คอลัมนิสต์

“เบอร์เดียว” เพื่อไทย  แลนด์สไลด์หรือฝันกลางวัน

“เบอร์เดียว” เพื่อไทย แลนด์สไลด์หรือฝันกลางวัน

06 ธ.ค. 2564

เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งหน้า นอกจากใช้บัตร 2 ใบ ยังมีการชงประเด็นใช้ “เบอร์เดียว” ทั่วประเทศสำหรับผู้สมัครพรรคเดียวกันด้วยโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ออกอาการมากกว่าพรรคอื่น โดยมองว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ชนะแบบแลนด์สไลด์ตามที่พรรคฯตั้งเป้าไว้… ทำไมเป็นเช่นนั้น

เลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยชูธง ชนะแลนด์สไลด์  ตามที่มีการเปิดแคมเปญ “ครอบครัวเพื่อไทย แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน”  ออกมาสร้างกระแส 

 

เพราะว่าถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ชนะพรรคพลังประชารัฐที่กุมอำนาจรัฐอยู่ในปัจจุบันชนิดถล่มทลาย เสร็จ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่ๆ เนื่องจากมีสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)จำนวน 250 คนที่มาจาก คสช. อยู่ในมือ ( ส.ว.ชุดนี้มีอายุ 5 ปี ครบกำหนดหลังอายุรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรที่มีเพียง 4 ปี ) ที่พร้อมโหวตให้ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย     

 

แน่นอนว่าในการที่พรรคเพื่อไทย จะไปสู่เป้าหมาย แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ต้องมีปัจจัยหลายอย่างเอื้ออำนวย อย่างเช่น การเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งหน้า กลับมาใช้บัตรเลือกตั้งแบบสองใบที่ทำให้พรรคการเมืองใหญ่ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยได้เปรียบพรรคการเมืองอื่นและการเลือกตั้งครั้งหน้า อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร  ก็ทุ่มเต็มที่ เห็นได้จากการส่งลูกสาวคนเล็ก อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร  ชินวัตร  เข้ามาคุมพรรคเพื่อไทยโดยตรง ในตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม  
 

 

แต่ปัจจัยที่สำคัญอีกอันหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย ก็คือ การที่พรรคเพื่อไทยพยายามผลักดันให้ใช้ ”เบอร์เดียว” ในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า

 

“เบอร์เดียว“ หมายถึงในการเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งประเภทบัญชีรายชื่อ(ปาร์ตี้ลิสต์)และส.ส.เขต ใช้หมายเลขเดียวกันทั้งพรรค(ซึ่งในทางปฏิบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งในลำดับที่1บัญชีรายชื่อหรือหัวหน้าพรรคจับสลากหมายเลขผู้สมัครฯกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้หมายเลขใด ผู้สมัครรับเลือกตั้งก็ใช้หมายเลขนั้นกันทั้งพรรค )

 

ชูศักดิ์ ศิรินิล  กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย บอกว่า กฎหมายลูก คือ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เบอร์ที่ใช้ในการเลือกตั้งให้ใช้ "เบอร์เดียว" ทั้งประเทศ โดยใช้เบอร์จากการสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นตัวตั้ง 

 

เช่นเดียวกับนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  บอกถึงแนวทาง"บัตรเบอร์เดียว"ว่า..ในส่วนพรรคเพื่อไทย เราเสนอร่างกฎหมายนี้อยู่แล้ว และก็สอดคล้องกับ กกต.ด้วย เพราะ กกต.เสนอว่าให้มีบัตรเลือกตั้งที่เป็นเลข "เบอร์เดียว" ทั้งในส่วนของพรรคและผู้สมัคร ส.ส. เพื่อความสะดวกของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นหลัก และสะดวกแก่พรรคการเมืองในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ป้องกันความสับสนและป้องกันบัตรเสีย เพราะถ้าบัตรแยกกันจะเกิดความสูญเสียเยอะมาก ก็กำลังรณรงค์เรื่องนี้กันอยู่ 

 

ทำไม พรรคเพื่อไทย ต้องการให้ใช้ “เบอร์เดียว” ในการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งหน้า นักหนา

หากเรามองย้อนไปถึงผลการเลือกตั้ง ส.ส.ในอดีต  ก็จะได้คำตอบ

“เบอร์เดียว” เพื่อไทย  แลนด์สไลด์หรือฝันกลางวัน

                         ที่มาภาพ THAKSIN official

-การเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2544  ที่มีขึ้นในวันที่ 6 มกราคม ซึ่งนับว่าเป็นการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งแรกในระบบใหม่ ตามรัฐธรรมนูญปี 2540  ที่แบ่ง ส.ส.ออกเป็น 2 ประเภท คือ ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน และแบบแบ่งเขตเลือกตั้งอีก 400 คน รวม 500 คนและใช้หมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.“เบอร์เดียว” สำหรับพรรคการเมืองเดียวกัน 

 

ผลการเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทย ที่จับสลากได้หมายเลข 7 ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายได้ถึง 248 ที่นั่ง แบ่งเป็น ส.ส.เขต จำนวน 200 ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 48 ที่นั่ง  คิดเป็น 49.6 % ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด ขาดเพียง 3 ที่นั่ง พรรคไทยรักไทย พรรคเดียวก็จะได้ที่นั่ง ส.ส. เกินครึ่งของจำนวน ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร

 

และชนะขาดพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนนำพรรครัฐบาลอยู่เดิมก่อนการเลือกตั้งที่ได้รับเลือกตั้งเพียง 128 ที่นั่งเท่านั้นโดยได้ ส.ส. เขต 97 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 31 คน 

 

นอกจากนั้นเมื่อเทียบผลการเลือกตั้งก่อนหน้านั้น 3 ครั้ง พบว่าพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงอันดับ1 ได้จำนวน ส.ส.เพียง 22-32% ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดและใกล้เคียงกับพรรคได้คะแนนเลือกตั้งอันดับ 2 มาก 

 

แต่การเลือกตั้งปี 2544 พรรคไทยรักไทยทิ้งห่างพรรคประชาธิปัตย์เกือบเท่าตัว คือ 248 ต่อ 128 ที่นั่ง

 

ปัจจัยที่ทำให้ผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้  ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ คือ การแบ่งเขตเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว เขตที่เล็กลง ทำให้ผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงแบบเข้าถึงประชาชนได้ทั่วถึงมากขึ้น ทุกพรรคการเมืองใช้เพียง “เบอร์เดียว” ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั้งประเทศ ทำให้ง่ายต่อการจดจำของประชาชนผู้มาเลือกตั้ง

 

ยิ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ ก็จะหาเสียงโดยชูตัวหน้าพรรคหรือผู้สมัคร ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 ของพรรคการเมืองนั้นเนื่องจากเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จนมีการพูดกันว่า ส่งเสาไฟฟ้า(ผู้สมัครโนเนม) ลงสมัคร ส.ส.เขต ก็ยังได้รับเลือกตั้งเลย  

 

หลังการเลือกตั้งปี 2544 พรรคไทยรักไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดย ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี   

 

-การเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2548  

“เบอร์เดียว” เพื่อไทย  แลนด์สไลด์หรือฝันกลางวัน

                            ที่มาภาพเฟซบุ๊ก Ing Shinawatra

ต่อมาในเลือกตั้ง ส.ส. ทั่วไป ที่มีขึ้นเมื่อวันที่  6  ก.พ. ปี 2548 ซึ่งใช้ “เบอร์เดียว” ในการเลือกตั้งเช่นกัน พรรคไทยรักไทยได้หมายเลข 9 และได้ชัยชนะชนิดแลนด์สไลด์อย่างที่พรรคการเมืองใดไม่เคยได้รับมาก่อน โดยพรรคไทยรักไทยได้รับการเลือกตั้งเกินครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ถึง 377 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 500 ที่นั่ง ทักษิณ ชินวัตร  ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่สอง และรัฐบาลไทยรักไทยในสมัยที่ 2  เป็นรัฐบาลชุดแรกในประวัติศาสตร์ ที่มาจากพรรคการเมืองเดียวซึ่งได้รับเลือกตั้งเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

 

-การเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2554 

“เบอร์เดียว” เพื่อไทย  แลนด์สไลด์หรือฝันกลางวัน

การเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2554 มีขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญฯ 2550แก้ไขเพิ่มเติมปี 2554  ซึ่งกำหนดให้มี ส.ส.ทั้งสิ้น 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต 375 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 125 คน โดยจัดการเลือกตั้งขึ้นเมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 และใช้ “เบอร์เดียว” เช่นกัน

 

ผลเลือกตั้งออกมาพรรคเพื่อไทย ที่ได้หมายเลข 1 ได้ที่นั่ง ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งคือ ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อและ ส.ส.เขต รวมกัน 265 ที่นั่ง นับเป็นครั้งที่สองที่มีพรรคการเมืองได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1ของพรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย 

 

จะเห็นได้ว่า การเลือกตั้งทั้ง 3 ครั้ง ในปี 2544  ปี 2548  และปี 2554   พรรคไทยรักไทยและต่อมากลายเป็นพรรคเพื่อไทยในภายหลัง ได้รับชัยชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นจากการเลือกตั้งที่ใช้ “เบอร์เดียว” ในการหาเสียง 

 

สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งหน้า จะใช้ “เบอร์เดียว” ทั้งประเทศ อีกหรือไม่ก็อยู่ที่กฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะออกมา 

 

ซึ่งขณะนี้ทั้งคณะรัฐมนตรีฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างเตรียมร่างกฎหมายลูกทั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง  ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา 

 

อาทิ- ร่างกฎหมายลูกที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (มีผู้ร่างคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง)ซึ่งจะเป็น ร่างหลัก ในการพิจารณาของรัฐสภาโดยร่าง กกต.กำหนดให้ใช้ “เบอร์เดียว”สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคเดียวกัน 

 

-ร่างกฎหมายลูกของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ตั้งคณะกรรมการร่วมกันโดยมี “วิเชียร ชวลิต” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน 

 

-ร่างกฎหมายลูกของพรรคเพื่อไทย ( ใช้ “เบอร์เดียว” สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคเดียวกัน)

 

-ร่างกฎหมายลูกของพรรคก้าวไกล

 

ในขณะที่การประชุมวิปรัฐบาลล่าสุด ยังมีประเด็นที่เห็นไม่ตรงกันและต้องถกในรายละเอียดอีกครั้ง ในประเด็นว่าด้วยการกำหนดหมายเลขผู้สมัคร ส.ส. โดยพรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนาต้องการให้แยกหมายเลข ระหว่าง ส.ส.เขต และแบบบัญชีรายชื่อ ขณะที่พรรคการเมืองอื่น(ซึ่งรวมถึงพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์)เห็นด้วยให้ใช้“เบอร์เดียวกัน”ทั้งผู้สมัครแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อ 


อย่างไรก็ดีในเรื่องผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้ ”เบอร์เดียวกัน” มีความเห็นต่างกันแน่ 

“เบอร์เดียว” เพื่อไทย  แลนด์สไลด์หรือฝันกลางวัน
โดยพรรคการเมืองใหญ่คงเห็นด้วยที่จะให้ใช้ผู้สมัคร ”เบอร์เดียว” เนื่องจากได้เปรียบจากการนำหัวหน้าพรรคหรือผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคที่เป็นผู้มีชื่อเสียงมาใช้ในการหาเสียงได้ง่าย อีกทั้งหมายเลขเดียวกันจดจำง่าย กาบัตรลงคะแนนก็ง่ายและหากจับสลากได้เลขสวย ก็ยิ่งช่วยได้อีก

 

ในขณะที่พรรคการเมืองเล็กและพรรคขนาดกลางไม่ชอบ "เบอร์เดียว" เท่าไหร่ เนื่องจากมีคนที่เป็นจุดขายหรือผู้มีชื่อเสียงมาลงในนามพรรคน้อยกว่าพรรคการเมืองใหญ่ ดังนั้นในประเด็น ”เบอร์เดียว” คงต้องไปสู้กันในชั้นกรรมาธิการและแปรญัตติต่อไป 

 

สำหรับไทม์ไลน์ของกฎหมายลูกน่าจะประกาศใช้ได้อย่างช้าสุดประมาณกรกฎาคมปีหน้า(ปี65 )เพราะว่าเมื่อร่างกฎหมายลูกผ่านรัฐสภาวาระ 3 แล้ว ซึ่งคาดว่าประมาณเมษายนปีหน้าไม่ใช่ว่าเสร็จแล้ว ยังมีขั้นตอน นำร่างไปถามความเห็นองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องคือ กกต.อีก และถ้า กกต.ไม่เห็นด้วยตรงจุดไหน ก็ต้องส่งร่างกลับมายังรัฐสภาพิจารณาอีก  เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ก็ยังมีขั้นตอนนำร่างขึ้นทูลเกล้า ฯ


จับตากันต่อไปกับร่างกฎหมายลูกว่าออกมาแบบใด..จะ “เบอร์เดียว” สมหวัง พรรคเพื่อไทย ที่วาดฝันแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินเหมือนในอดีตที่เคยทำสำเร็จมาแล้วหรือไม่