คอลัมนิสต์

มายาพลังดูด "อนุทิน" สองใบงูเห่าเสี่ยงสอบตกสูง

มายาพลังดูด "อนุทิน" สองใบงูเห่าเสี่ยงสอบตกสูง

27 ก.พ. 2565

ชำแหละพลังดูด ของจริงหรือไม่ "อนุทิน" รู้ทั้งรู้ ใช้กติกาบัตร 2 ใบ งูเห่าเสี่ยงสอบตกสูง แต่จะกลับไปใช้ใบเดียว ก็อลหม่านทั้งสองสภาฯ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ส่อง ส.ส.กำลังเสริม “อนุทิน” อดีตพลพรรคสีส้มสุ่มเสี่ยงสอบในสมัยหน้า เจาะลึกรายเขต ท่าทางกลับสภาฯลำบาก

 

หากเปลี่ยนกติกา “อนุทิน” ยอมรับบัตร 2 ใบ งูเห่ายิ่งไปต่อลำบาก เพราะ ส.ส.หน้าใหม่เหล่านี้ มากับกระแสธนาธร ไม่ใช่ ส.ส.ฐานแน่น

 

มายาพลังดูดของ “อนุทิน” ประเมินตัวเลข ส.ส.กำลังเสริมเกือบ 20 เสียง ดูเหมือนภูมิใจไทยโตเร็ว แต่เอาเข้าจริงก็ฟองสบู่

 

ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ได้ผ่านร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน 4 ฉบับ แสดงว่าการแก้ไขกติกาเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวเป็นบัตร 2 ใบ กำลังเดินหน้าไปด้วยดี แต่ถึงกระนั้น ก็มีคนบางกลุ่มที่คิดจะฟื้นบัตรเลือกตั้งใบเดียว

 

ว่ากันว่า แนวคิดกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว และสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบจัดสรรปันส่วนผสม ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ได้มีการถกกันในวงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงพักเบรกการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 22 ก.พ 2565

 

ในแง่กระบวนการจะฟื้นเรื่องดังกล่าว ดูเป็นไปได้ยาก เพราะปลายปีที่แล้ว ในที่ประชุมร่วมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ มี ส.ส.ที่เห็นชอบกับการแก้ไขบัตรเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบ จำนวน 323 คน ขณะที่ ส.ว.เห็นชอบ 149 คน ส่วน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กลับใช้สิทธิ์งดออกเสียง

ดังที่รู้กัน พรรคภูมิใจไทย มี ส.ส.เพิ่มขึ้นมา 14 เสียง ซึ่งในนี้เป็น ส.ส.ที่มาจากพรรคอนาคตใหม่ 10 เสียง ซึ่ง อนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่า ถ้าใช้กติกาบัตร 2 ใบ ส.ส.ที่ย้ายมาจากค่ายสีส้มเสี่ยงสอบตก และคะแนนจะตกน้ำตกท่าไปเยอะ

 

‘ส.ส.นกแล’

ความสัมพันธ์ของ “อนุทิน” เกิดจากปัญหาภายในพรรคอนาคตใหม่ โดยเริ่มแรก ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 เข้ามาอยู่กับภูมิใจไทย หลังถูกขับออก เนื่องจากพฤติการณ์ขัดมติพรรคหลายครั้ง

 

ต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ มีกลุ่ม ส.ส. อนาคตใหม่อีก 9 คน เปลี่ยนขั้วเข้ามาสังกัดภูมิใจไทย ประกอบด้วย 2 ส.ส.บัญชีรายชื่อคือ วิรัช พันธุมะผล และสำลี รักสุทธี พร้อมกับ 7 ส.ส.เขต อย่าง เอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 ,กฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่ เขต 2, ฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1,กิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1, ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. เขต 10, โชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส.กทม. เขต 23 และอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 รวมทั้งหมด 10

 

เฉพาะกลุ่ม ส.ส.เขต 8 คน ลองไล่ดูจาก ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 ที่ได้เป็น ส.ส.เพราะมีการแจกใบเหลืองอดีต ส.ส.เพื่อไทย ศรีนวล(ตอนนั้นสังกัดอนาคตใหม่) จึงได้เสียงท่วมท้น เพราะกองเชียร์เพื่อไทยเทคะแนนให้เธอ สมัยหน้า เพื่อไทยลงสนาม คงทวงเก้าอี้คืน

อนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 มากับกระแสธนาธร บวกชาวธรรมกาย แต่เมื่อย้ายมาภูมิใจไทย ก็เหนื่อยเป็นสองเท่า

 

กิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 ก็ได้ฐิติมา ฉายแสง อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา เทคะแนนให้ หลังพรรคไทยรักษาชาติ ถูกยุบ และวันนี้ ฐิติมาย้ายกลับไปเพื่อไทยแล้ว

 

เอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 และกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่ เขต 2 ก็ได้อานิสงส์พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ คนเสื้อแดงแพร่เลยเทใจเลือกอนาคตใหม่ สมัยหน้า ส.ส.หน้าใหม่ก็รู้ชะตากรรมดี

 

ส่วน ส.ส.เขต ที่ย้ายมาจากอนาคตใหม่ ก็คงเผชิญสถานการณ์เดียวกันกับเพื่อน ส.ส.ที่ยกมาเป็นตัวอย่างในข้างต้น

 

‘พิษบัตร 2 ใบ’

ส.ส.สีส้มแปรพักตร์ไม่ได้มีแค่ 10 คน “อนุทิน” ยังมีความสัมพันธ์เชิงลึกกับ ส.ส. 5 คนที่ยังอยู่ในพรรคก้าวไกล โดยรอบนี้ พรรคก้าวไกลไม่ยอมขับออก เหมือนกรณีของศรีนวล

 

สำหรับ 5 ส.ส.ก้าวไกลที่ใจไปอยู่ค่ายสีน้ำเงิน ได้แก่ เกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ,ขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี ,คารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ,พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย และเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย

 

เฉพาะ 3 ส.ส.เขต หากพิจารณาจากการทำงานในพื้นที่ ก็ถือว่ามีฐานเสียงระดับหนึ่ง แต่บังเอิญอยู่ในสนามที่มีการแข่งขันสูง โอกาสที่จะได้เป็น ส.ส.สมัยที่ 2 ดูไม่ง่ายเลย

 

ขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี เขต 5 (อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี) สมัยหน้า กลุ่มบ้านใหญ่ชลบุรีคงไม่ยอมให้พลาดสองหนซ้อน บวกทีมเพื่อไทยก็จะลงสนามด้วย

 

เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย เขต 1 (อ.เมืองเชียงราย) คงเจอกระแสเพื่อไทยแลนด์สไลด์ คราวนี้ เจ๊แดงลงมากำกับเพื่อไทยเอง จะไม่ยอมให้พลาดเหมือนสมัยที่แล้ว

 

พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย เขต 6 (อ.แม่สาย) น่าจะเป็นคนเดียวในกลุ่ม ส.ส.งูเห่า ที่จะได้กลับเข้าสภาฯอีก เพราะมีฐานเสียงแข็งแกร่งที่ อ.แม่สาย

 

ด้วยสภาพการณ์ที่เป็นจริงในสนามเลือกตั้ง แกนนำภูมิใจไทยจึงไม่อยากเปลี่ยนกติกาเป็นบัตร 2 ใบตั้งแต่แรก

 

เมื่อผู้ถืออำนาจ และแกนนำพลังประชารัฐ ต้องการเปลี่ยนกติกา อนุทินและภูมิใจไทย จึงประนีประนอมด้วยการงดออกเสียง ทั้งที่อยากได้บัตรใบเดียว เพราะรู้ถึงศักยภาพของ ส.ส.งูเห่าเป็นอย่างดี