คอลัมนิสต์

หายไปไหน “สามมิตร” ในสมรภูมิวัดกำลัง 2ป.

หายไปไหน “สามมิตร” ในสมรภูมิวัดกำลัง 2ป.

23 ก.ย. 2564

สงครามเย็น 2 ป. “สามมิตร” ล่องหน หลังสมศักดิ์ถูกยึดเก้าอี้ประธานยุทธศาสตร์พรรค ปล่อยกลุ่มสุชาติวัดกำลังกลุ่มธรรมนัส คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ขบวนแห่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่พระนครศรีอยุธยา ไม่มีภาพของแกนนำ “สามมิตร” อย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และอนุชา นาคาศัย

 

 

ต่างจากขบวนแห่นายกรัฐมนตรี ที่ชัยนาท ,ชลบุรี และเพชรบุรี มี ส.ส.กลุ่ม “สามมิตร” ในพื้นที่ไปปรากฏตัวโดยพร้อมหน้า

 

 

จริงๆแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคิวเดินสายไปสุโขทัย ที่มั่นของแกนนำ “สามมิตร” แต่เปลี่ยนแผนไปเพชรบุรี กระทันหัน

 

 

แม้พาดหัวข่าว นสพ.เช้าวันที่ 23 ก.ย.2564 จะเล่นกับตัวเลข 9 กับ 55 สะท้อนการวัดพลังระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร แต่จริงๆแล้ว ตัวเลข 55 นักข่าวก็ได้มาจากปากคนสนิทของธรรมนัส คือ ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร

 

 

หากนับจากรายชื่อที่ปรากฏอยู่ในสื่อออนไลน์ ก็มี ส.ส.พลังประชารัฐ ประมาณ 30 คนที่ไปต้อนรับหัวหน้าพรรค และครึ่งหนึ่ง อยู่ในเครือข่ายของธรรมนัส-วิรัช

แท้จริงแล้ว เกมตัวเลข 9 กับ 55 ก็เป็นการประลองกำลัง ระหว่าง “สามมิตร” บวกสุชาติ กับกลุ่มธรรมนัส-วิรัช

 

 

‘หลบเลียแผล’

 

นับแต่ก่อร่างสร้างพรรคพลังประชารัฐ “สามมิตร” เป็นกลุ่มแรกๆ ที่แสดงตัวว่าเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองของกลุ่ม คสช.

 

 

แรกๆ ดูเหมือนว่า “สมศักดิ์-สุริยะ” จะจับมือกับสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และกลุ่ม 4 กุมาร แต่ผ่านไปแค่ปีเดียว กลุ่มสามมิตร ได้ร่วมมือกับกลุ่มมุ้งต่างๆ เบียดขับกลุ่ม 4 กุมาร ออกจากพรรคไป โดยชู พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และอนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค

 

 

เส้นทางสามมิตรในพลังประชารัฐ ดูจะราบรื่น แต่เกมเปลี่ยน เมื่อ พล.อ.ประวิตร เขย่าโครงสร้างพรรคใหม่ มอบให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค

สมศักดิ์ เทพสุทิน พ้นจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และอนุชา นาคาศัย พ้นจากตำแหน่งเลขาธิพรรค “บิ๊กป้อม” จึงมอบตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคให้สมศักดิ์ ลดแรงกระเพื่อม

 

 

จู่ๆ เกิดศึกยึดอำนาจกลางสภา พล.อ.ประยุทธ์ ปราบกบฏ ปลด 2 รมช. ส่งผลให้เกิดความร้าวฉานในกลุ่ม 3ป. แถมมีข่าว น้องเล็กจะยึดพรรค พี่ใหญ่ก็แก้เกมทันควัน แต่งตั้ง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคคนใหม่

 

 

“สมศักดิ์” ถูกปลดออกจากตำแหน่งไม่รู้เนื้อรู้ตัว แต่ด้วยความเก๋าเกม ขาใหญ่ “สามมิตร” จึงพูดในที่ประชุม ส.ส.พลังประชารัฐว่า “ก่อนหน้านี้ มีข่าวท่านหัวหน้าพรรคจะให้ผมเป็น ผมไม่น้อยใจ ความสำคัญของผม เทียบไม่ได้กับความมั่นคงของพรรค ผมไม่ติดใจ น้อมรับ และผมพร้อมทำงานเคียงข้างประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค”

 

 

นับแต่นั้น สมศักดิ์ได้หันไปทำงานด้านการบริหาร ไม่ได้สนใจเรื่องพรรค แกนนำสามมิตรคนอื่นๆ อย่างสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ล่องหนหายไปจากพรรค

 

 

‘เขย่าขั้วประยุทธ์’

 

ภาพที่เห็นช่วงประยุทธ์ออนทัวร์ เหมือนเป็นผนึกกำลังของ “สามมิตร” กับซุ้มมังกรน้ำเค็ม ที่มี สุชาติ ชมกลิ่น เป็นตัวเดินเกม แสดงตัวยืนเคียงข้างนายกรัฐมนตรี

 

 

ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล จึงรู้สึกไม่พอใจ

 

 

เกมสั่งสอน “สามมิตร” บวกสุชาติ จึงอุบัติขึ้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อ “ธรรมนัส” สั่งระดมพล ส.ส.ไปต้อนรับ พล.อ.ประวิตร

 

 

จริงๆแล้ว ส.ส.ที่ไปอยุธยาวันนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มธรรมนัส ประกอบด้วย เอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ,ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ,บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ,จีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา, ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก ,ภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก ,วัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง และณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์

 

 

กลุ่มโคราช ได้แก่ สมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา,เกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา ,ทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา และทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา

 

 

นอกจากนั้น ก็เป็น ส.ส.ที่มาจากหลายซุ้มหลายก๊วน แต่ ไผ่ ลิกค์ มือขวาธรรมนัส ในฐานะคนเช็คชื่อ ส.ส. ก็กระซิบบอกนักข่าวทันทีว่า มี ส.ส.มาต้อนรับ 55 คน ทั้งที่ตัวจริงมาแค่ 30 คน

 

 

ผู้ที่เสียหน้าอย่างแรงคือ สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่ถูกมองว่าไร้น้ำยา ไร้บารมีในการประสานงาน ส.ส.ในพรรค ส่วนแกนนำสามมิตรหายเข้ากลีบเมฆ

 

 

สงครามเย็นในพลังประชารัฐยังไม่ยุติ และคาดว่า “สมศักดิ์-สุริยะ” ได้วางแผนเรื่องอนาคตของสามมิตรไว้เรียบร้อยแล้ว

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง