คอลัมนิสต์

เรื่องเล่า "6ตุลา" ชวนหลบภัยขวาจัด เขียนวรรณกรรมบาดแผล

เรื่องเล่า "6ตุลา" ชวนหลบภัยขวาจัด เขียนวรรณกรรมบาดแผล

06 ต.ค. 2564

เสี้ยวประวัติศาสตร์ "6ตุลา" ฝ่ายขวาไล่ล่าชวน หลีกภัย หลบลมร้อนเขียนวรรณกรรมบาดแผลจากป่าใต้ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ประวัติศาสตร์ “6ตุลา” มีหลายด้านหลายมุม ไม่ได้มีแค่ฉากรุ่งสางกลางสนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ หากแต่ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่นอกรั้วมหาวิทยาลัย

 

หลายคนอาจลืมไปว่า เหตุการณ์ “6ตุลา” เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และความขัดแย้งของรัฐบาลผสม 4 พรรคคือ ประชาธิปัตย์,ชาติไทย ,ธรรมสังคมและสังคมชาตินิยม ก็เป็นหนึ่งในชนวนเหตุที่ก่อให้เกิดความรุนแรง

 

“6ตุลา” ผ่านมา 45 ปี จึงมีนักวิชาการปีกซ้าย เรียกร้องหาความรับผิดชอบของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์สมัยโน้น

ผลการเลือกตั้ง 4 เม.ย.2519 พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะด้วยเสียงมากที่สุด ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช จึงได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตั้งรัฐบาลผสม 4 พรรค ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ บริหารประเทศมาจนถึงเมื่อเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จึงสิ้นสภาพอย่างเป็นทางการ ด้วยการรัฐประหารของฝ่ายทหาร

 

‘ลมร้อนในนาคร’

ผลพวงแห่งการล้อมปราบ “6ตุลา” และรัฐประหาร ทำให้ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนฯ จำต้องหลบลมร้อนไปอยู่เมืองตรัง

 

หลังเลือกตั้งปี 2519 ชวน หลีกภัย ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ตรัง สมัยที่ 3 และได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

สถานการณ์ความขัดแย้งในสังคมไทย ระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย นับวันจะเผชิญหน้าและมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ภายในรัฐบาลเสนีย์ ก็มีความเห็นต่างในนโยบายด้านความมั่นคง เพราะพรรคชาติไทย ที่ยึดคำขวัญ “ขวาพิฆาตซ้าย” กดดันให้นายกฯเสนีย์ ดำเนินการทางกฎหมายกับขบวนการนักศึกษา

 

ภายในพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็แตกเป็น 2 ขั้วความคิด กลุ่ม ส.ส.กรุงเทพฯ อย่างธรรมนูญเทียนเงิน และสมัคร สุนทรเวช ให้ท้ายกลุ่มพลังมวลชนฝ่ายขวา ขณะที่ สุรินทร์ มาศดิตถ์ และดำรง ลัทธพิพัฒน์ ถูกมองว่าถือหางนักศึกษา

 

ก่อนถึงเดือน ต.ค.2519 กระแสขวาพิฆาตซ้ายรุนแรงมาก กลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง และกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน ปลุกระดมโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ว่าสนับสนุนฝ่ายซ้าย โดยนักการเมือง 3 คน ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ได้แก่ สุรินทร์ มาศดิตถ์, ดำรง ลัทธพิพัฒน์ และชวน หลีกภัย

 

หลังรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 กลุ่มพลังมวลชนฝ่ายขวา ได้จุดกระแสไล่ล่านักการเมืองที่ถูกประทับตราเป็นคอมมิวนิสต์ ชวน หลีกภัย คือเหยื่อคนหนึ่งที่ต้องหลบหนีไปต่างจังหวัด

 

‘เย็นลมป่า’

ผลสะเทือนจากการล้อมปราบ “6ตุลา” สังคมไทยในเวลานั้นแตกแยกรุนแรงล้ำลึก กระทั่งชวน หลีกภัย ต้องหลบไปอยู่ในชนบทของจังหวัดตรัง และทำให้เกิดหนังสือชื่อ “เย็นลมป่า”

 

ชวนหลบร้อนมายังบ้านเกิด ครั้งนั้นเขามีโอกาสรับรู้เรื่องของผู้คนที่รู้จัก คุ้นเคย และไม่เคยพบพานมาก่อน ทั้งหมดล้วนประสบชะตากรรมเดียวกัน

 

เวลานั้น สงครามประชาชนได้เกิดขึ้นแล้วในชนบทของภาคใต้ รวมถึงเมืองตรังด้วย ชวนได้ถ่ายทอดเรื่องราวของชาวบ้านในป่ายางที่พยายามดำเนินชีวิตอย่างไม่เลือกข้าง ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐกับ พวกป่า (ชาวบ้านมักเรียกสหายแห่งกองทัพปลดแอกฯว่า พวกป่า)

 

ตอนแรก ชวน หลีกภัย เขียนเรื่องเล่าจากป่ายางเป็นตอน ๆ ส่งไปตีพิมพ์ในนิตยสารพาที ตามคำชักชวนของ ขรรค์ชัย บุนปาน บรรณาธิการ ก่อนจะนำรวมเล่มในช่วงปี 2522

 

ตอนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ ชวนเขียนไว้ในหน้า 81 “วันปีใหม่ได้จบลงเพียง 1 มกราคม 2521 อนาคตไม่ได้สิ้นสุดลงเพียงวันพรุ่งนี้ ใครจะบอกได้ว่า เหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม 2519 มิใช่หลุมศพอันลึกใหญ่ที่เขาช่วยกันขุดฝังตัวเอง อนาคตเท่านั้นที่จะบอกเรา”

 

งานเขียนเรื่องเย็นลมป่า คือวรรณกรรมที่สะท้อนภาพความขัดแย้งในชนบทภาคใต้ยุคสงครามเย็น และได้เห็นร่องรอยความคิดของ ชวน หลีกภัย ช่วงหลัง 6 ตุลาคม 2519