อไวรัสมรณะเข้ามาคร่าชีวิตพลเมืองโลกและทำลายระบบต่างๆของโลกในรอบหนึ่งปีเศษนั้น พบว่า หลายประเทศปรับแผนรายวันกันทั่วหน้า
ต้องยอมรับว่าบางจุดอ่อนของการรับมือไวรัสมรณะตัวนี้ของพลเอกประยุทธ์นั้นมีอยู่ แต่เมื่อพบต้องแก้ไขและวางแนวทางเอาไว้ให้ดี
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์เบาใจว่า อย่างน้อยองค์กรระดับโลกสองแห่งคือธนาคารโลก (เวิล์ดแบงก์) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยังให้คะแนนการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจของไทยในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ดี โดยพล.อ.ประยุทธ์นำบทวิเคราะห์ของสององค์กรนี้ไปตอบคำถามจากฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯครั้งล่าสุด
“ด้านเสถียรภาพทางการคลัง ธนาคารโลกประเมินว่าแม้ระดับหนี้สาธารณะของไทยเพิ่มสูงขึ้น แต่อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ โดยการกู้เงินเพื่อบรรเทาผลกระทบและกระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโควิด-19 จะทำให้ระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP เพิ่มสูงขึ้นชั่วคราว โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนทางการคลังในระยะปานกลาง"
"ยิ่งไปกว่านั้น หนี้สาธารณะ ส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่เป็นเงินตราภายในประเทศ และสภาพคล่องภายในประเทศมีอยู่อย่างเพียงพอที่จะให้รัฐบาลกู้ และหนี้ที่ก่อขึ้นใหม่ก็มีอายุการไถ่ถอนที่ค่อนข้างนาน ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยบรรเทาความเสี่ยงต่อฐานะการคลังของประเทศไทย”
นอกจากนี้ รายงาน Fiscal Monitor ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่มีการเก็บสถิติตัวเลขทางการคลัง แบ่งตามลักษณะเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ เช่น กลุ่มประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจ (Advance Economy) กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Economy) และกลุ่มประเทศเศรษฐกิจรายได้ต่ำ (Low Income Economy) ซึ่งประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
แผนที่โลกสีต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงขนาดของมาตรการด้านการคลังของประเทศต่าง ๆ ที่ออกมารับมือกับผลกระทบของโควิด-19 เทียบกับ GDP โดยสีเขียวแก่ มีการใช้มาตรการการคลังในการช่วยเหลือประชาชนมากกว่า 10% ของ GDP / สีเขียว 7.5%-10% ของ GDP / สีเขียวอ่อน 5%-7.5% ของ GDP / สีเหลือง 2.5%-5% ของ GDP และสีแดง ต่ำกว่า 2.5% ของ GDP
หากเทียบกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Economy) จะพบว่าไทยใช้นโยบายการคลังในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ขนาดใหญ่ประมาณ 11.4% ของ GDP สูงเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศชิลี และสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียที่ใช้นโยบายการคลัง 5.2% ของ GDP และอินโดนีเซีย 4.5% ของ GDP และพบว่าประเทศไทยใช้มาตรการทางการคลังเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ในระดับเดียวกันกับกลุ่มประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจ (Advance Economy) เช่น อเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เป็นต้น
ประเทศที่ใช้นโยบายการคลังใกล้เคียงกับไทย เช่น เยอรมนี 13.6%, อิตาลี 10.9%, เนเธอแลนด์ 10.3%, ฝรั่งเศส 9.6% ของ GDP เป็นต้น”
แหล่งข่าวระดับสูงในทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อจบเกมในรัฐสภาแล้ว อะไรดี-ไม่ดีต้องจัดการ เวลาที่เหลือของรัฐบาลนายกฯคงทำงานต่อและมีแผนนำประเทศฝ่าปัญหาที่มาจาก โควิด-19 โดยรับฟังทุกภาคส่วน เตรียมคนที่พร้อมมาช่วยงานเพราะนายกฯมองภาพรวมของโลกในวันข้างหน้าออกแล้วและจะวางไทยไว้ตรงจุดใดของโลก
โครงการต่างๆที่วางไว้เพื่อสร้างและยกระดับประเทศต้องไปพร้อมๆกัน และยิ่งรายงานสองฉบับจากเวิล์ดแบงก์และไอเอ็มเอฟมาการันตีการทำงานของรัฐบาลนั้น นายกฯพอใจที่องค์กรระดับโลกเชื่อมั่นแนวทางที่ทำไว้
นายกฯจึงมีความฝันใหม่ประเทศไทย (NEW HOPE FOR THAILAND )ที่ต้องเตรียมประเทศให้พร้อมรับมือโลกที่เปลี่ยนแปลงแทบทุกอย่างหลังโควิด-19บรรเทา จะบอกว่าจัดการปัญหาได้จบแม้มีวัคซีนนั้น คงยืนยันยาก เพราะทุกวันนี้หลายชาติที่พร้อมกว่าเรายังต้องปรับแผนรายวันเลย เราก็ติดตามและปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์ แต่เชื่อว่านายกฯจะประคองและบรรเทาสถานการณ์ให้ทุกอย่างคลี่คลายโดยร่วมมือกับทุกฝ่ายแบบนี้จะดีกว่า โดยเฉพาะ "โครงการ NEW HOPEฯ" นายกฯกำลังเร่งให้เกิดขึ้นโดยเร็วและจะบอกสังคมให้ทราบและร่วมมือกันในเร็วนี้”
ติดตามดูว่าโปรเจกต์ "NEW HOPEฯ" ของลุงตู่จะมีหน้าตาอย่างไร...