พี่น้อง 3 ป.ป่วน "ทักษิณ" สบช่อง 2 ใบทวงคืนอำนาจ
3ป.ปริร้าว พปชร.ใกล้วงแตก "ทักษิณ" ยิ้มร่า เลือกตั้งบัตร 2 ใบ กำชัยเด็ดขาด วาดฝันกลับไทยแบบเท่ๆ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
พลันที่รัฐสภาเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้ง จากบัตรใบเดียวเป็น “บัตร 2 ใบ” ทุกสำนักข่าววิเคราะห์ตรงกันว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ได้กลับบ้านแน่นอน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แก้ รธน.บัตร 2 ใบ “ทักษิณ” กลับบ้าน 3ป.ไปต่อยาก
- เลือกบัตร 2 ใบ “ประชาธิปัตย์” จุดแข็งชวน-จุรินทร์ มั่นใจกลับมา
- แพ้แล้วแพ้อีก “ธนาธร” ลุยต่อ เดิมพันชิงนายก อบต.
นักการเมืองรุ่นเก๋าต่างรู้ว่า ระบบเลือกตั้งคล้ายรัฐธรรมนูญ 2540 ใช้บัตร 2 ใบ เป็นเกมถนัดของ “ทักษิณ” ซึ่งผ่านการเลือกตั้งสูตรนี้มา 4 ครั้ง เครือข่ายทักษิณได้จัดตั้งรัฐบาลทุกครั้ง
ยิ่งพี่น้อง “3ป.” มีรอยร้าว กรณีปลด 2 ช. ยิ่งทำให้พลังประชารัฐปั่นป่วน ส่ออาการพรรคแตก พรรคเครือข่ายของ “ทักษิณ” จึงเป็นต่อหลายช่วงตัว
หลายคนจึงกังขา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่รู้เลยหรือว่า แก้ระบบเลือกตั้งเข้าทาง “ทักษิณ”
หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจยุบสภาในเร็ววันนี้ ก็ใช้กติกาเลือกตั้งเดิม เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญระบบเลือกตั้ง ต้องรอการทำกฎหมายลูกอีกหลายเดือน
ในสถานการณ์วันนี้ พลังประชารัฐก็พ่ายเพื่อไทยอยู่ดี เพราะสถานการณ์ “ขาลง” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ฉุดรั้งให้ความนิยมของพลังประชารัฐตกต่ำลงไปด้วย
‘ปิดฉาก 3ป.’
แม้ผลสำรวจความเห็นประชาชนของนิด้าโพลล์ จะเชื่อว่า “3ป.” น่าจะมีบทการในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ “ทักษิณ” กลับมองว่า “3ป.” คงได้เวลากลับบ้านพักผ่อน
อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญ 2560 ได้กำหนดให้ ส.ว. 250 คน ยังมีส่วนร่วมในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และนี่คืออุปสรรคสำคัญของเครือข่าย “ทักษิณ”
วงจรการเมืองไทย วนเวียนอยู่กับการรัฐประหารสลับกับเลือกตั้งมาเป็นระยะๆ ช่วง 3 ทศวรรษมานี้ คณะทหารมิอาจรักษาอำนาจไว้ได้นานเหมือนยุคจอมพลถนอม จึงต้องเปิดทางให้มีการเลือกตั้งทั่วไป
คณะทหารต้องพึ่งพา “นักเลือกตั้ง” ตั้งพรรคเฉพาะกิจเพื่อการสืบทอดอำนาจ ฉะนั้น นักการเมืองไทยจึงคุ้นเคยกับคณะทหารเป็นอย่างดี
ดังที่รู้กันว่า กลุ่มพี่น้อง 3ป. ที่ยืนยงอยู่ในอำนาจการเมือง ทั้งสมัยรัฐบาลสมัคร ,รัฐบาลอภิสิทธิ์ ,รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลประยุทธ์ 2 ก็เพราะบทบาทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ได้ฉายา “มิสเตอร์ดีล”
ก่อนหน้านั้น “บิ๊กป้อม” มีตัวช่วยอีกคนคือ “บิ๊กกี่” พล.อ.นพดล อินทปัญญา เพื่อนรักร่วมรุ่น ตท.6 ซึ่ง “บิ๊กกี่” มีคอนเนคชั่นที่ไม่ธรรมดา และรู้จักนักการเมืองค่าย “ทักษิณ” ทุกคน
“บิ๊กป้อม” รู้ดีว่า เวลาของ “ประยุทธ์” ใกล้หมดลงแล้ว จึงมอบให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นตัวช่วยในภารกิจ “ดีลการเมือง” หลังเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้า เพราะธรรมนัสยังมีเยื่อใยไมตรีกับคนแดนไกล
บังเอิญ ผลพวงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ธรรมนัส” แตกหัก “บิ๊กตู่” เลยส่งผลให้ภารกิจของ “บิ๊กป้อม” สะดุด และยังหาทางออกของเรื่องนี้ไม่ได้
‘ยุคป่ารอยต่อ’
“ทักษิณ” รู้ดีว่า ส.ว. 250 คน อยู่ในมือของ “3 ป.” ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทย จะกลับมาจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างราบรื่น ก็ต้องหา “จุดเชื่อมต่อ” ไปยังสภาสูง ซึ่งบุคคลผู้นั้นจะเป็นใครไม่ได้ หากไม่ใช่ “บิ๊กป้อม”
จะว่าไปแล้ว “ทักษิณ” อาจไม่สนิทชิดเชื้อกับ “บิ๊กป้อม” แต่ตัวเขาสนิทกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ มากกว่า และวันนี้ “พัชรวาท” ก็ยังตั้งกลุ่มก๊วนอยู่ในสภาสูง
ปี 2547 “บิ๊กป้อม” ขยับเข้าสู่ตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทบ. ในยุคที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. โดยลึกๆแล้ว “คุณหญิงอ้อ” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ก็มีบทบาทสนับสนุนอยู่ไม่น้อยเลย ก่อนที่ “บิ๊กเหวียง” พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร รัฐมนตรีกลาโหม จะชงให้เป็น ผบ.ทบ.
ในวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังจะต้องลงจากหลังเสือ “บิ๊กป้อม” จึงสร้างเครือข่าย “บ้านป่ารอยต่อ” ขึ้นมาแทน ด้วยความเป็น “มิสเตอร์ดีล” ที่รู้จักนักการเมืองทุกพรรค