โจทย์หินด่านโหด “แรมโบ้อีสาน” แบก“ประยุทธ์”สุดเหนื่อย
สมรภูมิโหด “แรมโบ้อีสาน” รับภารกิจลุย 20 จว.อีสาน อุ้ม “ประยุทธ์” ฝ่ากระแสต้านเผด็จการ แทบหมดลุ้น ส.ส.เขต หวังเปิดกลยุทธ์แอร์วอร์ เก็บแต้มปาร์ตี้ลิสต์
โจทย์หินด่านโหด “แรมโบ้อีสาน” รับภารกิจลุยที่ราบสูง อุ้ม “ประยุทธ์” ฝ่ากระแสต้านเผด็จการ พรรค รทสช.แทบหมดลุ้น ส.ส.เขต ในเกมชิง 132 ที่นั่ง
จากแดงฮาร์ดคอร์ “แรมโบ้อีสาน” สู่หัวหมู่ทะลวงฟันปีกอนุรักษ์นิยม เดิมพันสุดท้ายพา “ประยุทธ์” เก็บแต้มปาร์ตี้ลิสต์ในสนามอีสาน
ก่อนถึงนาทีเปิดตัวไม่กี่ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้ง เสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐนตรี
การตั้ง “แรมโบ้อีสาน” ในช่วงเวลานี้ คงจะมองไปเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากการเตรียมบุคลากรสู้ศึกเลือกตั้ง ในสีเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ
พลันที่มีคำยืนยันจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ แรมโบ้อีสาน-เสกสกล ก็ตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรคเทิดไท เพื่อมาร่วมงานกับพรรค รทสช.
ยี่ห้อแรมโบ้ มีความเก๋าและเครือข่ายมวลชน จึงถูกคาดหมายว่า เขาจะเป็นขุนพลอีสาน พรรค รทสช.
จังหวะนั้น ก็มีข่าวว่า แรมโบ้อีสานเจอแผนสกัดจากคนในพรรค รทสช. ไม่ให้คุมภาคอีสาน ร้อนถึง เสกสกล อัตถาวงศ์ ต้องออกมาแถลงข่าวว่า ไม่มีความขัดแย้งกับพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. หรือคนในพรรคในเรื่องของการดูแลพื้นที่ภาคอีสาน
อย่างไรก็ตาม การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแรมโบ้อีสาน เป็นที่ปรึกษานายกฯ ก็คือคำตอบว่า ใครจะเป็นแม่ทัพใหญ่ภาคอีสาน
เมื่อกวาดสายตามองไปในกลุ่มแกนนำพรรค รทสช. ไม่มีใครที่ชำนาญพื้นที่และมีฐานมวลชนเหมือนแรมโบ้อีสาน
‘ด่านโหดลุงตู่’
ความหวังของ “ประยุทธ์” จะกลับมาเป็นนายกฯอีกสมัย พรรค รทสช.ต้องได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 100 เสียง แต่เหลียวมองไปที่สมรภูมิใหญ่ภาคอีสาน ก็เป็นโจทย์หินของ “แรมโบ้อีสาน”
นับแต่การเลือกตั้งทั่วไป 2544 จนถึงปี 2562 พรรคการเมืองของทักษิณ ทั้งไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย เป็นแชมป์ภาคอีสานมาตลอด ปี 2554 พรรคเพื่อไทย กวาด ส.ส.ภาคอีสาน 104 ที่นั่ง แต่ปี 2562 ลดลงเหลือ 83 ที่นั่ง แต่เพื่อไทยก็ยังเป็นแชมป์อีสาน
สมัยที่แล้ว พรรคพลังประชารัฐ ได้ระดมอดีต ส.ส.อีสาน ลงสนามมากกว่า 60 คน แต่ผลเลือกตั้งปี 2562 พรรค พปชร. ได้ ส.ส.ในภาคอีสาน14+1คน(ได้จากเลือกตั้งซ่อม 1 คน) ถือว่าพลาดเป้าไปเยอะ เฉพาะ ส.ส.เกรด A ที่ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทยสอบตกเกลี้ยง
ปัจจุบัน เหลือ ส.ส.อีสาน อยู่ในพรรค พปชร.แค่ 4 คน นอกนั้น ก็ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย, พรรคเศรษฐกิจไทย และพรรคเพื่อไทย
พรรค รทสช. ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในสมรภูมิอีสาน ท่ามกลางกระแสอุ๊งอิ๊งมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ วูบหายไปเยอะเลย
‘ปลุกพลังขวาอีสาน’
จำนวน ส.ส.เขตภาคอีสาน 132 คนในสมัยหน้า ยังเรื่องท้าทายของพรรค “ประยุทธ์” และพิสูจน์ฝีมือ “แรมโบอีสาน” จะเป็นของจริงหรือราคาคุย
วันที่ 19 ก.ค.2561 แรมโบ้อีสาน ได้ทำพิธีถอนคำสาบานต่อหน้าย่าโม เพราะก่อนหน้านี้ เขาประกาศวางมือทางการเมือง แต่อดีตนายทหารใหญ่ กองทัพภาคที่ 2 ได้ขอร้องให้แรมโบ้อีสาน หวนคืนการเมือง เพื่อภารกิจหนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ
แม้จะสอบตกในสนามโคราช พล.อ.ประยุทธ์ ก็แต่งตั้งแรมโบ้อีสาน เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นี่คือปฐมบทองครักษ์พิทักษ์ลุงตู่
กลางปี 2563 อานนท์ แสนน่าน อดีตผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงฯ ได้เข้าพบแรมโบ้อีสานที่ทำเนียบฯ จึงเกิดขบวนการรักลุงตู่ และปกป้องสถาบันฯ ซึ่งตอนหลัง ได้ใช้ชื่อกลุ่มหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย
ทีมงานไทยคู่ฟ้า คงประเมินแล้ว การเจาะ ส.ส.เขต ในอีสานนั้น ยากเย็นแสนเข็ญ แต่การได้แรมโบ้อีสาน จับคู่อานนท์ แสนน่าน อาจเหมาะแก่การทำแอร์วอร์ ปูกระแสลุงตู่ คนรักชาติ
พูดง่าย ๆ พรรค รทสช.หวังเก็บแต้มปาร์ตี้ลิสต์มากกว่า ส.ส.เขต สำหรับสมรภูมิอีสานที่สู้แล้วไม่ชนะ
คอลัมน์ ... ท่องยุทธภพ โดย ... ขุนน้ำหมึก