คอลัมนิสต์

พึ่งป๋าไม่ได้ "สุรชาติ เทียนทอง" รู้ซึ้งหลักสี่ ไม่ใช่สระแก้ว

พึ่งป๋าไม่ได้ "สุรชาติ เทียนทอง" รู้ซึ้งหลักสี่ ไม่ใช่สระแก้ว

07 ม.ค. 2565

ส่องตัวเต็ง "สุรชาติ เทียนทอง" พึ่งลำแข้งตัวเองมา 17 ปี สร้างฐานเสียงหลักสี่ ไม่คิดโตแบบเรียนลัด ไปสมัคร ส.ส.สระแก้ว โหนเจ้าพ่อวังน้ำเย็นเข้าสภาฯ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ศึกหลักสี่ 2565 “สุรชาติ เทียนทอง” ถูกจับตามองว่าเป็นตัวเต็ง มีโอกาสเบียดมาดามหลี ภรรยาสิระ เจนจาคะ เข้าป้าย เนื่องจากทำงานพื้นที่ต่อเนื่องยาวนานถึง 17 ปี

 

เส้นทางการเมือง “สุรชาติ เทียนทอง” เป็นลูกไม้ไกลบ้าน ไม่ได้โตจากสระแก้ว ไม่พึ่งยี่ห้อเสนาะ เทียนทอง สร้างฐานเสียงด้วยลำแข้งตัวเอง

 

สนามเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ “สุรชาติ เทียนทอง” แพ้หรือชนะ จะสะท้อนความนิยมของคนกรุงเทพฯ ต่อแบรนด์เพื่อไทย

 

ทุกสภากาแฟฟันธงคู่ชิงสังเวียนหลักสี่-จตุจักร คือ สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ตัวแทนสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กับสุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย

 

สุรชาติ เทียนทอง ในฐานะอดีต ส.ส.กทม. เขตหลักสี่ ปี 2554 และครั้งที่แล้ว ก็พ่ายสิระแค่หลักพัน ย่อมถูกจัดวางเป็นเต็งหนึ่ง ประกอบกับธรรมชาติการเลือกตั้งซ่อมในกรุงเทพฯ พรรคฝ่ายค้านได้เปรียบพรรครัฐบาล

 

‘ลูกไม้ไกลบ้าน’

ทุกครั้งให้สัมภาษณ์สื่อ “สุรชาติ เทียนทอง” จะบอกว่า เป็นคนบ้าการเมือง แต่ตัวเขาก็พยายามก้าวข้ามความเป็นลูกนักการเมือง แม้จะเป็นลูกชาย เสนาะ เทียนทอง แต่ก็ไม่ได้คิดจะไปลงสมัคร ส.ส.ที่ จ.สระแก้ว

สุรชาติ เทียนทอง เป็นลูกชายคนเล็กของ จิตรา โตศักดิ์สิทธิ์ ภรรยาคนแรกของเสนาะ เทียนทอง ซึ่งเติบโตในบ้านหลังเก่าที่ซอยวิภาวดี 20 เขตจตุจักร และเมื่อคิดจะเล่นการเมือง สุรชาติ จึงเลือกพื้นที่เขตจตุจักร โดยลงไปพบปะชาวบ้านตั้งแต่ปี 2548

 

ตอนนั้น ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือก็จะบอกว่า ลงสมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ไม่ได้หรอก ต้องไปเล่นที่สระแก้ว แต่สุรชาติก็ไม่ปริปากขอพ่อ(เสนาะ)ให้ส่งเขาลงสมัคร ส.ส.สระแก้ว

 

เลือกตั้งปี 2550 สุรชาติ เทียนทอง จึงลงสมัคร ส.ส.กทม. เขตหลักสี่,จตุจักรและบางซื่อ (เลือกตั้งพวงใหญ่) ในนามพรรคประชาราช ได้คะแนนหลักพัน ขณะที่พรรค ปชป.ผู้ชนะ ได้คะแนนหลักแสน

 

หลังความพ่ายแพ้ สุรชาติถูกปรามาสเยอะ บ้างก็ว่าเป็นลูกที่พ่อไม่รัก เลยส่งสมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ แต่เขาไม่ท้อ ยังเดินหน้าทำงานพื้นที่ จนได้มาพบกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จึงชวนให้มาอยู่พรรคเพื่อไทย

สุรชาติใช้ลูกขยันทำงานในพื้นที่เขตหลักสี่ เดินไหว้คนเป็นพันเป็นหมื่น ไปงานศพ งานแต่ง งานบวช ไม่มีใครเชิญก็ไป ไปด้วยความจริงใจก็เลยได้แนะนำตัวให้ชาวบ้านรู้จัก “ผม สุรชาติ เทียนทอง..”

 

เลือกตั้งปี 2554 สุรชาติสวมเสื้อพรรคเพื่อไทย ลงสนามเขตหลักสี่ และเขตดอนเมือง(1 แขวง)เอาชนะสกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.กทม. เป็น ส.ส.สมัยแรก

 

ชัยชนะครั้งนั้น ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องใช้นามสกุลเทียนทอง ไม่ต้องลงสมัคร ส.ส.สระแก้ว เขาก็เป็น ส.ส.ได้ และสร้างแบรนด์สุรชาติให้คนหลักสี่จดจำ

คนรักหมารักแมว

‘คนรักหมารักแมว’

หลังจากแพ้เลือกตั้งหนที่แล้ว “สุรชาติ เทียนทอง” ก็ไม่เคยท้อ ยังเดินหน้าทำงานพื้นที่เหมือนเมื่อครั้งพ่ายเลือกตั้งปี 2550 เขาบอกว่า กลยุทธ์ในการหาเสียงคือไม่มีกลยุทธ์ ใช้ความจริงใจ และการทุ่มเทให้คนในพื้นที่เขตหลักสี่ตลอด 17 ปี

สุรชาติ เทียนทอง ฉีดวัคซีนสุนัข และแมว แถวหลักสี่มานานนับสิบปี

ภาพที่คนแถวหลักสี่ได้พบเห็นคือ สุรชาติ เทียนทอง กับกิจกรรมบริการฉีดยุง ฉีดวัคซีนสุนัขและแมว ยกตัวอย่างแมวในตลาดแห่งหนึ่ง สุรชาติจะจดจำชื่อแมวได้ทุกตัว เพราะฉีดวัคซีนมากับมือ

 

“การเลือกตั้งครั้งนี้มากกว่าผลแพ้ชนะ มากกว่าการใส่สูทเข้าสภา แต่เป็นการพิสูจน์ชีวิตและสิ่งที่ทำมาทั้งหมดที่ทุ่มเทให้กับประชาชนและเป็นการพิสูจน์อุดมการณ์คำว่า ผู้แทนราษฎร และเป็นก้าวสำคัญที่สุดในขีวิต” สุรชาติให้สัมภาษณ์สื่อก่อนเปิดตัวลงสนามเลือกตั้งซ่อม ครั้งล่าสุด

 

บนถนนการเมืองของสุรชาติ หากได้ไปลงสมัคร ส.ส.ที่ จ.สระแก้ว ก็คงไม่ต้องทำงานหนักขนาดนี้ เพียงแค่แปะยี่ห้อลูกชายเจ้าพ่อวังน้ำเย็น ก็ได้เป็น ส.ส.แล้ว

 

เมื่อสุรชาติ เทียนทอง เลือกที่จะเป็นลูกไม้ไกลบ้าน ก็ต้องพานพบทั้งความผิดหวังและสมหวัง สังเวียนเมืองหลวง บ้านใหญ่ไม่ขลัง แบรนด์เทียนทองขายไม่ได้