คอลัมนิสต์

"กาโตะ" วัยละอ่อน เจอนารีพิฆาต  เมื่อปฐมปาราชิก  ผัว-เมีย ควรต้องโทษคดีอาญา ?

"กาโตะ" วัยละอ่อน เจอนารีพิฆาต เมื่อปฐมปาราชิก ผัว-เมีย ควรต้องโทษคดีอาญา ?

04 พ.ค. 2565

เรื่องราวของ "พระกาโตะ" กับ สีกา "ตอง" ต้องกลายเป็นความเสื่อมในทางพระพุทธศาสนาอีกระรอก ปัญหาทางออกของปัญหาควรปล่อยให้เป็นเช่นนี้หรือ ? วันนี้ถึงเวลาที่วงการสงฆ์ควรต้องให้ความสำคัญกับบทบาทของ "พระสังฆาธิการ" อีกระรอกมั้ย หรือจะปล่อยให้มี นารีพิฆาต เช่นนี้ต่อไปอีก

ถึงวันนี้ใครๆ ก็ให้ความสนใจพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ล้นหลาม มิใช่เพราะใกล้วันวิสาขบูชา แต่เกี่ยวกับ "นารีพิฆาต" พระนักเทศน์หนุ่ม อารมณ์ดี มีอนาคต ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน อ.ฉวาง จ. นครศรีธรรมราช

เริ่มจากคลิปเสียงฝ่ายชายและหญิงสนทนา หรือเกี้ยวพาราสี ในที่สุดก็มีความสัมพันธ์ล้ำลึก

ฝ่ายชายคือ "พระกาโต๊ะ" วัยละอ่อน แค่ 23 ปี ฝ่ายหญิงคือ "สีกาตอง" สาวงามอายุอานามกว่า 30 ปี

 

เมื่อเรื่องถึงThai media จึงแรงขึ้นๆ ดังนั้นตลอดเวลา 1 สัปดาห์ สื่อมวลชนทุกกระแส ปั้นเรตติ้งกันน่าดู ว่าใครจะเจาะได้ดีกว่า ทั้งๆ ที่สื่อส่วนมากนับถือศาสนาพุทธ แต่หาใครคำนึงถึงความรู้สึกของชาวพุทธทั่วประเทศไม่

ในที่สุดเรื่องจบ เมื่อ "พระกาโต๊ะ" ยอมสล้ดผ้าเหลือง กลับเป็น "ฆราวาส" ไปนอนตีพุงที่บ้านสบาย

ฝ่ายหญิงก็เหมือนกัน ไม่เสียอะไรมีแต่ได้กับได้ (ได้ผัวและเงิน) 

เราไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้เกิดบ่อย จะเป็นความเคยชินแบบ "ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์" หากแบบนี้ ศาสนาพุทธจะเหลือเพียงสัญลักษณ์

จึงเสนอผู้เกี่ยวข้อง นำไปพิจารณา

1.ผู้ปกครองสงฆ์ที่เป็น "พระสังฆาธิการ" ควรรอบคอบในการตั้ง "พระนวกะ" (ยังไม่พ้น5 พรรษา ) เป็นผู้รักษาการ เจ้าอาอาวาส  อาจละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ ด้วยว่ากฏ มหาเถรสมาคมว่า จะตั้งเจ้าอาวาสหรือรักษาการ พระนั้นต้องมีพรรษา 5 ยกเว้นวัดในถิ่นทุรกันดาร ให้ตั้งพระที่พรรษาไม่ถึง 5 ได้

2. กรณีพระที่เป็นผู้ละเมิด "ปฐมปาราชิก" ควรรับโทษทางอาญา ส่วนฝ่ายหญิง ก็ต้องโดนคดีอาญาด้วย (ให้ตรา พรบ. หรือประกาศกฏ กระทรวง) เพื่อกำราบ "อลัชชี" สยบ "นารีพิฆาต"   

 

3 เพื่อเตือนความจำและขอให้ปัดฝุ่นคำสั่งต่อไปนี้

ผมจำได้ เมื่อเดือน กันยายน 2560 คณะสงฆ์ที่ดี และชาวพุทธตื่นเต้นดีใจ เมื่อเจ้าคณะใหญ่หนต่างๆ ทั้ง 4 หนและเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต ร่วมกันลงนามคำสั่งให้ "พระสังฆาธิการ" ตรวตสอบ พฤติกรรม และลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครอง

1. เมื่อมีพฤติกรรมไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดของตน(ให้ตรวจสอบทั่วราชอาณาจักร)

2. พระเณรที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั่วราชอาณาจักร

3. พระเณรที่วิจารณ์แรงๆ กระทบความมั่นคงสถาบันหลักของประเทศ

4. พระเณรที่ไม่สำรวมเช่นใช้โทรศัพท์มือถือ ในที่ที่ไม่เหมาะสม

5. พระเณรที่ไม่เคร่งในธรรมวินัย

6. พระเณรที่ไม่รักษาพระธรรมวินัย

7. ทำความเสียหายเป็นโลกวัชชะ

8. พระเณรประพฤติผิด พรบ.สงฆ์ และ กม. บ้านเมือง

 

ในคำสั่งคาดโทษ "พระสังฆาธิการ" ที่ไม่ได้ดำเนินการ หรือหย่อนยานในการสำรวจ ตรวจสอบ ความประพฤติพระภิกษุ สามเณรในปกครอง และไม่จัดการตามกฎหมาย กฎ มส. ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ หรือประกาศ มส. กับพระเณรที่มีพฤติกรรมข้างต้น

(พระสังฆาธิการ) ต้องได้รับโทษ ฐานละเมิด จริยาพระสังฆาธิการ

คำสั่งใบเดียว แต่ลงนามโดย เจ้าคณะใหญ่หนกลาง หนใต้ หนเหนือ หนตะวันออกและเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต นานๆ จะเกิดขึ้น ดังเป็นพลุแค่นั้น จากนั้นมันเงียบหลังจากเวลาผ่าน 5 ปีไม่มีใครจำได้ว่ามีคำสั่งปฏิรูปสงฆ์ ที่ออกมาถูกใจประชาชน 

ผมเสนอให้ "มหาเถรสมาคม" นำมาปัดฝุ่น โดยเชื่อว่าคณะสงฆ์จะเป็นที่ตั้งศรัทธา ปสาทะของชาวพุทธในปัจจุบันและอนาคต

จิรํ ติฏฐตุ พุทธสาสนํ.