เกมฮั้วเลือกตั้ง "ชุมพล จุลใส" ลอยลำ เดชอิศม์เหนื่อยแต่ไม่หนัก
เลือกตั้งอำพราง "ชุมพล จุลใส" บ้านใหญ่ชุมพรสบายตัว พลังประชารัฐลุยแค่สงขลา เดชอิศม์เจอเกมหนักแต่ไม่เหนื่อย เกมศักดิ์ศรีบารมีบ้านใหญ่สงขลา แพ้ไม่ได้ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
สมรภูมิเลือกตั้งซ่อมภาคใต้ “ชุมพล จุลใส” ลอยลำ แต่เดชอิศม์ ขาวทอง ต้องเหนื่อยหนัก เมื่อพลังประชารัฐ ไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร แต่ส่งที่สนามสงขลา
ว่ากันตามจริง “ชุมพล จุลใส” และพลพรรคจุลใสแฟมิลี่นั้น เตรียมตัวมาอยู่ใต้ชายคาบ้านป่ารอยต่อในสมัยหน้า ต่างจากเดชอิศม์ที่ยังอยู่ค่ายเดิม เพิ่มเติมคือส่งภรรยาลงสนาม จึงแพ้ไม่ได้
เดิมพันของ “ชุมพล จุลใส” รวมถึงเดชอิศม์ ขาวทอง เป็นเรื่องศักดิ์ศรีและบารมีบ้านใหญ่ ไม่ใช่เรื่องของพรรค ปชป.
หลังออกอาการยึกยักมาร่วมสัปดาห์ คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ มีมติเอกฉันท์ ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา เขต 6 และไม่ส่งที่ชุมพร โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาได้เสนอชื่อ อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ เป็นตัวแทนของพรรค และสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง
สุชาติ ชมกลิ่น พยายามอธิบายว่า สาเหตุที่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเพียงเขตเดียว เพราะเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ พรรคมี ส.ส. 4 คนอยู่แล้ว จึงต้องขยายพื้นที่ ส่วนที่ไม่ส่งผู้สมัครสนามชุมพร เพราะไม่ใช่ยุทธศาสตร์ของพรรค
นั่นคือเหตุผลทางการเมือง แต่ความจริงที่ใครๆก็รู้ทั้งประเทศคือ พี่น้องของ “ชุมพล จุลใส” เตรียมตัวย้ายมาสวมเสื้อพลังประชารัฐสมัยหน้า
‘จุลใสลอยลำ’
“ชุมพล จุลใส” หรือลูกหมี อดีต ส.ส.ชุมพร เขต 1 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ด้วยเหตุนี้ ลูกหมีจึงต้องวางทายาททางการเมืองให้รับไม้ต่อในฐานะ ส.ส.ชุมพร
อิสระพงษ์ มากอำไพ หรือต๊าซ วัย 33 ปี เป็นหลานชายของภรรยาลูกหมี เขาเป็นทายาทนักธุรกิจใหญ่ จบการศึกษาปริญญาโทจาก Coventry University กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ปลายปี 2563 อิสระพงษ์ เปิดตัวเล่นการเมืองในฐานะทีมงานกลุ่มพลังชุมพร ร่วมหาเสียงช่วยนพพร อุสิทธิ์ หรือนายกโต้ง ชิงเก้าอี้นายก อบจ.ชุมพร และนายกโต้งประสบชัยชนะ แถม ส.อบจ.ทีมพลังชุมพร ได้รับเลือกตั้งถึง 23 เขต จาก 24 เขต ในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.ชุมพร
หลังนพพร อุสิทธิ์ พี่เขยของชุมพล จุลใส เข้าบริหาร อบจ.สมัยที่ 2 ได้แต่งตั้งอิสระพงษ์เป็นเลขานุการนายก อบจ.ชุมพร จึงเรียกกันว่า เลขาต๊าซ
เมื่อสนามเขต 1 ชุมพร ชวลิต อาจหาญ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ลงสนามไม่ได้ คู่แข่งของอิสระพงษ์ ก็คือ พ.ต.อ.ทศพร โชติคุตร์ หรือผู้กำกับหนุ่ย หรืออัศวิน ชุมพร ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคกล้า และผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล
ศึกเลือกตั้งซ่อมหนนี้ ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อรักษาเก้าอี้ ส.ส.ของค่าย ปชป. หากแต่เป็นการรักษาที่มั่นการเมืองของบ้านใหญ่ชุมพร หรือจุลใสแฟมิลี่
‘ขาวทองเหนื่อย’
กรณีของเดชอิศม์ ขาวทอง ต่างจาก “ชุมพล จุลใส” ตรงที่ จ.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส. 4 คน มากกว่าค่าย ปชป.ที่มีอยู่แค่ 3 คน ถ้าพลังประชารัฐไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.เหมือนที่ชุมพร ลูกน้องลุงป้อมคงหาคำอธิบายให้ชาวบ้านได้ยาก
ศึกเลือกตั้งซ่อม เขต 6 สงขลา ก็เป็นเดิมพันแรกของเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา เขต 5 ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป.ภาคใต้ คนใหม่
เดชอิศม์ ขาวทอง หรือนายกชาย ดาวรุ่งพุ่งแรงแซง ส.ส. 9 สมัยเป็นแม่ทัพภาคใต้ ถือว่าไม่ธรรมดา แถมงานนี้คุณนายน้ำหอม สุภาพร กำเนิดผล อดีตรองนายก อบจ.สงขลา ลงสนามด้วย
หากพลาดท่าปราชัย ก็คงเสียหายยับเยิน ไม่ใช่แค่ ปชป.จะถูกด้อยค่า ศักดิ์ศรีบารมีแม่ทัพใต้ คงถูกลดทอนลงไปเยอะ ฉะนั้น เดชอิศม์จึงแพ้ไม่ได้
ส่วนตัวแทนพรรคพลังประชารัฐคือ อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ บุตรชายของ อนันต์ พฤกษานุศักดิ์ อดีตนายกเทศบาลเมืองสะเดา และประธานบริษัทศรีตรังฯ ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ของประเทศ นอกจากนี้ พรรคกล้ายังส่ง พงศธร สุวรรณรักษา ลงสนาม โดยมี พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เป็นแม่ทัพเลือกตั้ง
ลึกๆแล้ว สนามเลือกตั้งซ่อมเขต 6 สงขลา จะเป็นการต่อสู้ระหว่าง 4 ส.ส.สงขลา พลังประชารัฐ กับเดชอิศม์ ขาวทอง
ดังนั้น ลุงป้อม และผู้กองธรรมนัส จึงส่งสุชาติ ชมกลิ่น ไปดูแลสนามเลือกตั้ง ร่วมกับอนุมัติ อาหมัด อดีต ส.ว.สงขลา บทสรุปการต่อสู้ของบ้านใหญ่สงขลา จะลงเอยแบบไหน สภาน้ำชาแถวเขต 6 คงลุ้นกันสนุก