คอลัมนิสต์

บทเรียนไก่อู "ถนอม อ่อนเกตุพล" ขอโทษคนฝั่งซ้าย พิษรถไฟลาว-จีน

บทเรียนไก่อู "ถนอม อ่อนเกตุพล" ขอโทษคนฝั่งซ้าย พิษรถไฟลาว-จีน

28 ธ.ค. 2564

ดราม่ารถไฟลาว "ถนอม อ่อนเกตุพล" พลาดหมิ่นคนลาว อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์กราบขอโทษคนฝั่งซ้าย ทูตลาวขออย่าให้ผิดซ้ำ ย้ำรถไฟลาว-จีน ผลประโยชน์ร่วมคนสองฝั่งโขง และทั่วทั้งอาเซียน คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

บทเรียนสื่อไทย “ถนอม อ่อนเกตุพล” พลาดวิจารณ์โครงการรถไฟลาว-จีน ก่อให้เกิดดราม่าข้ามโขง สื่อลาวถล่มช่อง NBT ร้อนถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์พาถนอมเข้าขอโทษทูตลาว

 

ลาว-ไทยพูดจาไม่มีล่ามแปล “ถนอม อ่อนเกตุพล” ไม่ตระหนักความเปราะบาง แสดงความเห็นเยอะ จนนำมาซึ่งความผิดพลาดเรื่องดราม่าเหยียดหยามคนลาว

 

กรณีของ “ถนอม อ่อนเกตุพล” เป็นตัวอย่างของสื่อไทย เมื่อผิดพลาดต้องรีบแก้ไข ไม่ปล่อยให้บานปลาย กลายเป็นความบาดหมางของคน 2 ชาติ

 

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2564 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยคณะ 6 คน ได้เข้าพบท่านแสง สุขะทิวง เอกอัครราชทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย ที่สถานทูตลาว เพื่อขอโทษเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวเรื่องรถไฟลาว-จีน ซึ่งสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ได้นำเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อนเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2564 ในรายการ “ฟังชัดๆถนอมจัดให้” ของถนอม อ่อนเกตุพล ได้นำเสนอข่าวไม่มีมูลความจริง กรณีรัฐบาลลาวไม่สามารถใช้หนี้จีนได้จากการกู้เงินมาลงทุนสร้างทางรถไฟ และยังดูหมิ่นคนลาวว่า ไม่มีเงินซื้อตั๋วรถไฟที่แพงกว่ารายรับของพลเมืองลาว

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ยอมรับว่า การนำเสนอข่าวโครงการรถไฟลาว-จีน เกิดข้อผิดพลาดถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ได้ทำหนังสือชี้แจงและขออภัยมายังสถานทูตลาวแล้ว แต่ก็เกิดเหตุซ้ำอีก จึงต้องยกคณะเข้ามาขอโทษท่านทูตแสงด้วยตัวเอง


“ถนอม อ่อนเกตุพล” ผู้ประกาศข่าวช่อง NBT ได้กล่าวคำขอโทษท่านและมอบพวงมาลัย กราบขอโทษต่อท่านทูตแสง และประชาชนลาวทั้งชาติ

 

‘พูดจาภาษาเดียวกัน’

บาดแผลไทย-ลาวที่เกิดความผิดพลาดของสื่อไทยแบบ “ถนอม อ่อนเกตุพล” ไม่ใช่กรณีแรก มีพิธีกรทีวีไทยหลายคน ได้พลั้งปากวิจารณ์เพื่อนบ้านเชิงลบ จนต้องขอโทษกันมาแล้วหลายครั้ง

 

ท่านแสง สุขะทิวง เอกอัครราชทูตลาว ประจำประเทศไทย กล่าวตอบคณะอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ว่า จะได้นำเรื่องการขอโทษไปแจ้งแก่ประชาชนลาว ตนเองเชื่อมั่นว่าคนลาวผู้มีจิตใจเมตตาอารี จะให้อภัยในความผิดพลาดในครั้งนี้

 

ท่านทูตแสงยังย้ำถึงความใกล้ความสัมพันธ์ของประชาชนลาว-ไทย มีวัฒนธรรม ประเพณี และการพูดจาภาษาที่คล้ายกัน หากมีปัญหาสิ่งใดที่ไม่เข้าใจ ให้ติดต่อมายังสถานทูตลาวโดยตรง

โครงการรถไฟลาว-จีน คือความภาคภูมิใจของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของประชาชนลาว และประชาชนประเทศเพื่อนบ้าน นี่คือคำพูดส่วนหนึ่งที่ทูตลาวได้ฝากคณะกรมประชาสัมพันธ์ ผ่านมายังคนไทยทั้งประเทศ

 

ความละเอียดอ่อนของเรื่องนี้อยู่ที่ ถนอม อ่อนเกตุพล จัดรายการทางช่อง NBT ที่เป็นกระบอกเสียงรัฐบาล จึงทำให้สื่อลาวตั้งคำถามว่า ข้อวิจารณ์ที่บิดเบือนนี้ รัฐบาลไทยรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่า

 

‘ดราม่าสองฝั่งโขง’

เหตุจากรายการเจ้าปัญหาของ “ถนอม อ่อนเกตุพล” ทำให้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ลุกมาชี้แจงทางหน้าจอ NBT เมื่อ 22 ธ.ค.2564 ว่า ช่วงมีการเปิดใช้เส้นทางรถไฟลาว-จีน ได้มีเสียงวิจารณ์เชิงเปรียบเทียบกับโครงการรถไฟความเร็วสูงของไทย ในฐานะสื่อของรัฐ จึงพยายามจะชี้แจงกรณีดังกล่าว

 

บังเอิญ ถนอม อ่อนเกตุพล เจ้าของรายการฟังชัดๆ ถนอมจัดให้ และคุยถึงแก่น อธิบายเยอะไปหน่อย ล้วงลึกไปถึงเรื่องหนี้สินในโครงการรถไฟลาว-จีน โดยอ้างอิงข้อมูลนักวิชาการบางคนบางกลุ่ม

 

จุดเปราะบางที่สร้างปัญหาร้าวลึก เมื่อถนอม อ่อนเกตุพล กล่าวถึงการเปิดให้บริการเดินรถไฟลาว-จีน ทำนองว่าคนลาวจะไม่มีปัญญาได้ขี่ เพราะคนลาวมีเงินเดือนน้อย แต่ราคาตั๋วรถไฟแพง

 

วันที่ 21 ธ.ค.2564 แฟนเพจสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติชาว ได้จัดคลิปวิจารณ์ถนอม และช่อง NBT ว่า ไร้มารยาท-จรรยาบรรณ เสนอข่าวบิดเบือน ดูถูกคนลาวไม่มีเงินซื้อตั๋ว แถมไม่ได้มาช่วยใช้หนี้ แล้วเดือดร้อนอะไรด้วย ถ้าลาวเป็นหนี้จีน

 

ในคลิปตอบโต้ยังมีการนำคำสัมภาษณ์ พันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว มาแทรกไว้ โดยนายกฯลาว บอกว่า ช่วงที่ผ่านมามีสื่อมวลชนบางประเทศ พยายามบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับทางรถไฟลาว-จีน ซึ่งถือเป็นการไม่หวังดีต่อประชาชนลาวและรัฐบาลลาว

ถนอม อ่อนเกตุพล กราบขอโทษทูตลาว

ต่อมา ถนอมได้โพสต์เฟซบุ๊คชี้แจงว่า “ทั้งสื่อไทย สื่อลาว ว่าผมดูหมิ่นคนลาว โปรดฟังชัดๆ ถ้าหมิ่นเขาแล้วทำประเทศเสียหาย ผมยินดีขอโทษ เพราะไม่มีใครที่ไม่ผิด ขอว่า อย่าฟังความข้างเดียว”

 

สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถาม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ถึงปัญหาบาดหมางไทย-ลาว พร้อมแนะนำให้ พล.ท.สรรเสริญ ทำหนังสือขอโทษประชาชนลาวผ่านสถานทูตลาวประจำประเทศไทย