ไฟสงคราม "กะเหรี่ยงแดง" เผด็จการเมียนมายึดโมเดลเผาเรียบ
กองทัพเมียนมาล้อมปราบ "กะเหรี่ยงแดง" ไล่ล่ากองกำลังกะเรนนี ยึดโมเดลรัฐชิน ถล่มบ้านเรือนประชาชนราพณาสูร จับตาคลื่นผู้ลี้ภัยหนีข้ามดอยเข้าแม่ฮ่องสอน คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
ไฟสงครามล้อมปราบ “กะเหรี่ยงแดง” รัฐกะยา ตกอยู่ในสภาพเดียวกับเมืองตานทาลาน รัฐชิน กองทัพเมียนมาถล่มหนัก ทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด ฮ.กันชิพยิงจรวด และปืนใหญ่ถล่ม คลื่นผู้อพยพนับหมื่นมุ่งสู่ชายแดนไทย
กองกำลังประชาชน “กะเหรี่ยงแดง” ประสานกองทัพกะเรนนี ต้านการรุกของทหารเมียนมา ทั้งในเมืองล๋อยก่อ และเมืองดีโมโซ ทำการสู้รบทุกรูปแบบ
ชาวกะเรนนี “กะเหรี่ยงแดง” ถูกทหารเมียนมาใช้อาวุธเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์และทำลายบ้านเรือน ท่ามกลางข่าวสารการพบกันของฮุนเซน-มินอ่องหล่าย เพื่อฟื้นฟูสันติภาพในเมียนมา
ช่วงวันที่ 7-8 ม.ค.2564 สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในฐานะประธานอาเซียน เดินทางไปพบ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ที่กรุงเนปิดอว์ เพื่อหารือกับสภาแห่งรัฐหรือรัฐบาลทหาร เกี่ยวกับดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูสันติภาพในเมียนมา
หลังการพบปะกัน สองฝ่ายได้มีแถลงการณ์ร่วมกัน โดย พล.อ.อาวุโสมินอ่องหล่าย รับปากว่า จะช่วย ปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ในฐานะทูตพิเศษของอาเซียน ทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย
นับแต่วันที่ 6 ม.ค.2565 เป็นต้นมา ทหารเมียนมาเปิดการสู้รบกับกองทัพกะเรนนี (KA) ในเขตที่มั่นของพรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเรนนี(KNPP) ตามแนวชายแดนเมียนมา-ไทย ด้าน จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ เครื่องบินขับไล่ของทหารเมียนมาโจมตีเมืองล๋อยก่อ เมืองหลวงของรัฐกะเรนนี ซึ่งเป็นพื้นที่เขตการเคลื่อนไหวของกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF)
การเปิดยุทธการกวาดล้างฝ่ายต่อต้านของกองทัพเมียนมา ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยสงครามหนีเข้าไปอยู่ในพื้นที่ควบคุมของพรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเรนนี(KNPP) บริเวณดอยยามู ตรงข้าม อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
‘กองกำลังที่แข็งแกร่ง’
ปัจจุบัน มีกองกำลังประชาชนป้องกันตนเองเกิดขึ้นในทุกรัฐ และทุกภูมิภาคของเมียนมา กองกำลังประชาชน “กะเหรี่ยงแดง” ในนามกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF) ถือว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่ง และสร้างความเสียหายให้แก่กองทัพเมียนมาเป็นอย่างมาก
ในรัฐกะยาหรือรัฐกะเรนนี ยังมีชาวกะเหรี่ยงแดงรวมตัวกันจัดตั้งกองกำลังประชาชนอีกหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มเมืองดีโมโซ (DMO-PDF) ,กลุ่มเมืองปาย (MB-PDF) และกลุ่มเมืองล๋อยก่อ (LKW-PDF)
กองทัพประชาชนเหล่านี้ ได้รับการฝึกอาวุธจากกองกำลังกะเหรี่ยงแดง (KA) ซึ่งเป็นกองทหารของพรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเรนนี (KNPP) หลายครั้ง กองกำลัง KNDF จะร่วมกับกองทัพกะเรนนี (KA) ออกทำการสู้รบกับทหารเมียนมา
‘คลื่นผู้อพยพ’
70 กว่าปีที่แล้ว “กะเหรี่ยงแดง” ในรัฐกะยาหรือรัฐกะเรนนี ได้จัดตั้งกองทัพแห่งชาติกะเรนนี (Karenni National Army: KNA) ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือน ส.ค.2491 มีเป้าหมายเพื่อต่อต้านการยึดครองรัฐกะยาของรัฐบาลทหารเมียนมา ต่อมา ปี 2518 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นพรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเรนนี (Karenni National Progressive Party: KNPP)
พรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเรนนี (KNPP) มีกองบัญชาการส่วนหน้าอยู่ที่ดอยยามู ตรงข้าม อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งยามใดที่กองทัพเมียนมา เปิดยุทธการล้อมปราบกองทัพกะเรนนี(KA) คนไทยแถวแม่ฮ่องสอน ก็จะได้ยินเสียงปืนเสียงระเบิดชัดเจน
สถานการณ์ปัจจุบันในรัฐกะยา ปฏิบัติการทางอากาศ รวมถึงการยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองล๋อยก่อ ไม่ต่างจากเหตุการณ์กองทัพเมียนมา เปิดฉากยิงปืนใหญ่เข้าใส่เมืองทานตะลาน รัฐชิน ระหว่างการกวาดล้างกองกำลังป้องกันตนเอง(CDF) ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ในตัวเมือง และกลายเป็นเมืองร้าง เมื่อชาวชินอพยพหนีภัยสู้รบไปอยู่ในประเทศอินเดีย
หากกองทัพเมียนมายึดโมเดลทานตะลาน อาจส่งผลให้ชาวกะเหรี่ยงแดงนับแสนคนหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยในอนาคต