คอลัมนิสต์

แกะรอย ‘จเด็จ อินสว่าง’ สิงห์แดงปีกขวาจัด ทายาท ‘บ้านใหญ่’ เมืองสุพรรณ

แกะรอย ‘จเด็จ อินสว่าง’ สิงห์แดงปีกขวาจัด ทายาท ‘บ้านใหญ่’ เมืองสุพรรณ

01 มิ.ย. 2566

ปอกเปลือกชีวิต 'จเด็จ อินสว่าง' สว.ปีกขวาจัด ปูมหลังคือ สิงห์แดงรุ่น 17 ผู้มากคอนเนกชั่นการเมือง ทายาทกำนันวิภาส บ้านใหญ่แห่งบ้านกร่าง เมือง'สุพรรณบุรี'

สายขวาผ่านตลอด จเด็จ อินสว่าง สว.ผู้กล้าท้าทัวร์สิบทิศ ขวาง พิธา เป็นนายกฯ พร้อมเสนอสูตรรัฐบาลแห่งชาติ ปูมหลังคือ สิงห์แดง 17 ผู้มากคอนเนกชั่นการเมือง

 

บ้านใหญ่แห่งบ้านกร่าง สุพรรณบุรี กำนันวิภาส บิดาของ จเด็จ เป็นอดีต สส.สุพรรณฯ รุ่นเดียวกับเลิศ ชินวัตร ,ชัย ชิดชอบ และอนันต์ ฉายแสง 

ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครร้อนแรงเท่ากับ จเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา จากสุพรรณบุรี ผู้ประกาศตัวเป็นคนแรกๆ ที่จะไม่โหวตให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีจุดยืนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 

 

ถัดมา สว.จเด็จ ผู้ไม่หวั่นทัวร์สิบทิศ ได้เสนอแนวทางฝ่าวิกฤตด้วยสูตรรัฐบาลแห่งชาติ หากพิธา ได้เสียงสนับสนุนไม่ถึง 376 เสียงหรือพ้นจากตำแหน่งเพราะปมหุ้นสื่อ

จเด็จ อินสว่าง ข้าราชการบำนาญ เป็นใครมาจากไหน จึงมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก กล้าทวนกระแสรัฐบาลแห่งความฝัน ของคน 14 ล้านเสียง

 

19 ปีที่แล้ว จเด็จ อินสว่าง ข้ามห้วยจากมหาดไทย มานั่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา ตกเป็นข่าวใหญ่เรื่องคอนเนกชั่นการเมือง กระทั่ง มีข่าวลือว่า หลังเกษียณอาจจะเป็นเลขาธิการพรรคมหาชน เนื่องจาก จเด็จ มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ผู้ก่อตั้งพรรคมหาชน 

 

ว่ากันว่า สมัยโน้น จเด็จ อินสว่าง ถือว่าเป็นเด็กสร้าง ของผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทย ด้วยบุคลิกส่วนตัว เขาเป็นคนกว้างขวาง รอบตัว รู้จักผู้คนในหลากหลายวงการ ทั้งข้าราชการพลเรือน, ข้าราชทหาร, นักการเมืองท้องถิ่น และนักการเมืองระดับชาติ

 

สิงห์แดงรุ่น 17

 

จเด็จ อินสว่าง เป็นศิษย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือสิงห์แดง รุ่น 17 เข้ารับราชการที่กรมการปกครอง ครั้งแรกนั่งเป็นสต๊าฟหน้าห้องของ เชาว์วัศ สุดลาภา สมัยที่เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย(จอมพลประภาส จารุเสถียร)

 

เส้นทางราชการสายมหาดไทย จเด็จขึ้นเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร แล้วเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ในจังหวัดสำคัญ น่าน, ภูเก็ต, กาญจนบุรี ก่อนจะขึ้นชั้นมาเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน แล้วกลับไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

 

จากเมืองชล จเด็จเป็นอธิบดีกรมที่ดิน อยู่เพียง 7 วัน ก็ขยับขึ้นเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา ยุคที่ สนธยา คุณปลื้ม เป็นรัฐมนตรีท่องเที่ยวและการกีฬา


ช่วงที่จเด็จ มีตำแหน่งใหญ่โตในมหาดไทยนั้น เป็นช่วงที่บรรหาร ศิลปอาชา และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทย 

 

เมื่อเกษียณอายุราชการในตำแหน่งปลัดกระทรวงท่องเที่ยวฯ จเด็จก็ไม่ได้ไปเล่นการเมืองกับพรรคไหน กระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็น สว.เมื่อปี 2562 มีตำแหน่งเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ กมธ. การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา

 

บ้านใหญ่แห่งบ้านกร่าง

 

กล่าวสำหรับต้นตระกูลอินสว่างของจเด็จนั้น ถือว่าตระกูลใหญ่ ที่นายใช้ แซ่โง้ว อพยพจากซัวเถา มาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านกล้วย ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี 

 

เอก ประทุมรัตน์ เขียนเรื่อง กำนันวิภาส อินสว่าง ไว้ในแฟนเพจเล่าเรื่องเมืองสุพรรณ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งกำนันวิภาสนั้น เป็นกำนันตำบลบ้านกร่าง ที่ชาวสุพรรณเคารพนับถือและเป็นผู้สร้างสร้างตำนานบ้านกร่างเมืองสุพรรณ

 

ยุทธวิธีเอาชนะใจประชาชนของกำนันวิภาส คือการสร้างโรงเรียน เช่นโรงเรียนวัดบ้านกล้วย สร้างเป็นอาคารเรียนไม้ยาวที่สุดในประเทศไทย ร่วมสร้างโรงเรียนวัดโพธิ์ศรีเจริญ และอีกหลายโรงในเวลาต่อมา

 

ปี 2512 กำนันวิภาส อินสว่าง ลงสมัคร สส.สุพรรณบุรี ไม่สังกัดพรรคการเมือง และได้รับเลือกเป็น สส. ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น เมื่อเข้าสภาฯ กำนันวิภาส อยู่ในกลุ่ม สส.อิสระ ที่มี เลิศ ชินวัตร (บิดาทักษิณ) ,ชัย ชิดชอบ ,อนันต์ ฉายแสง ,โกศล ไกรฤกษ์ ,สมพล เกยุราพันธุ์ ฯลฯ เป็นสมาชิก 

 

นอกจากนี้ กำนันวิภาส มีพี่สาวชื่อ เง็กกุ่ย เที่ยงธรรม ซึ่งเป็นมารดาของ จองชัย เที่ยงธรรม อดีต สส.สุพรรณบุรี หลายสมัย และทุกวันนี้ จองชัย ยังอยู่ที่บ้านกล้วย ต.บ้านกร่าง ในฐานะบ้านใหญ่ศรีประจันต์

จองชัย เที่ยงธรรม เป็นเครือญาติกับจเด็จ อินสว่าง

สำหรับทายาทกำนันวิภาส ก็คือ จเด็จ อินสว่าง สว.คนดัง ,ชูชาติ อินสว่าง ปราชญ์สหกรณ์ระดับประเทศ และสมนึก อินสว่าง ราษฎรอาวุโสเมืองสุพรรณ