ด้อยค่าเด็ก "ทักษิณ" เจอ "เจี๊ยบ ก้าวไกล" ติ่งส้มติ่งแดงแทงกันเละ
เอฟเฟกต์ด้อยค่าเด็ก "ทักษิณ" เจอ "เจี๊ยบ ก้าวไกล" อัดสู้ไปกราบไป ติ่งส้มถล่มติ่งแดง ปีกซ้ายสิ้นหวังเพื่อไทย คนดูไบไม่สนใจ เดินหน้าผูกใจรากหญ้าผ่านเทคโนโลยี AR คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
เอฟเฟกต์เด็กไม่รู้ไม่เข้าใจ “ทักษิณ” เจอเจี๊ยบ ก้าวไกล อัดด้อยค่าสามนิ้ว และกองเชียร์สีส้มถล่มเละ ตอกย้ำสู้ไปกราบไป
ปีกแดงซ้ายสิ้นหวัง “ทักษิณ” หมดความศรัทธา ขอเลือกก้าวไกล เช่นเดียวกับแกนนำสามนิ้ว รู้สึกผิดหวัง 2 อดีตนายกฯ ที่ถูกรัฐประหารสองครั้ง
ฐานใครฐานมัน “ทักษิณ” ไม่สนกระแสด้อยค่าสามนิ้ว เดินหน้าหาเสียงด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เชื่อคนรากหญ้ายังภักดีต่อแบรนด์ชินวัตร
อันเนื่องจากกรณีทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ กล่าวในรายการ CARE Talk x CARE Clubhouse ตอนหนึ่งว่า “เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็คิดว่าต้องปฏิรูปสถาบัน วันนี้เราได้รัฐบาลที่มาจากรูปแบบที่ไม่ดีแล้วยังไม่เก่ง และยังคอร์รัปชัน ตามโลกไม่ทันและไม่สนใจจะตามโลก ทำให้เด็กไม่มีอนาคต เด็กก็เลยไปโทษว่าเกี่ยวกับสถาบัน ความจริงมันไม่เกี่ยวเลย”
พลันที่ทักษิณหลุดความเห็นเกี่ยวกับเด็กสามนิ้วกับข้อเสนอการปฏิรูปสถาบันฯ ส.ส.พรรคก้าวไกลบางคนก็โจมตีว่า สู้ไปกราบไปทันที รวมถึงกองเชียร์สีส้มถล่มปมทักษิณด้อยค่าเด็ก
ขณะที่แกนนำกลุ่มแคร์ปิดปากเงียบ รวมถึงค่ายวอยซ์ทีวี กระบอกเสียงค่ายชินวัตร ก็ไม่เสนอข่าวเรื่องนี้ หากแต่เลี่ยงไปเล่นข่าวทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชวนแฟนคลับใช้เทคโนโลยีภาพเสมือนจริงหรือเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) เพื่อรับชมคำอวยพร สวัสดีปีใหม่ไทย 2565 เนื่องในวันสงกรานต์
ทักษิณเป็นนักการตลาดชั้นเซียน รู้ดีว่าการจงใจเสนอความเห็นเกี่ยวกับกลุ่มคนรุ่นใหม่กับแนวคิดปฏิรูปสถาบันนั้น ย่อมมีกระแสตีกลับมาจาก Gen Z แต่ฐานหลักของเพื่อไทยคือ คนรากหญ้า ทักษิณจึงให้ ส.ส.เพื่อไทย และสมาชิกเพื่อไทยไปเล่นเทคโนโลยี AR พาทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ไปพบกับชาวบ้านในทุกสถานที่
ดังนั้น ช่วงสงกรานต์ ทักษิณจึงไปปรากฏตัวที่เวทีหมอลำหลายคณะ รวมงานบุญรดน้ำสงกรานต์ในภาคเหนือ ก็มียิ่งลักษณ์โผล่ไปอยู่เฟรมเดียวกับชาวบ้าน
- ‘เจี๊ยบไม่ทน’
จริงๆแล้ว “ทักษิณ” เจอข้อหาสู้ไปกราบไปมานานแล้ว โดยเฉพาะจากกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ แต่พักหลังเจ๊เจี๊ยบหรือเจี๊ยบ ก้าวไกล อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็กระโดดเข้ามาร่วมวงด้วย
ปฏิกิริยาหลังแคร์คลับเฮาส์จบลง เมื่อค่ำวันอังคารที่ผ่านมา ในโซเชียลการเมืองก็ดุเดือดไปด้วยการหยิบเอาคำพูดของทักษิณที่ว่า “เด็กไม่รู้ไม่เข้าใจ โทษแต่สถาบัน” มาวิพากษ์วิจารณ์
ส.ส.เจี๊ยบ ก้าวไกล ได้โพสต์เฟซบุ๊คด้วยข้อความสั้นๆว่า “เอ้า..กราบ” ซึ่งแฟนคลับสีส้มก็รู้ได้ทันทีว่า ส.ส.เจี๊ยบเหน็บใคร ถัดมา ส.ส.เจี๊ยบโพสต์เฟซบุ๊คอีกว่า “ไม่ถูกต้องหรอก ที่ออกมาด้อยค่าคนที่เค้ากล้าออกมาสู้”
ปีที่แล้ว อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้เปิดศึกวิวาทะกับลักขณา ปันวิชัย หรือ แขก คำผกา พิธีกรช่องวอยซ์ทีวี อยู่บ่อยๆ ซึ่งแขก คำผกา ประกาศตัวว่า เป็นนางแบกเพื่อไทย
อย่างกรณี ส.ส.เจี๊ยบ ก้าวไกล โพสต์ว่า ใช้เงินเดือนประกันม็อบสามนิ้ว ม็อบทะลุฟ้า จนเงินเดือนเกือบเต็มวงเงิน และเรียกร้องพรรคอื่นร่วมเคียงข้าง
แขก คำผกา ก็ตอบโต้ว่า “ถ้าคนเราจะเอาเงินเดือนไปประกันตัวคนไปม็อบจนหมดตัว แปลว่าคนๆนั้นมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากร ถ้าเป็นแขก แขกจะไม่เลือกคนแบบนี้ไปทำงานแทนแขกนะ เพราะมันสะท้อนว่า คนคนนี้ขยันแต่โง่”
กรณีติ่งเพื่อไทยและติ่งก้าวไกลฟาดฟันกันเองในโซเชียล "อานนท์ นำภา" แกนนำกลุ่มราษฎรก็เสนอว่า “ประเด็นหนึ่งที่เราต้องเข้าใจร่วมกันคือ อย่าให้กลายเป็นว่า ฝ่ายสนับสนุนก้าวไกลก็จ้องด่าเพื่อไทย ฝ่ายสนับสนุนเพื่อไทยก็จ้องด่าก้าวไกล หรือไปกว่านั้นคือ พอฝ่ายไหนพลาด คนที่สนับสนุนก็ออกมาปกป้องแบบไม่ลืมหูลืมตา”
อานนท์ยังมองโลกในแง่ดีว่า “...ผมเห็นว่าคนหัวๆของทั้งสองพรรคส่วนใหญ่ก็มีความใจกว้างและวุฒิภาวะในการรับฟังการวิจารณ์รวมทั้งคุณทักษิณด้วย”
ด้านพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ว่า “เด็กไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือผู้ใหญ่ไม่กล้าพูด” และ “ครั้งที่แล้วผมเลือกเพื่อไทยครับ”
- ‘ปีกซ้ายสิ้นหวัง’
ปฏิกิริยาต่อการด้อยค่าสามนิ้วของ “ทักษิณ” เที่ยวนี้ แดงฮาร์ดคอร์หลายคนตกอยู่ในภาวะหวานอมขมกลืน อิหลักอิเหลื่อ เพราะมีเรื่องบุญคุณที่คอยเกื้อกูลกันมาในอดีต จึงไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์
ตรงกันข้าม "ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์" นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ทำไมถึงรังเกียจทักษิณในการไลฟ์เมื่อวาน ก่อนอื่นต้องบอกว่า ดิชั้นไม่ได้เป็นโรค Thaksinophobia และมีหลายครั้งที่ดิชั้นดีเฟนด์ทักษิณจากการโจมตีของติ่งก้าวไกล แต่เมื่อวานเหลืออดจริงๆ คือการที่คุณต้องการคืนดีเจ้า ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การที่คุณบอกว่าเด็กๆ ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ เลยไปเรียกร้องการปฏิรูปสถาบัน อันนี้เป็นเรื่องที่แย่มาก”
เช่นเดียวกับ "จอม เพชรประดับ" สื่อมวลชนอิสระ ที่เคยฝากความหวังจะให้ทักษิณเป็นผู้นำการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อุตส่าห์ลงทุนไปลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ แต่ทักษิณก็ไม่สู้จริง และระยะหลัง จอมรู้สึกผิดหวังครอบครัวชินวัตร
อย่างกรณีด้อยค่าสามนิ้ว จอมโพสต์เฟซบุ๊คว่า “...ถ้าคุณทักษิณคิดเพียงว่า การจะสร้างการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพียงแค่การแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ก็เพียงพอแล้วโดยไม่แตะเรื่องการปฎิรูปสถาบันฯ หรือไม่ต้องเรียกร้องให้สถาบันปรับตัว และยังมองว่า กลุ่มประชาชนและเยาวชนที่เสนอปฎิรูปสถาบัน เพราะไม่เข้าใจ ไม่ได้ใกล้ชิดเจ้านายเหมือนที่ตัวเองได้รับใช้ใกล้ชิด ผมว่า นี่เป็นความคิดหรือมุมมองที่ตื้นเขินอย่างยิ่ง”
ตอนท้าย จอมสรุปว่า “ไม่อยากพูดซ้ำว่า ผิดหวังกับคุณทักษิณ เพราะเคยพูดมาหลายครั้งแล้ว คงถึงเวลาที่จะบอกว่า สิ้นหวัง หมดหวัง ไปเลยดีกว่า”