ภารกิจต่อไปของ"ลุงป้อม" ปรับภาพ"พลังประชารัฐ"ให้โดนใจ
ฝุ่นควันการแตกแยกของ3ป.น่าจะจางลง หลังจาก"ลุงตู่กับลุงป้อม"ลงพื้นที่จ.อุดรธานีพร้อมกันเป็นครั้งแรก และอาจเป็นฤกษ์ดีที่สมาชิกและส.ส.พปชร.รอมาหลายชั่วยาม ภารกิจจากนี้ คือการปรับภาพลักษณ์ พปชร.เพื่อรอลงสนาม กับเจาะประเด็นร้อน โดย เมฆาในวายุ
กระแสขัดแย้งของแกนนำ3ป."พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ" น่าจะบรรเทาลงแล้ว
ฝุ่นควันการแตกแยกของ3ป.น่าจะจางลง หลังจาก"ลุงตู่กับลุงป้อม"ลงพื้นที่จ.อุดรธานีพร้อมกันเป็นครั้งแรก และอาจเป็นฤกษ์ดีที่สมาชิกและส.ส.พปชร.รอมาหลายชั่วยาม
"การหนุน"ลุงตู่"ทำงานครบวาระและไม่ขอเป็นสร.1แน่นอน" คือคำยืนยันของ"ลุงป้อม"ที่ต้องการแจ้งสังคมให้รับรู้(นัยว่าสยบแรงกระเพื่อมทางการเมืองทั้งในและนอกพรรค)
ดังนั้นการบ้านในห้วงหนึ่งปีเศษจากนี้ไปคือ "การปรับภาพลักษณ์พรรคเพื่อตอบโจทย์หย่อนบัตรสนามต่อๆไป"(เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.+นายกเมืองพัทยา/เลือกตั้งส.ส.) หัวหน้าพรรคพปชร.ต้องกุมบังเหียนบัญชาการให้ ลูกพรรค พปชร.เดินไปให้ถึงฝั่งฝันเพื่อกลับสภาเกียกกายอีกครั้งในจำนวนที่ไม่น้อยกว่าคราวที่แล้ว
"ลุงป้อม"มีงานใหญ่ที่ขอแรงคนขั้วพปชร.ในวาระอันใกล้ให้ดำเนินการคือ "ลงพื้นที่เกาะติดชาวบ้าน-รายงานสถานการณ์ในพื้นที่ให้รัฐบาลรับรู้เพื่อแก้ปัญหา-ทำงานในรัฐสภาอย่างเต็มที่-วางตนให้สังคมยอมรับ-อย่าทำผิดกติกาที่ทำให้เสียชื่อเสียงของตัวเองและพรรค"
หากใครมิดำเนินการแล้วนั้น...."โอกาส"ที่จะได้รับในการขอความไว้วางใจจากประชาชนก็น่าจะปิดไป เพราะมองแล้ว"ลุงป้อม"คงไม่การันตีคนที่มีปัญหาลงสมัครส.ส.ในนามพรรคครั้งหน้าแน่นอน เนื่องจากป้ายต่อไป หลากพรรคทั้งใหม่และเก่า(รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลในตอนนี้)จะล้อมโต๊ะพปชร.แบบล็อกดาวน์เพื่อชิงแต้มให้ผู้สมัครส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ให้มากที่สุด
สายสืบในพลังประชารัฐ แจ้งว่า เมื่อเกมการเมืองส่อแววจะขยับไปแบบนี้ คำขอแรงจากปาก"ลุงป้อม"ส่งไปยังคนในพรรคให้ดำเนินการนั้น "ต้องดำเนินการทันที" และยังทราบมาว่า ตอนนี้ส.ส.และสมาชิกพรรคที่มี"คดีความค้างคา-ใครบางคนที่เริ่มปันใจจ่อย้ายบ้าน-ผู้แทนฯที่มิขยับตามคำสั่งหัวหน้าพรรค"นั้น "ลุงป้อม"น่าจะมีการวาง"ตัวสำรองทางการเมือง"ไว้แล้วเนิ่นๆ
โดย"คนที่ไม่ขยับตามคำสั่งหัวหน้าพรรค" (ลงพื้นที่น้อย-โดดประชุมรัฐสภาบ่อยครั้ง)นั้น ทราบว่ามีขั้นตอนลงโทษหลายระดับที่แจ้งให้ทราบกันทั่วพรรคแล้ว
ส่วน"คนที่มีคดีความ"นั้น อาทิ "เอกราช ช่างเหลา" ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์และแกนนำอีสานเหนือ จากคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นหลายร้อยล้านบาทซึ่งเอกราชไปเกี่ยวพัน
คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่จะชี้สถานภาพ ส.ส.ของ "พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์"อดีตรมว.ดีอีเอสและส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ "
"ธนิกานต์ พรพงศาโรจน์" ส.ส.กทม. จากเหตุเสียบบัตรแทนกัน
"สิระ เจนจาคะ" ส.ส.กทม.เกี่ยวกับ"คุณสมบัติสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร"ในคดีเคยต้องคำพิพากษาฉ้อโกง
"ปารีณา ไกรคุปต์"ส.ส.ราชบุรี ในคดีถือครองที่ดินโดยมิชอบ
"วิรัช รัตนเศรษฐ"ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์และครอบครัวกับคดีโกงงบสนามฟุตซอล
"สามารถ เจนชัยจิตวนิช" อดีตผู้ช่วยรมต.ยุติธรรมกับเหตุส่งตำรวจไปเรียนและเข้าสอบแทน
"ลุงป้อม"น่าจะมีตัวเลือกสำรองในใจแล้ว รอเพียงการชี้ขาดจากกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับแผนการเล่นด้วยการส่งผู้เล่นหน้าใหม่ลุยพื้นที่เหล่านั้นแทนบุคคลของพรรคที่อาจต้องรับโทษจากผลการกระทำของตัวเอง
ด้าน"คนที่จ่อย้ายสังกัด"นั้น ทราบว่า"ลุงป้อม"ได้หารือขั้นต้นทำความเข้าใจกันและกันไปบ้างแล้ว แต่หากรั้งไว้ไม่ได้ก็แล้วแต่การตัดสินใจ และยังจ่อเปิดตัวคนมากบารมีทางการเมืองมาช่วยงานพปชร.ในห้วงถัดไปด้วย
ตอนนี้พรรครอประเมินผลว่า "การเมืองช่วงต่อไปนั้นจะทำให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติด้วยวิธีใดบ้าง"
ดังนั้นการบ้านข้อใหญ่ที่ลุงป้อมหวังใจไว้สำหรับการเมืองวันข้างหน้าคือ "สร้างพปชร.ให้เป็นปึกแผ่นและสังคมยอมรับ ทำให้บ้านเมืองสงบและประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น"
แปลว่า"ทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่พรรคพลังประชารัฐ" และสิ่งนี้"ลุงป้อม"ทราบดี ฉะนั้น หากสิ่งที่หวังไว้ว่าจะสำเร็จผลนั้น การปรับภาพลักษณ์พปชร.ให้เดินไปตามแนวทางที่ลุงป้อมวางไว้
"ต้องลงมือทันที...เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในวันข้างหน้า"