คอลัมนิสต์

เหนื่อยแน่ "ประวิตร" ทัวร์อีสาน คะแนนเสียงจมน้ำ

เหนื่อยแน่ "ประวิตร" ทัวร์อีสาน คะแนนเสียงจมน้ำ

26 ก.ย. 2564

2 ป.แยกทาง "ประวิตร" ทัวร์อีสาน พึ่งวิรัช-เอกราช เช็กเรตติ้งพลังประชารัฐตกเป็นรองเพื่อไทยอยู่หลายขุม สุ่มเสี่ยงสูญพันธุ์ที่อีสาน คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

การลงพื้นที่อีสาน ไม่ใช่แค่การวัดกำลัง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขยับมากกว่านั้น เพราะศึกนี้มีเดิมพันอนาคตตัวเอง

 

 

รอยร้าว 2 ป.ยากจะกลบเกลื่อน "พล.อ.ประวิตร” เดินหน้าขับเคลื่อนพลังประชารัฐ โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นขุนศึกคู่ใจ

 

 

เฉพาะภาคอีสาน แม่ทัพของ “ประวิตร” คือ วิรัช รัตนเศรษฐ และเอกราช ช่างเหลา ฉะนั้น บิ๊กป้อมจึงเลือกลงพื้นที่ไปที่ จ.นครราชสีมา และอาจไปต่อที่ จ.ขอนแก่น

 

 

วันที่ 29 ก.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปตรวจสภาพน้ำท่วมทาง จ.ชัยภูมิ ส่วนวันที่ 30 ก.ย.2564 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ จะลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา

 

 

วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เตรียมการรอต้อนรับ พล.อ.ประวิตร และคาดว่า ส.ส.จังหวัดใกล้คงมาร่วมให้กำลังใจหัวหน้าพรรคอย่างคึกคัก

สนามเลือกตั้งภาคอีสาน นับแต่การเลือกตั้งทั่วไป 2544 จนถึงปี 2562 พรรคการเมืองของทักษิณ ทั้งไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ถือว่าเป็นแชมป์ภาคอีสานมาตลอด

 

 

ปี 2554 พรรคเพื่อไทย กวาด ส.ส.ภาคอีสาน 104 ที่นั่ง แต่ปี 2562 ลดลงเหลือ 83 ที่นั่ง แต่เพื่อไทยก็ยังเป็นแชมป์อีสาน

 

 

เซียนการเมืองวิเคราะห์ตรงกันว่า หากใช้บัตร 2 ใบแบบรัฐธรรมนูญ 2540 พรรคเพื่อไทยมีโอกาสสร้างชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ในภาคอีสาน เหมือนเลือกตั้งปี 2548

 

 

‘ขายป้อมขายบ่ได้’

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สร้างความมั่นใจให้ “พล.อ.ประวิตร” ว่า พลังประชารัฐสามารถเจาะพื้นที่ ส.ส.เขต ในภาคอีสานได้ จึงจัดการประชุมใหญ่ที่ จ.ขอนแก่น ในวันที่ ร.อ.ธรรมนัส ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค

 

 

ผลการเลือกตั้งปี 2562 พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.ในภาคอีสาน 15 คน (รวมทั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อและ ส.ส.เขต) และบรรดา ส.ส.เกรด A และ B ที่ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย สอบตกเกลี้ยง

ส.ส.พลังประชารัฐ อีสานวันนี้ บัญชีรายชื่อ 3 คนได้แก่ วิรัช รัตนเศรษฐ, สุพล ฟองงาม และเอกราช ช่างเหลา

 

 

ส่วน ส.ส.เขต แยกเป็น ขอนแก่น 2 คือ วัฒนา ช่างเหลา และสมศักดิ์ คุณเงิน

 

 

สุรินทร์ เขต 2 “เซี้ย สินอุดม” ณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ และอุบลราชธานี เขต 6 ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ จากเครือข่าย ส.เขมราฐ

 

 

สังเกตได้ว่า พื้นที่อีสานเหนือ และอีสานกลาง พลังประชารัฐพ่ายยับ ส่วน ส.ส.ที่เอาตัวรอดมาได้ ก็เพราะความแข็งแกร่งของฐานธุรกิจของแต่ละคน

 

 

ชัยภูมิ 2 คนคือ เชิงชาย ชาลีรินทร์ และสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สายตรงกลุ่มสามมิตร

 

 

นครราชสีมา 6 คน ได้แก่ ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ,อธิรัฐ รัตนเศรษฐ, ทัศนียา รัตนเศรษฐ ,ทัศนาพร เกษเมธีการุณ ,เกษม ศุภรานนท์ และสมศักดิ์ พันธ์เกษม

 

 

สาเหตุที่พลังประชารัฐ ได้ ส.ส.เป็นกอบเป็นกำจากโคราช และชัยภูมิ มาจากกระแสประยุทธ์ พ่อโคราชแม่ชัยภูมิ และฐานเสียงส่วนตัว เช่นตระกูลรัตนเศรษฐ

 

 

เลือกตั้งสมัยหน้า “ธรรมนัส” ตั้งใจจะหาม “ประวิตร” ไปสู้กระแสทักษิณ ก็เหมือนฝูงแมงเม่าบินเข้ากองไฟ

 

 

‘ขอนแก่นโมเดล’

“พล.อ.ประวิตร” อาจมั่นใจฝีมือ ร.อ.ธรรมนัส จากชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 ที่เอาชนะพรรคเพื่อไทยได้ แต่บริบทของเลือกตั้งซ่อม กับการเลือกตั้งทั่วไป ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

 

คนขอนแก่นรู้ดีว่า ชัยชนะของสมศักดิ์ คุณเงิน พลังประชารัฐ ต่อธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีปัจจัยชี้ขาดอะไรบ้าง

 

 

ตอนเข้าพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส หนีบ เอกราช ช่างเหลา มาเปิดตัวเป็นแม่ทัพอีสานกลาง ดูแลพื้นที่อีสานกลาง และอีสานเหนือบางจังหวัด แต่เอาเข้าจริง เอกราชก็ทุ่มเวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ จ.ขอนแก่น

 

 

ผลเลือกตั้ง เอกราชพาลูกชายเข้าสภาฯได้คนเดียว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายถึงฝีไม้ลายมือเชิงกลยุทธ์การเมือง

 

 

วันข้างหน้า ร.อ.ธรรมนัส คงจะพา พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่อีสานถี่ขึ้น แต่หารู้ไม่ว่า ทั้งบิ๊กป้อมและธรรมนัส เป็นจุดอ่อนของพลังประชารัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับทักษิณ

 

 

เลือกตั้งสมัยหน้า สนามขอนแก่น เอกราชจะพาวัฒนา ลูกชาย เข้าสภาได้หรือไม่ ยังเป็นคำถาม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง