พระเจ้าอโศกมหาราช ต้นแบบไหว้สังเวชนียสถาน
ประเทศอินเดีย เปิดรับนักท่องเที่ยว และคณะธรรมจาริก เพื่อเยี่ยมเยียนสังเวชนียสถาน 4 แห่งแล้ว หลังจากปิดมา 2-3 ปี เพราะการระบาดโควิด 19
ชาวพุทธมุ่งไปบูชา สังเวชนียสถาน 4 แห่ง ได้แก่ 1. ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ พุทธคยา ที่ที่ตรัสรู้
2. พาราณสี ที่แสดงปฐมเทศนา 3. กุสินารา ที่เสด็จสู่นิพพาน และ 4. ลุมพินี ที่ประสูติ (ในประเทศเนปาล)
การที่ต้องไปทั้ง 4 แห่งเพราะ "พระพุทธองค์" ตรัสแก่ "พระอานนท์" พุทธอนุชา ว่า พุทธบริษัทต้องไปบูชา สังเวชนียสถานที่ 4 แห่ง นี้ เมื่อละโลกนี้ย่อมขึ้นสวรรค์
พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ (ดร.อนิลมาน ธมฺมสากิโย) นักปราชญ์ชาวพุทธ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพุทธโลก (ม.พ.ล.) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร
เคยกล่าวว่า ถ้าไปสังเวชนียสถาน แล้วจิตใจไม่ได้น้อมไปในการทำบุญ หรือสงเคราะห์ ย่อมไม่ได้บุญ แต่ได้บาปแทน เพราะบางคน บางคณะไปแบบละไม่ได้ ต้องกินอาหารที่ถูกปาก อาหารอินเดียกินไม่ได้ (อาหารอินเดียส่วนมากเป็นมังสะวิรัติ )แต่คนไทยขาดประเภทเนื้อไม่ได้ อย่างน้อยต้องมีปลา หรือไก่ย่าง หรือแกงไก่ ส่วนที่พักต้องเป็นโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ซึ่งบริษัททัวร์ต้องจัดเอาใจ เช่นต้องมีน้ำพริกติดไปด้วย หาที่พักให้ตามที่ลูกทัวร์ต้องการ
การจะให้ได้บุญ สมเจตนารมณ์ในการจาริกแสวงบุญ ต้องทำตามที่พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงวางแบบไว้แล้ว
ผมขออ้างเรื่องจารึกพระเจ้าอโศกมหาราชที่ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) รวบรวมไว้
ชาวพุทธ และนักประวัติศาสตร์ ทั่วโลก ไม่มีใครที่ไม่รู้จักพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ปกครอง ชมพูทวีป 42 ปี หรือพ.ศ. 218 ถึง พ.ศ.260 ซึ่งพระพรหมคุณาภรณ์ หรือสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.อ.ปยุตฺโต ว่า ทรงใช้หลักรัฐศาสตร์ธรรมาธิปไตยปกครองประเทศ จนเป็นปึกแผ่นทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา และทรงเป็นอัครมหาบุรุษในประวัติศาสตร์โลก
ที่ผมจะพูดถึงพระเกียรติคุณของพระเจ้าอโศกมหาชในวันนี้ คือ ทรงเป็นต้นแบบธรรมยาตรา ในการเสด็จไปบูชาสังเวชนียสถาน โดยเฉพาะ ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ.พุทธคยา
เมื่อพระเจ้าอโศก เสด็จพุทธคยา มีพระราชกรณียกิจ ตามที่พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ยุตฺโต) อ้างข้อความในจารึกศิลา ฉบับที่ 8 ว่า ตลอดเวลายาวนานที่ล่วงไปแล้ว พระเจ้าอยู่หัวทั้งหลายได้เสด็จไปในการวิหารยาตรา (การท่องเที่ยวหาความสำราญ) ในการเสด็จวิหารยาตรานั้น มีการฆ่าสัตว์และหาความสนุกอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
(ส่วน) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศี (พระเจ้าอโศกมหาราช) ผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพ เมื่ออภิเษกได้แล้ว 10 พรรษา ได้เสด็จไปสู่สัมโพธิ (โพธิคยา-สถานที่ตรัสรู้) จากเหตุการณ์ครังนั้น จึงเกิดมี "ธรรมยาตรา" (การท่องเที่ยวโดยทางธรรม) นี้ขึ้น
ในการธรรมยาตรานั้น ย่อมมีกิจดังต่อไปนี้คือ การเยี่ยมเยียนสมณ ชี พราหมณ์ และการถวายทานแด่ท่านเหล่านั้น
การเยี่ยมเยียนท่านผู้เฒ่า ผู้สูงอายุ และการพระราชทานเงิน เพื่อ(ช่วยเหลือ) ท่านเหล่านั้น
การเยี่ยมเยียนราษฎรในชนบท การสั่งสอนธรรมและซักถามปัญหาธรรม แก่กัน
ความพึงพอใจ อันเกิดจากการกระทำเช่นนั้น ย่อมมีเป็นอันมาก นับเป็นโชคลาภของสมเด็จพระอยู่หัวปริยทรรศี อีกอย่างหนึ่งที่เดียว
นี่คือต้นแบบธรรมยาตรา ดังนั้นเมื่อเราไปสังเวชนียสถาน หรือสถานที่เกี่ยวข้องกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระคันธกุฎี จงทำจิตใจให้สงบ รำลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ด้วยความเคารพ
อดีต ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต เล่าในคำบรรยายพระไตรปิฎกว่า ถ้าไปแล้ว หาแต่ความสนุก คุยเดอรตี้โจ๊ก และไม่สำรวม ไม่เคารพสถานที่เหล่านั้น ขอแนะนำให้อยู่บ้าน ได้บุญกว่าครับ
คุณผู้อ่านคิดอย่างไรครับ
เรื่อง : เปรียญ12
ติดตาม Facebook คลิ๊ก komchadluek