ล้มทุนเก่า ‘อุ๊งอิ๊ง’ อุ้มบ้านใหญ่ ‘ทุนสีแดง’ ยึดอุดรธานี
ผ่าสมรภูมิอุดรธานี 'อุ๊งอิ๊ง' มีคะแนนนิยมทิ้งขาดคู่แข่ง เปิดทาง 'ทุนสีแดง' บ้านใหญ่ ขาวขำ-เพชรพนมพร จัดทีม สส.เพื่อไทย ทั้ง 10 เขต หลังโค่นทุนเก่าสำเร็จ
อุดรโมเดล อุ๊งอิ๊ง มีคะแนนนิยมทิ้งขาดคู่แข่ง ด้านหนึ่งเปิดทาง ทุนสีแดง บ้านใหญ่ขาวขำ-เพชรพนมพร ยึดกุมการจัดทีม สส.เพื่อไทย ทั้ง 10 เขต
นิด้าโพลเมืองอุดรฯ สะท้อนกระแส อุ๊งอิ๊ง มาแรงทั้ง 20 จังหวัด คาดว่าเพื่อไทยน่าจะกวาดเก้าอี้ สส.ภาคอีสาน ได้มากกว่าปี 2554
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2566 นิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจคนอุดรฯ จะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่า อันดับ 1 อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 48.24 ,อันดับ 2 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 11.96 และอันดับ 3 พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 10.29
ส่วนพรรคการเมืองที่คนอุดรฯ จะเลือกทั้ง สส.เขต และ สส.บัญชีรายชื่อคือ พรรคเพื่อไทย เฉลี่ยร้อยละ 60
เนื่องจาก กกต.ได้จัดการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ จ.อุดรธานี มี สส.เพิ่มจาก 9 คน เป็น 10 คน ฉะนั้น ทางพรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.จากอุดรธานีเพิ่มอีก 4 คน ได้แก่ ศราวุธ เพชรพนมพร สส.อุดรธานี และลูกเขย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ,หทัยรัตน์ เพชรพนมพร รองนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี และลูกสาว พล.ต.อ.ประชา , นพ.ภาณุ พรวัฒนา เจ้าของคลินิกหมอภาณุ อ.บ้านดุง และ วัชรพล ขาวขำ ลูกชาย วิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี
รวมกับชุดเดิมที่มีอยู่แล้ว 8 คน แสดงว่าเพื่อไทย มีว่าที่ผู้สมัคร สส.อยู่ 12 คน ซึ่งคงมีการจัดวางตัวผู้สมัคร สส. 10 เขต และ สส.บัญชีรายชื่อ หลังจากยุบสภาแล้ว
ทุนสีแดงโค่นทุนเก่า
เพื่อไทยมีกระแส อุ๊งอิ๊ง เป็นจุดขาย แต่การบริหารจัดการผู้สมัคร สส. แต่ละจังหวัดย่อมมีเจ้าภาพ และที่เมืองอุดรฯ ทุนสีแดง บ้านใหญ่ขาว-เพชรพนมพร รับเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่
ศราวุธ เพชรพนมพร สส.อุดรธานี 5 สมัย เป็นนักธุรกิจในท้องถิ่นเมืองอุดรฯ เติบโตมาในยุคพ่อตา พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก มีอำนาจวาสนาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ช่วงต้นปี 2564 ศราวุธ เพชรพนมพร จับมือ วิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี สนับสนุน ดร.หรั่ง-ธนดร พุทธรักษ์ ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี
ส่วนคู่แข่งคือ อิทธิพนธ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ อดีตนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี หลายสมัย ที่มีกลุ่มทุนท้องถิ่นตระกูลเจริญศรี และศรีรุ่ง ผูกขาดการบริหารเทศบาลมายาวนาน
ผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี ปรากฏว่า ธนดร พุทธรักษ์ ชนะแชมป์เก่า อิทธิพนธ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ แบบพลิกความคาดหมาย
ชัยชนะของพรรคเพื่อไทย ที่สนามเทศบาลนครอุดรธานี ถือเป็นความสำเร็จของกลุ่มทุนสีแดง ในการโค่นกลุ่มทุนเก่า ที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองอยู่คนละขั้วสีในยุคสมัยหนึ่ง
อุดรโมเดลสีแดง
ทุนสีแดง บ้านใหญ่ขาวขำ-เพชรพนมพร ยึดกุมทั้ง อบจ.อุดรฯ และเทศบาลนครอุดรฯ จึงทำให้มีบทบาทในการจัดวางตัวผู้สมัคร สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยไปโดยปริยาย
เดิมที สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยมีอยู่ 8 คน ตอนหลังเหลืออยู่ 7 คน หลังจาก จักรพรรดิ ไชยสาส์น ลาออกไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย
คนหน้าเก่าที่เป็นตัวยืนลงสมัคร สส. ประกอบด้วย ศราวุธ เพชรพนมพร สส.อุดรธานี 5 สมัย, อนันต์ ศรีพันธุ์ สส.อุดรธานี 3 สมัย, ขจิตร ชัยนิคม สส.อุดรธานี 6 สมัย, จุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ สส.อุดรธานี , เกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม สส.อุดรธานี 3 สมัย และเทียบจุทา ขาวขำ สส.อุดรธานี 3 สมัย
ส่วน อาภรณ์ สาราคำ ภรรยา ขวัญชัย ไพรพนา สมัยหน้า จะส่งลูกชาย สจ.เบิร์ด-กรวีร์ สาราคำ ลงสมัคร สส.แทนในเขตเดิม และ ธีระชัย แสนแก้ว ลงสมัคร สส.แทนจักรพรรดิ ไชยสาส์น ที่เขต อ.กุมภวาปี
เขตที่เพิ่มใหม่อีก 2 เขต เบื้องต้น วิเชียร ขาวขำ จะส่งลูกชาย วัชระพล ขาวขำ ลงสนาม และอีกเขตหนึ่ง ศราวุธ เพชรพนมพร อาจส่ง หทัยรัตน์ เพชรพนมพร ลงชิมลางการเมืองสมัยแรก
นี่คือพลานุภาพของทุนสีแดง บ้านใหญ่ขาวขำ-เพชรพนมพร ที่ยึดกุมการนำพรรคเพื่อไทยเมืองอุดรฯ ไว้เบ็ดเสร็จ