ชิงปรับทัพ"พลังประชารัฐ" ตั้งแต่หัวหมู่ยุทธศาสตร์จรดหิวแสง
3ป. ก้าวเร็วไม่รอใคร ประเดิมแต่งตั้ง "บิ๊กข้างกาย" นั่งปธ.ยุทธศาสตร์พลังประชารัฐ ด้าน"บิ๊กตู่" ขานรับเสียงเรียกร้องแจ้ง บิ๊กป๊อก ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ตามเอ็กซเรย์รายบุคคลที่อาจต้องถูกปรับทัศนคติ รับการเขย่าโครงสร้างใหญ่รับมือการเลือกตั้ง เจาะประเด็นร้อน โดย อสนีบาต
"ท่านนายกฯห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วม ขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมแผนรองรับ โดยมอบหมายให้รมต.แต่ละกระทรวงลงพื้นที่รวมทั้งขอให้ท่านรมว.มหาดไทย ตรวจเยี่ยมประชาชน"
ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงภายหลังการประชุมครม. เมื่อวันที่ 14 ก.ย.
จากถ้อยแถลงข้างต้น นอกจากทำให้เห็นรัฐบาลภายใต้การนำของ "ลุงตู่" เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่กำลังไหลบ่ามาอย่างรวดเร็ว
หากแต่ยังเป็นการจับจังหวะก้าวทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยการกำชับกำชารัฐมนตรีให้ลงพื้นที่ โดยเฉพาะกับการเน้นย้ำไปถึง "พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย" ได้ลงพบปะประชาชน ซึ่งเหมือนเป็นการอุดจุดอ่อนตนเอง หลังจากแกนนำพรรคพลังประชารัฐเคยส่งเสียงเรียกร้องมายัง "3 ป." จนเกิดแรงกระเพื่อมกินแหนงแคลงใจกันภายในพรรค
อย่างที่... อสนีบาต... เคยนำเสนอไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า หมากเกมต่อไปของพล.อ.ประยุทธ์ คือการลงพื้นที่ถี่ขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่ของส.ส.พรรคพลังประชารัฐในการเตรียมต้อนรับขับสู้ เพื่อหวังสะสมแต้มพลังศรัทธาของประชาชน
ไม่เพียงเท่านั้น อาการขยับอย่างเด่นชัด มาจากฟากพี่ใหญ่ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ลงนาม แต่งตั้ง "พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา" เป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ
เท่ากับตอกย้ำให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐเดินหน้าต่ออย่างมียุทธศาสตร์
อ่านข่าวที่เีกี่ยวข้อง
- อ่านหมาก"ลุงตู่" เดินเกมสู่สนามการเมือง
- "ล้านนาเทวาลัย" มุมสงบ "ทมยันตี" กับ ถ้อยความสำคัญ
- เกมพลิก หลังเปิดเจรจาเซฟเฮาส์เกียกกายก่อนโหวต"อภิปรายไม่ไว้วางใจ"
นอกจาก 3 ป.ปรับตัวตามเสียงเรียกร้อง สิ่งที่ต้องเกาะติดต่อไปคือการปรับโครงสร้างภายในพปชร.ในวันข้างหน้า เพราะปล่อยไว้แบบนี้ใช่จะเป็นผลดีในระยะยาวกับพปชร.หากประสงค์จะลุยงานการเมืองในศึกเลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าสังคมยอมรับพปชร.หรือไม่
ดังนั้นการยกเครื่องหลากวาระในพปชร.จึงเป็นสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น โดย"ลุงตู่-ลุงป้อม-ลุงป๊อก" มีแผนการไว้แล้ว เพราะสัญญาณจาก "ร.อ.ธรรมนัส"ย้ำชัดว่าไม่ไปเหยียบที่ทำการพรรค ถนนรัชดาภิเษกแน่นอน (อาคารดังกล่าวเป็นของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และผอ.พรรค)
“ที่ทำการพรรคแห่งนี้ดูเหมือนฮวงจุ้ยไม่ค่อยดี” ร.อ.ธรรมนัสกล่าวต่อสื่อมวลชนในวันแถลงข่าวยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่รัฐสภา ส่งซิกแบบนี้จะทำงานกันต่ออย่างไร
แม้ลุงป้อมย้ำว่า "ร.อ.ธรรมนัส" และ"ดร.แหม่ม" นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ยังมีเก้าอี้เลขาธิการพรรคและเหรัญญิกพรรค พปชร.ในตอนนี้ และไม่มีการปรับโครงสร้างพรรค”แต่ใช่ว่าเก้าอี้นี้จะยังอยู่กับสองชีวิตข้างต้น เพราะหากยังไม่ยอมลดราวาศอก ก็ทำงานกันยาก
อย่าลืมว่าส.ส.พะเยา เขตหนึ่งที่ชื่อ "ร.อ.ธรรมนัส" ท้า "ลุงป้อม" ให้ขับออกจากพรรค(กฎหมายให้สิทธิ ส.ส.ที่โดนขับออกจากพรรคหาพรรคใหม่สังกัดได้ภายในสามสิบวัน ซึ่งมีตัวอย่างแล้วที่พรรคเพื่อไทยจ่อขับนางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานีและนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์)
ขณะเดียวกัน เมื่อสำรวจรายชื่อผู้แทนฯสาย"ร.อ.ธรรมนัส" จะพบว่า ” นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคพปชร. /นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา /นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก/นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก /นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร/นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ /นายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง/นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ/นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่นคือผู้แทนฯที่หลายคนย้ำว่าเป็นสายตรงร.อ.ธรรมนัส ”
แต่ต้องดูว่าใครจะกล้าเดินตามออกไปบ้าง (แต่ประเมินแล้วพปชร.คงไม่ขับร.อ.ธรรมนัสพ้นพรรค แต่อาจจะแขวนไว้ในพรรคกับบางหน้าที่ ซึ่งมิใช่เก้าอี้พ่อบ้านพรรคเเน่นอน เว้นแต่ร.อ.ธรรมนัส จะเปิดเกมหักหน้าคีย์แมนในรัฐบาลและพปชร.อีกครั้ง )
ตอนนี้ส.ส.และสมาชิกพรรคสายเปรี้ยวในพปชร.หลายคนก็มีการขึ้นบัญชีดำ เพราะแกนนำพรรคบางคนจับสัญญาณแล้วว่าไม่มีใจให้กันแล้วและบางคนก็ส่อแววแห้วทางการเมือง ดังนั้นควรเตรียมทางเลือกใหม่ไว้ดีกว่า ส่วนจะเป็นใครบ้างนั้น ข้อมูลขั้นต้นดังนี้
"นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช"อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี(กระทรวงยุติธรรม) อดีตผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ พรรคพลังประชารัฐ ข้อหาให้นายตำรวจยศพ.ต.ท.นายหนึ่งสังกัดบช.น.ไปเข้าเรียนและเข้าสอบแทน ณ สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง( แต่ทราบว่าบช.น.ยังไม่ดำเนินการสอบสวนกับนายตำรวจคนนี้ว่าร่วมกระทำการทุจริตกับนายสามารถในเรื่องข้างต้นหรือไม่)
ณ ขณะนี้ นายสามารถโดนปลดทุกตำแหน่งและมีสถานะเพียงสมาชิกพรรคเท่านั้น โดยกรณีนี้”ลุงป้อม”สั่งให้จัดการเด็ดขาดเพื่อไม่ให้พรรคเสียชื่อเสียง และมองแล้วนายสามารถคงหมดอนาคตกับพปชร.
"น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์" ส.ส.กทม. หลังยุติการปฏิบัติหน้าที่จากคำสั่งศาลฯ หลังจากปปช.ชี้มูลว่า “ส.ส.คนนี้ไม่อยู่ในห้องประชุมสภาผู้แทนฯในการลงมติร่างพ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่10และมีการเสียบบัตรแทนกัน” ประเมินแล้วหากมีคำพิพากษาลงมาในห้วงปีเศษๆข้างหน้านี้ พปชร.หาตัวสำรองมาแต่งตัวรอลงแทนส.ส.อุ๋มน่าจะเหมาะสมกว่า
"น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์" ส.ส.ราชบุรี ซึ่งส.ส.เอ๋โดนคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และต้องไปสู้คดีในคดีรุกป่าเจ็ดร้อยไร่ เคสนี้คล้ายกับเคสส.ส.อุ๋มคือหากศาลตัดสินคดีในห้วงหนึ่งปีเศษ(อายุรัฐบาลนี้ก่อนจะครบการทำงานสี่ปีในเดือนมีนาคม2566)สมมติว่าพิพากษาว่าส.ส.เอ๋มีความผิด ส.ส.ราชบุรีคนนี้หมดสิทธิลงสมัครผู้แทนฯแบบถาวร ดังนั้นพรรคน่าจะหาตัวสำรองมาฝึกงานไปพลางๆดีกว่า ปล่อยเวลาให้เนิ่นนานจนแก้ไขลำบากในวันข้างหน้า
"นายสิระ เจนจาคะ" ส.ส.กทม. มีลุ้นว่าหลายภารกิจในบทบาทส.ส.ที่”ล้ำเส้น” รวมทั้งวีรกรรมปกป้องผู้ใหญ่ในพรรคและผู้ใหญ่ในรัฐบาลแบบเกินควรนั้น ใช่ว่าจะเป็นผลบวกกับพรรคและรัฐบาลเท่าใดนัก เพราะส.ส.เมืองหลวงคนนี้ชอบอยู่บนสปอตไลท์เรื่องร้อนของสังคมแบบชิงพื้นที่ข่าวเสมอมา จนเกิดการจองกฐินส.ส.คนนี้จากหลากวงการ แบบนี้ต้องลุ้นว่าหากพรรคยังให้โอกาสส.ส.คนนี้ทำหน้าที่ต่อ แต่ต้องปรับทัศนคติและพฤติกรรมเพื่อขอโอกาสกับสังคมอีกนั้น จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
"นายวิรัช รัตนเศรษฐ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ และครอบครัว จากเหตุการณ์ทุจริตสร้างสนามฟุตซอลในจ.นครราชสีมา หากศาลฯรับคดีนี้ไว้พิจารณา ประธานวิปรัฐบาลคนนี้และคณะที่มีรายชื่อในสำนวนคดีต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แบบนี้พรรคต้องหาตัวตายตัวแทนไว้แต่หัววันเช่นกันหากไม่อยากเสียแต้มที่เมืองโคราช
รอลุ้นกันว่าการยกเครื่องใหม่"พปชร."จากค่ายสามบูรพาพยัคฆ์ จะบังเกิดเมื่อใดและมีผลอย่างไร