คอลัมนิสต์

ใครเสียค่าโง่ "ประวิตร" ปลุกพลังประชารัฐ สู้พรรคทักษิณ

ใครเสียค่าโง่ "ประวิตร" ปลุกพลังประชารัฐ สู้พรรคทักษิณ

15 ก.ย. 2564

ปรับจูนความคิด "ประวิตร" เสาหลักพลังประชารัฐ นำทัพสู้พรรคทักษิณ เมินเสียงวิจารณ์เสียค่าโง่ กรณีบัตร 2 ใบ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

เดินหน้าต่อไป พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เป็นเลขาธิการพรรค และเพิ่มเติมคือ การแต่งตั้ง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

การประชุม ส.ส.พลังประชารัฐ หลังวิกฤตผู้กอง “พล.อ.ประวิตร” นั่งหัวโต๊ะ ขนาบซ้ายขวาด้วยวิรัช รัตนเศรษฐ และพล.อ.วิชญ์ ส่วนธรรมนัส และนฤมล นั่งถัดไป

 

 

ภาพนี้ภาพเดียว อธิบายได้ว่า “ประวิตร-ธรรมนัส” มีระยะห่าง ต่างจากเมื่อก่อนที่เหมือนเป็นขุนพลข้างกาย โดยวันนี้มี พล.อ.วิชญ์ เข้ามาแทนที่

 

 

พล.อ.ประวิตร บอก ส.ส.พลังประชารัฐ ให้รักสามัคคีกัน ไม่แบ่งก๊กแยกมุ้ง เตรียมตัวเข้าโหมดเลือกตั้งทั่วไป ฉะนั้น ส.ส.ต้องลงพื้นที่เสียตั้งแต่วันนี้

อีกด้านหนึ่ง “ทักษิณ ชินวัตร” โผล่คลับเฮาส์กลุ่มแคร์ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ได้บอกแฟนคลับว่า ปีหน้าเตรียมเลือกตั้ง

 

 

เวลานี้ พรรคเพื่อไทย และทักษิณ กระหยิ่มยิ้มย่องกับชัยชนะในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะกลับมาใช้ระบบเลือกตั้งแบบรัฐธรรมนูญ 2540 โดยพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ว.สาย “ประยุทธ์-ประวิตร” ต่างเห็นชอบด้วย

 

 

“เกมนี้ดูเหมือนพรรคพลังประชารัฐ กำลังจะเสียค่าโง่ให้กับพรรคเพื่อไทยมากกว่า..” เสียงจากฝั่งบุรีรัมย์ แสดงความเห็นผ่านสื่อออนไลน์สำนักหนึ่ง

 

 

‘ใครเสียค่าโง่’

ก่อนที่พลังประชารัฐ จะเกิดกรณี “ธรรมนัสเอฟเฟกต์” บรรดาแกนนำพรรคที่ใกล้ชิด “พล.อ.ประวิตร” พยายามอธิบายเหตุผลว่า ทำไมพรรคต้องขอแก้รัฐธรรมนูญ ใช้บัตร 2 ใบ แทนบัตรใบเดียว

อดีตนายทหารใหญ่อย่าง “ประวิตร” ผ่านสมรภูมิเลือกตั้งเพียงครั้งเดียว หรือจะเชี่ยวชาญเท่ากับ “ทักษิณ” แต่ด้วยความไม่รู้ลึกเรื่องเลือกตั้ง เลยเชื่อคนใกล้ตัว

 

 

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค เชื่อมั่นว่า กลยุทธ์ 2 ใบ จะใช้ได้ดีในพื้นที่ภาคอีสาน อันเป็นที่มั่นใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส.เขตจากภาคอีสาน แค่ 12 คน

 

 

หากการเลือกตั้งใช้บัตร 2 ใบ เลือกคนและเลือกพรรค ผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ สามารถบอกกับชาวบ้านได้ว่า ขอเลือกคนพลังประชารัฐ แต่หากชอบทักษิณ ก็ให้เลือกเพื่อไทย

 

 

ชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อม เขต 7 ขอนแก่น คือบทพิสูจน์ว่า พลังประชารัฐได้ตัวผู้สมัครมีชื่อเสียง บวกกับกลยุทธ์กระสุนดินดำ ก็เอาชนะผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยได้

 

 

สิ่งที่ธรรมนัส ทำเป็นมองไม่เห็นคือ เลือกตั้ง 2562 กระแสความสงบจบที่ประยุทธ์ ทำให้พรรคได้ ส.ส.เขตจากภาคใต้ ,ภาคกลาง และกรุงเทพฯ

 

 

หากเลือกตั้งครั้งหน้า พลังประชารัฐ สร้างกระแสไม่ได้ ก็จะเอาอะไรมาสู้ทักษิณ และโค้งสุดท้ายเจอกลยุทธ์ “รับเงิน....กาเพื่อไทย” ก็จบข่าว

 

 

‘บทเรียนเนวิน’

 

เมื่อปี 2554 “พล.อ.ประวิตร” อาจลืมไปว่า ทีมบ้านป่ารอยต่อ เคยเจรจากับสุเทพ เทือกสุบรรณ และเนวิน ชิดชอบ เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 

 

 

กลับมาใช้เขตเดียว เบอร์เดียว ด้วยพรรคภูมิใจไทย เชื่อในศักยภาพ “ส.ส.เขต” ในภาคอีสาน

 

 

เลือกตั้ง 2554 ใช้บัตร 2 ใบ คล้ายรัฐธรรมนูญ 2540 ค่ายเนวินก็ให้คนอีสานเลือก “คนภูมิใจไทย” และหากชอบทักษิณ ก็เลือกเพื่อไทย แต่คนแดนไกล งัดยุทธศาสตร์นารีขี่ม้าขาว ปั้นยิ่งลักษณ์ภายใน 40 กว่าวัน ก่อให้เกิดสึนามิการเมือง กวาด ส.ส.อีสานมาเกือบหมด

 

 

อดีต ส.ส.ที่ว่าแข็งแกร่งในเขตเลือกตั้งของค่ายเนวิน เจอกระแสยิ่งลักษณ์ก็พ่ายเรียบ ตั้งแต่อีสานเหนือยันอีสานใต้

 

 

ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องบัตร 2 ใบ หมากกระดานนี้ พรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์สูงสุด เพราะกระแสทักษิณ ยังครองใจชาวอีสาน และคนเหนืออยู่

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ กำลังเผชิญวิกฤติศรัทธา มีคนออกมาไล่ทุกวัน บวกมหาวิกฤตโควิด กระทบเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน ซึ่งต่างจากช่วงเลือกตั้ง 2562

 

 

ประกอบกับพรรคพลังประชารัฐ ที่มีหัวหน้าพรรคชื่อ “ประวิตร” ไม่สามารถจุดกระแสความนิยมได้เลย จนถึงนาทีนี้ ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะชนะทักษิณได้ยังไง