คอลัมนิสต์

ย้อนรอยไทยรบพม่า “ทักษิณ” ลั่นคำโอเวอร์รีแอ๊ก

ย้อนรอยไทยรบพม่า “ทักษิณ” ลั่นคำโอเวอร์รีแอ๊ก

01 ก.ค. 2565

ย้อนรอยไทยรบพม่า “ทักษิณ” กับวาทะเด็ด โอเวอร์รีแอ๊ก ตำหนิผู้นำกองทัพสมัยโน้น กรณีปฏิบัติการสั่งสอนทหารพม่า คอลัมน์...ท่องยุทธภพ โดย...ขุนน้ำหมึก

 

ลืมแล้วหรือ “ทักษิณ” กับวาทะเด็ด โอเวอร์ รีแอ๊ก ตำหนิผู้นำกองทัพสมัยโน้น กรณีทหารไทยยิงตอบโต้ทหารพม่า 


พ.ศ.นี้ มีนักการเมืองชี้บิ๊กตู่รู้เห็นเป็นใจกองทัพเมียนมา คงลืมเรื่อง “ทักษิณ” ไม่พอใจบิ๊กกองทัพไทยในอดีตไปแล้ว


หลังเกิดเหตุเครื่องบินมิก-29 ของกองทัพเมียนมา รุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าไทยที่ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2565 ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนวิจารณ์กองทัพไทยว่า รู้เห็นเป็นใจกับเผด็จการ ทหารเมียนมา แถม ส.ส.ระดับหัวหน้าพรรคเล็กยังบอกว่า ยิง(เครื่องบิน)ก่อนค่อยเจรจา  
 

 

 

หลายคนอาจลืมไปว่า ทักษิณ ชินวัตร เคยวิจารณ์กองทัพไทย ที่ตอบโต้ทหารเมียนมาอย่างรุนแรง ด้วยวาทะ “โอเวอร์ รีแอ๊ก”


แม้วันนี้บริบทสังคมการเมืองเมียนมาจะเปลี่ยนไป แต่ตัวละครหน้าเดิม ๆ ยังมีอำนาจอยู่ และหลายคนมีความใกล้ชิดกับทักษิณ 


‘ปั่นไทยรบพม่า’
แนวรบด้านตะวันตกสมัย “ทักษิณ” กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เปลี่ยนแปลง กลุ่มชาติพันธุ์ยังสู้รบกับทหารเมียนมาอยู่เหมือนเดิม


กรณีเครื่องบินรบเมียนมาล้ำแดน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าได้ประสานไปยังทางการเมียนมาแล้ว ยอมรับว่ารุกล้ำจริง แต่ได้ขอโทษถึงรัฐบาลไทยแล้ว ว่าไม่มีความตั้งใจและไม่ต้องการมีปัญหากับกองทัพไทย

 

อีกด้านหนึ่ง มานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงกรณีเครื่องบินเมียนมาบินรุกล้ำน่านฟ้าไทยว่า เครื่องบินดังกล่าว ไม่ได้บินเข้ามารอบเดียว แต่บินเข้ามาถึง 3 ครั้ง ภายในเวลา 20 นาที ก่อนทำการโจมตีในเวลา 17.00 น. ด้วยการใช้อาวุธจากอากาศยาน 

 

 

 

 

ส.ส.ก้าวไกลคนนี้ ได้ตั้งคำถามว่า มีการรู้เห็นเป็นใจของกองทัพไทยหรือไม่ ที่เปิดให้มีการบินรุกล้ำโจมตีชนกลุ่มน้อย


ขณะที่ ไพศาล พืชมงคล นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนสติคนไทย โดยอ้างว่า โซเชียลที่ประเทศตะวันตกมาจัดตั้งขึ้นในประเทศไทย “..ปั่นหัวให้คนไทยโกรธกองทัพอากาศ และเรียกร้องให้ประนามพม่าว่ารุกรานประเทศไทย” 


ไพศาลชี้ว่า มีการทำกันอย่างเป็นกระบวนการ “...เขาปั่นกระแสเรื่องนี้ก็เพราะต้องการให้ไทยทำสงครามกับพม่า ถ้าไทยทำสงครามกับพม่าหรือเกิดการปะทะกันขึ้น #นาโต้ 2 ก็จะแผลงฤทธิ์ทันที”


‘ย้อนรอยทักษิณ’
20 ปีที่แล้ว “ทักษิณ” งัดข้อกับผู้นำกองทัพ กรณีทหารกองทัพภาคที่ 3 ตอบโต้ทหารเมียนมา ที่รุกล้ำแดนเข้ามา


ถ้ายังจำกันได้ สมัยที่ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ปี 2544 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ยังเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) ได้เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงในเรื่องของการวางนโยบายระหว่างประเทศของไทยและเมียนมา เห็นได้ชัดว่า ทักษิณมีความกระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะเจรจาด้านธุรกิจการค้ากับเมียนมา แต่ พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่สู้จะกระตือรือร้นนัก


ช่วงเดือน มิ.ย.2545 ทหารเมียนมา เปิดยุทธการปราบปรามชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และได้รุกเข้ามาในเขตแดนของไทย กองทัพภาคที่ 3 ได้ตอบโต้ทหารเมียนมาอย่างรุนแรง 


อดีตนายกฯทักษิณ รู้สึกไม่พอใจ ปฏิบัติการทางทหารครั้งนั้น จึงได้วิพากษ์ปฏิบัติการของกองทัพไทยมีต่อกองทัพเมียนมา เป็นการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ หรือ โอเวอร์รีแอ๊ก


ปลายปี 2545 พล.อ.สุรยุทธ์จึงถูกโยกจาก ผบ.ทบ.ไปเป็น ผบ.สส. จนเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.2546  


เวลานั้น ฟากฝั่งเมียนมา พล.อ.หม่องเอ รองประธานสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ (SPDC) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้นำหมายเลข 2 รองจากนายพล ตาน ฉ่วย ส่วน พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย กำลังเป็นนายทหารดาวรุ่ง 


ทักษิณมีความสนิทสนมกับนายพลตานฉ่วย และ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ซึ่งใครเคยอ่านเรื่องคลิปถั่งเช่า ก็คงจะทราบถึงสายสัมพันธ์อันดีระหว่างตระกูลชินวัตร กับกลุ่มผู้นำทหารเมียนมา


สถานการณ์เปลี่ยน ผู้มีอำนาจก็เปลี่ยน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.จึงลุกมาวิพากษ์ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า รู้เห็นเป็นใจกับผู้นำทหารเมียนมา 


ณัฐวุฒิคงจำไม่ได้ว่า ทักษิณเคยวิพากษ์นายทหารไทยว่า โอเวอร์รีแอ๊ก เพราะนำกำลังทหารรบทหารเมียนมาที่รุกล้ำแดนไทย