ชนะขาด "สุรชาติ เทียนทอง" คนกรุงเทพฯไม่เอาประยุทธ์
ผลเลือกซ่อมหลักสี่ "สุรชาติ เทียนทอง" ชนะตามคาด 2 ปัจจัยนำชัย ขายแบรนด์สุรชาติ ตามด้วยกระแสไม่เอาประยุทธ์ เบื่อพลังประชารัฐ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
ผลเลือกตั้งซ่อม “สุรชาติ เทียนทอง” ชนะเลือกตั้งตามความคาดหมาย พรรคกล้าและพรรคก้าวไกล เบียดแย่งอันดับสอง มาดามหลียกธงขาวตั้งแต่ยังไม่ถึงสองทุ่ม
ชัยชนะ “สุรชาติ เทียนทอง” พิสูจน์ให้เห็นว่าเพื่อไทยยังต้องเหนื่อยกับก้าวไกล แม้จะเป็นเลือกตั้งซ่อมเขต 9 ไม่ใช่เลือกตั้งใหญ่
ผลเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ “สุรชาติ เทียนทอง” และพรรคเพื่อไทย ได้ให้บทเรียนอย่างเจ็บแสบแก่รัฐบาลประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐ
ผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร) สุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย ได้รับชัยชนะ โดยมีพรรคก้าวไกล และพรรคกล้า มีคะแนนตามหลังมาติดๆ ส่วน สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ภรรยา สิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ประสบความปราชัยอย่างยับเยิน
แน่นอน พรรคเพื่อไทยย่อมจะนำผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไปขยายต่อว่า นี่คือดัชนีชี้วัดทางการเมืองว่า คนกรุงเทพฯได้แสดงพลังผ่านหีบบัตรเลือกตั้ง ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทางอ้อม
แม้การเลือกตั้งซ่อมไม่ใช่เลือกตั้งทั่วไป ไม่มีเหตุจูงใจเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลหรือเลือกนายกรัฐมนตรี ผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งจึงโฟกัสที่ตัวผู้สมัคร ส.ส.มากกว่าพรรค แต่ดูผลคะแนนเลือกตั้งซ่อมจากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลแล้ว ก็ให้คำตอบได้ว่า คนกรุงเทพฯ ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลชุดนี้
‘ปัจจัยแห่งชัยชนะ’
หลายคนคงคิดว่า แบรนด์ทักษิณ แบรนด์เพื่อไทยช่วย “สุรชาติ เทียนทอง” ให้ได้รับชัยชนะในศึกเลือกซ่อมครั้งนี้ หากส่องลึกไปในพื้นที่จะพบว่า แบรนด์สุรชาตินั้นแข็งแรง และฝังลึก
ปัจจัยหลัก แบรนด์สุรชาติ เทียนทอง ที่เกาะติดพื้นที่หลักสี่-จตุจักร มาเป็นเวลา 17 ปี จึงสร้างฐานคะแนนไว้ชัดเจน ปี 2554 สุรชาติลงสมัคร ส.ส. เขต 11 (หลักสี่-ดอนเมือง) ได้ 28,376 คะแนน และปี 2562 เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร) ได้ 32,115 คะแนน
สุรชาติ ไม่ได้แบกป้ายตระกูลเทียนทอง มาหาเสียง เพราะเขาได้ก้าวข้ามความเป็นลูกชายเสนาะ เทียนทอง ใช้ลูกขยันทำงานในพื้นที่เขตหลักสี่ เดินไหว้คนเป็นพันเป็นหมื่น ไปงานศพ งานแต่ง งานบวช สร้างฐานเสียงมากับมือตัวเอง
ปัจจัยรอง กระแสเบื่อประยุทธ์ พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคฝ่ายค้านหลัก ได้ทุ่มสรรพกำลังช่วยหาเสียงเต็มรูปแบบ และโค้งสุดท้าย แกนนำเพื่อไทยเรียกร้องให้โหวตยุทธศาสตร์ ไม่ต้องปันใจไปเลือกพรรคก้าวไกล ชนะให้ขาด
เมื่อดูผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สิ่งที่แกนนำพรรคเพื่อไทยเรียกให้โหวตยุทธศาสตร์นั้น ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เพราะฝ่ายประชาธิปไตยจำนวนไม่น้อยที่ยังเลือกพรรคก้าวไกล
‘กู้หน้าป๋าเหนาะ’
คนหลักสี่-จตุจักร เลือก “สุรชาติ เทียนทอง” คงไม่ใช่เพราะนามสกุลเทียนทองเป็นแน่ แต่การเลือกตั้งซ่อมหนนี้กลับมีความหมายอย่างยิ่งยวดต่อนักการเมืองอาวุโสอย่าง เสนาะ เทียนทอง
ดังจะเห็นได้จาก สรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งเขตหลักสี่ จตุจักร ได้ลงช่วยน้องชายต่างมารดาอย่างเต็มที่ และเป็นครั้งแรกที่สองพี่น้องได้ลุยศึกเลือกตั้งด้วยกัน
นับแต่พ่ายเลือกตั้งที่บ้านเกิด สระแก้วเมื่อปี 2562 สรวงศ์ เทียนทอง ก็เงียบหายไปพักใหญ่ กระทั่งมีการปรับโครงการสร้างพรรคเมื่อปลายปี 2564 จึงมีชื่อ สรวงศ์ ลูกชายคนโตของเสนาะ เทียนทอง ขยับขึ้นเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ว่ากันตามจริง การเลือกตั้งที่สระแก้วสมัยที่แล้ว หาก ขวัญเรือน เทียนทอง ไม่พาลูกๆแยกตัวไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ เสนาะก็คงไม่ประสบความปราชัยอย่างเจ็บปวด
การที่ทักษิณ และเฮียเพ้ง มอบให้ สรวงศ์ เทียนทอง เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เท่ากับการให้เกียรติผู้อาวุโสของพรรค และสรวงศ์ เทียนทอง ลงมาเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม ไม่ต่างจากศึกกู้หน้าของบ้านใหญ่สระแก้ว
ชัยชนะของสุรชาติ เทียนทอง จึงหมายถึงการกลับมาอย่างมีศักดิ์ศรีของเจ้าพ่อวังน้ำเย็นในพรรคเพื่อไทย