คอลัมนิสต์

ชนช้างนครพนม ‘สหายแสง ศุภชัย’ เดิมพันกัญชา ‘เศรษฐา’ อุ้ม สส.เดือน

ชนช้างนครพนม ‘สหายแสง ศุภชัย’ เดิมพันกัญชา ‘เศรษฐา’ อุ้ม สส.เดือน

01 พ.ค. 2566

สมรภูมินครพนมเดือด สหายแสง ศุภชัย เผชิญหน้า เศรษฐา แม่ทัพเพื่อไทย บุกตีเมืองหลวงกัญชา อุ้ม สส.เดือน ขวัญใจเสื้อแดง โค่นบ้านใหญ่ศรีสงคราม

นครพนมเดือด สหายแสง ศุภชัย เผชิญหน้า เศรษฐา แม่ทัพเพื่อไทย บุกตีเมืองหลวงกัญชา อุ้ม สส.เดือน รักษาแชมป์สมัยที่ 3

 

เดิมพันอนาคต สหายแสง ศุภชัย ท้าพิสูจน์กระแสแลนด์สไลด์ ฟาก สส.เดือน ชูธงต้านกัญชาเสรี เชื่อมั่นพลังคนเสื้อแดง

วันที่ 1 พ.ค.2566 ทัพหลวงพรรคเพื่อไทย นำโดย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นำคณะเปิดการปราศรัยใหญ่ 3 เวทีคือ อ.นาแก , อ.ธาตุพนม และ อ.เมืองนครพนม

 

สาเหตุที่พรรคเพื่อไทย ต้องยกทัพหลวงมาบุกนครพนม เพราะสหายแสง หรือศุภชัย โพธิ์สุ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ปูทางสร้างฐานด้วยแนวคิดท้องถิ่นนิยมแบบบุรีรัมย์ โกยคะแนนนิยมส่วนบุคคล ทำให้ชาวบ้านรวนเร มีกระแสแบ่งใจเลือกคือ ใบหนึ่งเลือกเพื่อไทย และอีกใบหนึ่งเลือกผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย 

สำหรับนครพนม 4 เขตเลือกตั้ง คู่ชิงดำในทุกเขต ก็เป็นการต่อสู้ของพรรคสีแดงกับพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเขตที่เรียกว่า ช้างชนช้าง คือเขต 2 อ.เมืองนครพนม

 

ฉะนั้น เวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทย จึงจัดขึ้นที่โรงเรียนนครพนมวิทยาคม เทศบาลเมืองนครพนม เพื่อสนับสนุน มนพร เจริญศรี อดีต สส.นครพนม สู้กับสหายแสง ศุภชัย โพธิ์สุ แม่ทัพค่ายสีน้ำเงิน

 

ทีมงานพรรคเพื่อไทยมองว่า การยกทัพใหญ่เยือนนครพนม ก็เหมือนการบุกเมืองหลวงกัญชา เพราะที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับการปลูกกัญชาเพื่อเศรษฐกิจ และวางยุทธศาสตร์พัฒนานครพนมให้เป็นมหานครกัญชา 

 

มหานครกัญชา

 

นับแต่ปลดล็อกกัญชา สหายแสง ศุภชัย ได้ลุยแจกต้นกล้ากัญชา ครอบครัวละ 2 ต้น ภายใต้โครงการปลูกกัญชาเพื่อใช้ในครัวเรือน 1 ล้านต้น และขับเคลื่อนนครพนมให้เป็นมหานครแห่งกัญชา ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

 

ปลายปี 2563 สหายแสง ประสบความสำเร็จในการปั้นลูกสาว ศุภพานี โพธิ์สุ เป็นนายก อบจ.นครพนม ทำให้มีความมั่นใจในศักยภาพของทีมงาน จึงเปิดเกมรุกข้ามเขตจากเขต 1 มาเขต 2 วัดฝีมือกับ สส.เดือน ขวัญใจคนรากหญ้า พรรคเพื่อไทย

 

สหายแสง มีความมั่นใจในผลงานตัวเองตลอด 4 ปี และพยายามปลุกกระแสท้องถิ่นนิยม หรือจังหวัดนิยม เหมือนคนบุรีรัมย์ภูมิใจในตัวเนวิน 

 

หลังปราชัยในปี 2554 ศุภชัย โพธิ์สุ ก็เดินเข้าหาชาวบ้านทุกหลังคาเรือนในเขต 1 อ.ศรีสงคราม ส่งผลให้ปี 2562 สหายแสง โกยแต้มไป 48,719 คะแนน ชนะคู่ปรับเก่า ยุทธจักร เรืองบริบูรณ์ พรรค พท.ที่ได้ 21,049 คะแนน  


     
ด้วยเหตุนี้ สหายแสงจึงให้ พูนสุข โพธิ์สุ ภรรยา ลงสนามเขต 1 แทนตัวเอง เพราะมั่นใจในฐานเสียงที่ตอกเสาเข็มไว้แน่นหนา

 

ขวัญใจเสื้อแดง

 

สส.เดือน มนพร เจริญศรี มากับกระแสคนเสื้อแดง ตั้งแต่ปี 2554 สมัยที่แล้ว กวาดได้ 42,990 คะแนน ทิ้งห่าง ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ พรรคพลังประชารัฐ เกือบ 2 หมื่นคะแนน

 

เส้นทางการเมืองของ สส.เดือนนั้น ได้รับการสนับสนุนจากพ่อบุญธรรม นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และ สส.นครพนม 10 สมัย และปี 2547 มนพร ได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.นครพนม โดยการสนับสนุนของ สส.นครพนม พรรคไทยรักไทย

 

คนกันเอง สส.เดือน มนพร เจริญศรี และศุภชัย โพธิ์สุ

เวลานั้น ศุภชัย โพธิ์สุ ก็เป็น สส.นครพนม สังกัดพรรคไทยรักไทย ทั้งสหายแสง และ สส.เดือน จึงรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี

ปี 2552 สหายแสง เลือกทิ้งพรรคของนายใหญ่ ไปเป็นขุนพลเอกของ เนวิน ชิดชอบ ส่วนมนพรกระโจนเข้ามารับบทแกนนำเสื้อแดงนครพนม 

 

ปี 2554 มนพรสวมเสื้อพรรคเพื่อไทย ลงสมัคร สส.สมัยแรก ได้รับเลือกเป็น สส.นครพนม เขต 2 ด้วยกระแสนารีขี่ม้าขาว ขณะที่สหายแสง ศุภชัย สอบตกที่เขต 1 ในสีเสื้อพรรคภูมิใจไทย

 

สหายแสง ศุภชัย มีบทเรียนเจ็บปวดจากยุคแดงทั้งแผ่นดิน เหตุใดจึงกล้าชนกระแสอุ๊งอิ๊ง หรือกระแสเพื่อไทยแลนด์สไลด์ 

 

เวลานี้ สหายแสงก็แอบคิดเหมือนนักการเมืองบ้านใหญ่ขั้วรัฐบาลเดิมโดยส่วนใหญ่ ที่เชื่อว่า เมื่อก้าวไกลตัดแต้มเพื่อไทย โอกาสก็เป็นของตาอยู่ ที่มีฐานเสียงมั่นคง