อึ้ง “หนุ่ยเทวดา” บอดี้การ์ดอดีตนายกฯ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” คืนรัง สตช.
อึ้งไปตามกัน กับโผแต่งตั้งนายตำรวจ พบชื่อ “ผกก.หนุ่ย” พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย นายตำรวจติดตามอดีตนายกฯ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ คัมแบ็ค นั่งตำแหน่งรอง ผบก.กชข.
ทันทีที่มีโผรายชื่อปรากฏออกมาว่า พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ประจำ บช.ส. หรือ "ผกก.หนุ่ย" อดีตบอดี้การ์ด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขยับเป็นรองผู้บังคับการกลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (รอง ผบก.กชข.) ตามที่เว็บไซต์กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เผยแพร่คำสั่ง ตร. ที่ 583/2564
หลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งราชการตำรวจ ระดับ ผู้กำกับการฯ และรองผู้บังคับการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 583-585/2564 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ทั้งที่ผู้กำกับหนุ่งเคยถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงมาแล้วเมื่อปี 2562 เนื่องจากพบว่า พ.ต.อ.วทัญญู หรือ "ผกก.หนุ่ย" เคยปรากฎข่าวถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง กรณีปรากฏภาพในขณะที่ พ.ต.อ.วทัญญู ได้ติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปเชียร์ฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย
เหตุการณ์เมื่อครั้งนั้น ปรากฏว่า พ.ต.อ.วทัญญู มีการร้องทุกข์ต่อ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. โดยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562 คณะอนุกรรมการ ก.ตร.ชุดร้องทุกข์ ข้อหารือปัญหาข้อกฎหมาย กับที่ประชุม ก.ตร. แต่กรณีที่พ.ต.อ.วทัญญู ได้ร้องทุกข์ไว้นั้นได้มีการถอนวาระดังกล่าวออกไป และมีรายงานด้วยว่าจนถึงขณะนี้การพิจารณายังไม่แล้วเสร็จและกรณีดังกล่าวคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มี พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ แจ้งอริยวงศ์ รองผบก.อก.บช.ส.เป็นประธาน พบว่าพ.ต.อ.วทัญญู มีการเดินทางออกนอกประเทศ 9 - 10 ครั้ง โดยไม่ขออนุญาตต่อผู้บังคับบัญชา และไม่มีการลาราชการตามระเบียบของทางราชการ
ต่อมา พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) จึงได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับ พ.ต.อ.วทัญญู โดยมี พ.ต.อ.พิทยา การะเกษ รองผบก.ส.3 เป็นประธาน โดย ผบช.ส. ยืนยันว่ามีตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับ พ.ต.อ.วทัญญู จริง และหลังจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตรวจสอบพบว่ามีมูลการกระทำผิดวินัย ส่วนผลการสอบสวนและรายละเอียดต่าง ๆ ปิดเป็นความลับ
สำหรับกรณีนี้ตามขั้นตอนของกฎหมาย ยังไม่ถือว่าถึงที่สุด พ.ต.อ.วทัญญู สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อ ก.ตร.ได้ หาก ก.ตร.พิจารณาแล้วมีความเห็นยืนตามต้นสังกัด พ.ต.อ.วทัญญู ก็สามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งจากนายตำรวจระดับสูง ระบุถึงผลการสอบสวนล่าสุดของผู้กำกับการหนุ่ยว่า “ถ้ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวน และมีการยื่นอุทธรณ์ ก็ต้องคืนตำแหน่งให้ไปก่อน จนกว่าจะมีการชี้ชัดว่าผิดจริง จึงจะให้ออก ซึ่งขั้นตอนจากนี้ ยังไม่รู้ว่าไปถึงไหนแล้ว” นายตำรวจระดับสูงระบุ
กระทั่งล่าสุด ผู้กำกับการหนุ่ย ก็ตกเป็นข่าวฮือฮายิ่งกว่าข่าวแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ด้วยการกลับเข้ามารับราชการตำรวจในตำแหน่งรองผู้บังคับการกลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (รอง ผบก.กชข.)
แน่นอนเมื่อมีข่าวว่า ผู้กำกับหนุ่ยได้กลับเข้ามารับราชการอีกครั้ง.. สปอตไลท์ก็ฉายพรึ่บทาบทับร่างของผู้กำกับหนุ่ย ไม่ต่างจากแสงและเสียงแฟลตชัตเตอร์ที่กดรัว ๆ ของสื่อมวลชน ถ้าหากบังเอิญเดินชนกับผู้กำกับหนุ่ย ณ วินาทีนี้
“กลับมาได้ไง?” คำถามนี้อาจผุดขึ้นในหัวของหลาย ๆ คน ทั้งที่เป็นทั้งคนข่าวคอการเมือง คอตำรวจ คอสื่อมวลชน หรือคอ FC อดีตนายกฯทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะทุกคนย่อมรู้ดีว่าสมัยที่ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะมีนายตำรวจหน้าตาดี มาดดี เดินประกบไม่ห่าง คอยกันและอารักขานายใหญ่ทั้งสอง ผู้ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ “เจาะประเด็นร้อน” โดย อักษร 8 ทิศ เกาะติดชีวิตผู้กำกับหนุ่ย มาให้พอเห็นภาพถึงเส้นทางชีวิตของนายตำรวจผู้นี้ที่ไม่ธรรมดา.. ขนาดว่าบางช่วงบางตอนของชีวิตเขานั้น ถูกเรียกขานว่า “หนุ่ยเทวดา” กันเลยทีเดียว
ผู้กำกับหนุ่ย หรือ พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย นายตำรวจคนดัง เกิดเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2513 ปัจจุบันอายุ 49 ปี เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ 49 เส้นทางชีวิตราชการของผู้กำกับการหนุ่ย โลดโผนและน่าสนใจไม่น้อยเพราะ
ในอดีตนั้น เขาเคยรั้งตำแหน่ง ผกก.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล แต่ประเด็นที่ทำให้ผู้กำกับหนุ่ย.. กลายเป็นนายตำรวจดาวเด่น ดาวรุ่งพุ่งแรงแซงโค้งชนิดหาตัวจับยากได้นี้ เป็นเพราะผู้กำกับการหนุ่ยได้เข้าทำหน้าที่คอยติดตามและอารักขา อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และภาพก็ยิ่งโดดเด่นมากยิ่งขึ้นเมื่อมาเดินประกบคู่กับอดีตนายกฯ “ปูคนสวย” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ผู้กำกับการหนุ่ย.. บรรจุเข้ารับราชการครั้งแรกในกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ทำให้ได้มีโอกาสรู้จักกับ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัย นายทักษิณ ชินวัตร สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งในขณะนั้น พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ดำรงตำแหน่งในกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
ต่อมา พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ได้โยกมาเป็นผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ทำหน้าที่ดูแลงานรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และเป็นหัวหน้าทีมอารักขานายทักษิณ ทำให้ดึงตัวผู้กำกับการหนุ่ย ผู้เป็นคนคุ้นเคยและรู้มือ รู้ใจ รู้ศักยภาพในการทำงานกันเป็นอย่างดี เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมอารักขาผู้นำประเทศด้วย
หลังจากที่รัฐบาลนายทักษิณ ถูกรัฐประหารเมื่อปี 2549 ผู้กำกับการหนุ่ย ในฐานะหัวหน้าชุดคุ้มกันคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ถูกย้ายลงใต้เป็น สวป.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา แต่ภายหลัง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้น ได้มีคำสั่งขอตัวผู้กำกับการหนุ่ย มาช่วยราชการในสำนักงาน รอง ผบ.ตร.
แต่ทันทีที่พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2551 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ในขณะนั้น จึงได้คำสั่งโยกย้ายผู้กำกับการหนุ่ย กลับเข้าทำงานที่สันติบาลอีกครั้ง ในตำแหน่งสารวัตร สังกัดกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร
ต่อมาในปี 2555 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ผบ.ตร. ขณะนั้นได้เซ็นแต่งตั้งนอกวาระให้ผู้กำกับการหนุ่ย ขยับขึ้นเป็น รอง ผกก. ในตำแหน่งผู้ช่วยนายเวร (สบ.3) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ซึ่งการแต่งตั้งในครั้งนี้ถือเป็นการแต่งตั้งที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เพราะเหลือระยะเวลาเพียงแค่เดือนเศษก็จะถึงวาระการแต่งตั้งประจำปี แต่ปรากฏว่าผู้กำกับการหนุ่ย ไม่ได้ทำหน้าที่ผู้ช่วยนายเวรแต่อย่างใด แต่ไปปรากฎตัวในฐานะหัวหน้าทีมอารักขา น.ส.ยิ่งลักษณ์ เช่นเดิม
ช่วงเวลาต่อจากนั้นไม่นาน วันที่ 14 มิ.ย. 2556 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในขณะนั้น ได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้กำกับการหนุ่ย ในตำแหน่งผู้ช่วยนายเวร (สบ.4) เทียบเท่าตำแหน่ง ผกก. โดยใช้วิธียกเว้นหลักเกณฑ์ เนื่องจากผู้กำกับการหนุ่ย อยู่ในตำแหน่งรองผู้กำกับการไม่ครบ 3 ปี
แต่เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองพลิกผัน เมื่อสิ้นวาสนาของนายใหญ่ทั้งสอง และตัวเองก็ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงไปด้วย ชีวิตต้องระเหเร่ร่อนเพียงใดนั้น ผู้กำกับหนุ่ยรู้ซึ้งดีกว่าใคร ซึ่งบางคนอาจตั้งคำถามว่าเขาไปอยู่ที่ไหน ไปอยู่ลอนดอนกับอดีตนายกฯ ปู หรือไปดูงาน ช่วยงานอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ดูไบ แต่ที่แน่ๆ วันนี้ผู้กำกับการหนุ่ยกลับเข้าสู่รั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง เรียกว่าเป็นผู้กำกับการ “หนุ่ยเก้าชีวิต” ก็ว่าได้.. เขากลับมาได้ยังไง? ยังต้องสืบค้นในเบื้องลึกกันต่อไป