"ฝ่ายค้าน" รับ "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้
แค่เกมส์ปั่นราคาผลไม้ในรัฐสภา "ฝ่ายค้าน" รู้อยู่เต็มอก "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" ทำอะไรรัฐบาลที่มีคะแนนเสียงมากกว่าไม่ได้
การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ฝ่ายค้านอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 เป็นครั้งที่ 4 หลังรัฐบาล ประยุทธ์ 2 บริหารราชการแผ่นดินมา 3 ปีเศษ ฝ่ายค้านยอมรับโดยดุษฎีว่า อภิปรายคราวนี้ ไม่สามารถ น๊อกรัฐบาลในสภาได้ เพราะมติ ไม่ไว้วางใจ ต้องอาศัยเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา หรือ 239 เสียง จากสมาชิกที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 477 คนขณะที่รัฐบาลผสมมีเสียงอยู่ 269 เสียง ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านมีเสียงเพียง 208 เสียงเท่านั้น
การอภิปรายคราวนี้ ไม่มีพรรคการเมืองขนาดเล็กที่นำโดยพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งร้อยเอกธรรมนัสหัวหน้าพรรค รุบว่ารวบรวมเสียงไว้ในมือได้ราว 40 เสียงร่วมลงชื่ออภิปรายด้วย แต่อย่างใด
เป้าหมายการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง อยู่ที่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชาในฐานะนายกรัฐมนตรี ตามด้วยพี่ใหญ่อย่างพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณและพี่รองพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา จากกลุ่ม 3 ป. ขณะที่อนุทิน ชาญวีระกูลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคมีรายชื่อถูกมัดรวมกับกลุ่ม 3 ป.นับตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ก.พ. 2564 ซึ่งครั้งนั้น อนุทิน ได้รับคะแนนไว้วางใจสุงสุด การอภิปรายไม่ไว้วางใจคราวนี้นี่เอง ที่ปรากฏชื่อของ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจรวมอยู่ด้วย ทั้งสามคนจึงเป็นรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรรายไม่ไว้วางใจติดต่อกันเป็นครั้งที่สามแล้ว
โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2564 พล.อ. ประยุทธ์ ได้รับคะแนนไว้วางใจ 264 : 208 คะแนน
งดออกเสียง 3 มีคะแนนมากกว่านายสุชาติ ชมกลิ่นซึ่งรั้งท้าย ด้วยคะแนนไว้วางใจต่ำสุด 263 : 201 คะแนน
หากเปรียบเทียบระยะห่างระหว่างเสียงสนับสนุนฝ่ายค้าน-รัฐบาล จะพบว่ามีช่องว่างอยู่ถึง 61 เสียง หักคะแนนส่วนที่
ร้อยเอกธรรมนัส เคยพูดไว้ในทำนองสั่งได้ออกไป 40 เสียง อย่างไร รัฐบาลก็ยังมีเสียงมากกว่าฝ่ายค้านอยู่กว่า 20 คะแนน ทั้งยังมีเสียงสำรอง จาก ส.ส.ฝ่ายค้านที่แปรพักตร์มาสนับสนุนรัฐบาลจำนวนหนึ่ง นี่ยังไม่นับรวมตำแหน่งรัฐมนตรีว่างอยู่2-3 เก้าอี้ สามารถนำมาใช้ต่อรองการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อีก
มีคำถามว่า แล้วรัฐมนตรีบางราย จะร้อนตัวเรื่องที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไปทำไม ในเมื่อเห็นๆอยู่ว่ายังไงก็ชนะ อยู่ดี แต่หากสังเกตดูจะพบว่ามีรัฐมนตรี สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่เกี่ยวกับ 3 ป. และมีชื่อถูกอภิปรายในคราวนี้ 3 คน ล้วนถูกจัดวางตำแหน่งสำคัญภายในพรรค หนึ่งคือชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค
สองคือ สันติ พร้อมพัฒน์เลขาธิการพรรค
และสามคือสุชาติ ชมกลิ่นผู้อำนวยการพรรคคนปัจจุบัน
ที่สำคัญคือทั้งสามคนนี้เพิ่งชนะศึกภายในมาไม่นานนัก ทั้งสามคนนี้ต่างหากที่ตกไปอยู่ในเกมส์ปั่น ใครไม่อยากเป็นบ๊วยก็คงต้องแจก “กล้วย” ที่มีราคาแพงกว่า “แอปเปิ้ล”