ลับลวง "อนุทิน" เกมสลับขั้ว ย้ายพรรคอำพราง
สถานการณ์ยื้อ-ยุบ "อนุทิน" กวาดต้อนนักเลือกตั้งเข้าพรรค พบดีลประหลาด นักการเมืองรุ่นใหญ่ย้ายสลับขั้วเงียบๆ ระหว่างค่ายบุรีรัมย์กับค่ายดูไบ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
ตลาดนัดนักเลือกตั้งคึกคัก “อนุทิน” มีดีลแปลกๆ รับนักการเมืองรุ่นใหญ่สายตรงดูไบเข้าค่ายภูมิใจไทย แต่ก็เสียมือทำงานของเนวินให้ค่ายเพื่อไทย
เหมือนพร้อมรบ “อนุทิน” เร่งจัดทัพภาคอีสาน เป้าหมายใหญ่ในสถานการณ์บัตร 2 ใบ หากเพื่อไทยกวาดยกภาคเหมือนปี 2554 ภูมิใจไทยก็ตกที่นั่งลำบาก
ด้วยเหตุนี้ “อนุทิน” จึงขยับดีลลับดีลลวง หวังให้ภูมิใจไทยใจรอดจากพายุแลนด์สไลด์ ยกธงขาวอีสานเหนือ แต่ก็หวังรักษาที่มั่นอีสานใต้
นับแต่ต่อรองจนได้ปลดล็อกกัญชา อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ลุยหาเสียงทันที เพราะสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ
เลือกตั้ง ส.ส.ปี 2562 พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส.เขต 39 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 12 คน รวมทั้งสิ้น 51 คน (ไม่นับรวมกลุ่ม ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่) ซึ่ง ส.ส.เขตส่วนใหญ่มาจากจังหวัดแถวอีสานใต้
ถ้าเลือกตั้งครั้งใหม่ ตามกติกาบัตร 2 ใบ ค่ายเสี่ยหนูก็จะมีสภาพเหมือนปี 2554 คือพ่ายกระแสพรรคทักษิณ และ ส.ส.งูเห่าที่ดูดมาจากพรรคอนาคตใหม่ เสี่ยงสอบตกหมด
จากปลายปีที่แล้ว จนถึงต้นปีนี้ มีการย้ายพรรคแบบชวนสงสัยอยู่ 2 กรณีคือ ปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ สายตรงดูไบ ทิ้งเพื่อไทยมาสังกัดภูมิใจไทย และธีระชัย แสนแก้ว อดีต ส.ส.อุดรธานี สายตรงนายใหญ่บุรีรัมย์ ลาภูมิใจไทยกลับบ้านเก่าเพื่อไทย
ดีลประหลาดๆ อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต อนุทิน ชาญวีรกูล จึงมีความมั่นใจในการเปิดเกมบอยคอตไม่เข้าร่วมประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
‘สายตรงบุรีรัมย์’
ไม่รู้ว่ามีเบื้องหลังอะไร “อนุทิน” คงรู้เรื่องนี้ดี เมื่อ ธีระชัย แสนแก้ว ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 (ศุภชัย โพธิ์สุ) และแกนนำภูมิใจไทย ย้ายกลับพรรคเพื่อไทย
เลือกตั้งสมัยที่แล้ว ธีระชัยสอบตก แต่ก็ยังเป็นประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน ทำงานมวลชนวางเครือข่ายให้ภูมิใจไทย เพื่อเตรียมเลือกตั้งสมัยหน้า
ธีระชัย แสนแก้ว เป็นขุนพลของเนวิน ชิดชอบ ที่ลุยก่อร่างสร้างพรรคภูมิใจไทยมาแต่แรกๆ ทั้งธีระชัยและศุภชัย โพธิ์สุ เปรียบมือซ้ายมือขวาของเนวิน ในการทำงานการเมืองในพื้นที่อีสานเหนือ
เพียงแต่ธีระชัย ไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งที่อุดรธานี ต่างจากศุภชัย โพธิ์สุ ที่ปักธงสีน้ำเงินได้ และยึด อบจ.นครพนมมาเป็นของตระกูลโพธิ์สุ
ว่ากันตามจริง สมรภูมิอีสานเหนือ แบรนด์เนวินขายไม่ได้ แบรนด์หนูขายยาก อย่างที่ จ.เลย ได้มา 1 ที่นั่ง ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของตระกูลทิมสุวรรณ
เมื่อสู้ไม่ได้ ธีระชัย แสนแก้ว จึงกลับเพื่อไทย แต่น่าตั้งข้อสังเกตว่า นายใหญ่บุรีรัมย์รู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่
‘สายตรงดูไบ’
ปลายปี 2564 มีนักการเมืองรุ่นใหญ่ย้ายพรรค “อนุทิน” ก็ไม่ได้ตีข่าวใหญ่โต เมื่อ ปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ ลาพรรคเพื่อไทยย้ายมาพรรคภูมิใจไทย ซึ่งปัจจุบัน ผ่องศรี แซ่จึง ภรรยาของปวีณ ก็ยังเป็น ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 8 พรรคเพื่อไทย
ปวีณ แซ่จึง ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ มีฐานเสียงแน่นอยู่ใน อ.ราษีไศล เป็น ส.อบจ.ผูกขาด ก้าวสู่การเมืองระดับชาติ โดยการส่งภรรยา ผ่องศรี แซ่จึง ลงสนาม ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทย ปี 2544
ปี 2548 ปวีณลงสนามเอง ได้รับเลือกเป็น ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคไทยรักไทย และเป็น ส.ส.มาอีก 2 สมัย ในสีเสื้อพรรคของทักษิณ สมัยที่แล้ว ปวีณสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผ่องศรี ภรรยาลง ส.ส.เขต
ผลเลือกตั้ง ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 8 (อ.ราษีไศล,อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ, อ.บึงบูรพ์, อ.ยางชุมน้อย และอ.ศิลาลาด) ผ่องศรีได้ 50,319 คะแนน ทิ้งห่างผู้สมัคร ส.ส.คนอื่นชนิดสู้กันไม่ได้
คนแถว อ.ราษีไศลรู้สึกแปลกใจ ที่เห็นเสี่ยปวีณ สายตรงนายใหญ่ดูไบ จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาเปลี่ยนค่าย แถมภรรยา ส.ส.ผ่องศรี ก็ยังสวมเสื้อเพื่อไทย
กรณีย้ายค่ายในศรีสะเกษเที่ยวนี้ เหมือนมีดีลอะไรบางอย่าง ระหว่างผู้มากบารมีสองพรรค ซึ่งการที่เสี่ยปวีณยอมทิ้งเพื่อไทยมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ย่อมมีปริศนาที่ต้องถอดรหัสอยู่เหมือนกัน