คอลัมนิสต์

ปั้นลูกเขย "ทักษิณ" ผู้นำยุคใหม่ คนรุ่นเจนเอ็กซ์เจนวาย

ปั้นลูกเขย "ทักษิณ" ผู้นำยุคใหม่ คนรุ่นเจนเอ็กซ์เจนวาย

14 ต.ค. 2564

ยิ่งกว่าแลนด์สไลด์ "ทักษิณ" มั่นใจค่ายเพื่อไทยชนะ รอเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ชี้สเปคคนรุ่นเจนเอ็กซ์เจนวาย ใช่ลูกเขยหรือไม่ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

มาตามนัดทุกค่ำวันอังคาร โทนี่หรือ “ทักษิณ” เปิดประเด็นพาดหัวข่าวหน้า 1 นสพ.หลายฉบับ ยกมือไหว้รุ่นน้อง พล.อ.ประยุทธ์ “ให้คนรุ่นใหม่เขามาทำเถอะ พอแล้วคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ เราไม่ทันเด็กแล้ว”

 

กว่า 8 เดือน “ทักษิณ” เขย่าพี่น้อง 3ป.ทุกสัปดาห์ เรียกเรตติ้ง เรียกคะแนนให้พรรคเพื่อไทยทางอ้อม แต่จนถึงวันนี้ เพื่อไทยก็ยังสรุปไม่ได้ว่า จะส่งชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

 

สัปดาห์นี้ “ทักษิณ” ย้ำคำว่า “คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ อย่าเป็นนายกเลย ล้าหลังแล้ว ต้องให้เด็ก GenX GenY มาเป็นแทน” คนแดนไกลต้องส่งสัญญาณอะไรหรือ

 

เมื่อคืนวันอังคารที่ 12 ต.ค.2564 ทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ มากับแฟนคลับในหัวข้อ “7 ปีพัง ขออีก 5 ปีคงพินาศ ฮัลโลคนไทยไว้ใจประยุทธ์ได้หรือ” ผ่านรายการ CareTalk x Care Clubhouse โดยครั้งนี้ ทักษิณพยายามตอกย้ำเรื่อง 3 ป.ตกยุค อย่ารักษาเก้าอี้ต่อไปเลย

คืนวันเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า ทักษิณได้วิดีโอคอลพูดคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.ประมาณ 30 คน ที่รับประทานอาหารในเซฟเฮาส์ย่านเหม่งจ๋าย โดยบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยุบสภาแน่นอน ขอให้เตรียมพร้อมเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นความหวังของประชาชนที่จะเข้ามา ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด

 

ทักษิณย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยมีโอกาสชนะยิ่งกว่าแลนด์สไลด์ เนื่องจากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย จะเป็นคนรุ่นใหม่ GenX GenY

 

‘ลูกเขยจริงหรือ’

ย้อนไปช่วงปี 2561 ระหว่างจัดทัพเลือกตั้ง “ทักษิณ” ประกาศข้ามประเทศว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแบบหิมะถล่ม แต่ตอนนั้นยังหาหัวหน้าพรรคตัวจริงถือธงนำไม่ได้ ซึ่งมีการคาดเดาไปต่างๆ นานา

จังหวะนั้น ปรากฏชื่อ “พงศ์” ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ของทักษิณ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย

 

หลังข่าวกระหึ่มประเทศ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ได้ให้สัมภาษณ์ไทยรัฐออนไลน์ว่า “ผมไม่สนใจเล่นการเมือง ตอนนี้ Passion ผมเป็นเรื่องธุรกิจที่กำลังทำ ผมถนัดทางนี้ ขอลุยทางนี้ Passion ผมคือเรื่องธุรกิจ ผมถนัดทางด้านธุรกิจ ไม่ถนัดการเมือง มันเป็นเรื่องของอนาคต อยากทำตรงนี้ให้ดีที่สุด อนาคตยังไม่ได้คิดครับ” (วันที่ 22 ส.ค.2561)

 

เมื่อข่าวลูกเขยจะมาถือธงเพื่อไทยเงียบหายไป ทักษิณก็ผุดพรรคไทยรักษาชาติ เพื่อสู้ตามกติกาเลือกตั้งของฝ่าย คสช. และแก้ปัญหาความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย โดยอพยพกลุ่มคนที่มีปัญหากับคุณหญิงสุดารัตน์ มาอยู่ไทยรักษาชาติ

 

ปัจจุบัน ณัฐพงศ์ สามีของพินทองทา ลูกสาวคนโตของทักษิณ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในวันที่สื่อพูดถึงณัฐพงศ์มากขึ้น แต่ก็ยังไม่เสียงตอบรับหรือปฏิเสธจากปากลูกเขยทักษิณ

 

‘ต้องสู้พิธา’

ชั่วโมงนี้ “ทักษิณ” และแกนนำเพื่อไทย คงไม่ได้มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในสนามเลือกตั้ง ยิ่งความสัมพันธ์ภายใน 3 ป. มีรอยร้าว ยิ่งทำให้คะแนนนิยมของ พปชร.ตกต่ำลงเรื่อยๆ

 

พรรคก้าวไกล และพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต่างหากที่เป็นคู่แข่งสำคัญของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น การจะวางตัวใครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ” จึงครุ่นคิดหนัก

 

นิด้าโพลครั้งล่าสุด เมื่อปลายเดือน ก.ย.2564 คนไทยร้อยละ 32.61 ยังไม่มีนายกรัฐมนตรีในดวงใจ แต่ร้อยละ 11.05 ชื่นชอบพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งคะแนนนิยมของพิธา ใกล้เคียงกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

 

หันไปมองอีสานโพล ช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ คนอีสานร้อยละ 24.0 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นนายกรัฐมนตรี รองลงมาคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 23.0 ตามมาด้วยหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 22.1

 

กระแสพิธา ผู้นำรุ่นใหม่ในภาคอีสานมาแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับกระแสไม่เอาประยุทธ์ ทั้งในเขตเมืองและเขตชนบท เพราะเขาเป็นตัวแทนคนรุ่น GenX GenY

 

กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ยังกังวลเรื่องผู้ถือธงนำของพรรค หากได้บุคคลที่ไม่โดดเด่นเท่ากับพิธา และมีภาพลักษณ์เป็ยตัวแทนคนรุ่นใหม่ เพื่อไทยก็คงเหนื่อยแน่

 

ดังนั้น หวยจะออกที่ลูกเขยหรือไม่ คำตอบสุดท้ายคงไม่อยู่ที่ “ทักษิณ” คนเดียว หากยังจะต้องฟังคุณหญิงจันทร์ส่องหล้าด้วย