บ้านป่าคำราม ‘ประวิตร’ กุมสภาสูง ‘ทักษิณ’ สลายขั้ว 2 ป.
พี่ใหญ่ผงาด ‘ประวิตร’ กำชัยช่วงสุญญากาศทางการเมือง กดดัน ‘ทักษิณ’ เปิดดีลข้ามขั้วใหม่ สกัดแผนสลายขั้ว ‘2 ป.’
เกมพลิกผัน ประวิตร กำชัยช่วงสุญญากาศทางการเมือง กดดัน ทักษิณ เปิดดีลข้ามขั้วใหม่ สกัดแผนสลายขั้ว 2 ป.
เหมือนโดนหักหลัง ประวิตร ส่งซิก สว.รวมพลต้านแผนคนแดนไกล จัดตั้งรัฐบาลซ่อนกลซ่อนเงื่อน แอบแตะมือค่ายส้ม
เลื่อนโหวตนายกฯ อาจตามมาด้วยการเลื่อนกลับบ้านของ ทักษิณ ชินวัตร และที่สำคัญ ช่วงวันที่ 4-16 ส.ค.2566 ไม่ต่างอะไรกับสุญญากาศทางการเมือง
นักวิเคราะห์การเมืองหลายสำนักประเมินว่า ช่วงเวลาดังกล่าวเหมือนเป็นชัยชนะชั่วคราวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
อีกด้านหนึ่งเป็นความผิดพลาดของทักษิณ ที่เดินเกมเร็วไป 1 วันคือ ปิดฉากดีลรักกับพรรคก้าวไกล ก่อนที่จะศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งเลื่อนพิจารณาว่าจะรับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ ออกไปก่อน โดยให้ไปลุ้นวันที่ 16 ส.ค.2566
เพื่อไทยเปิดเกมเร็ว หักก้าวไกล และเดินหน้าโหวตนายกฯ ม้วนเดียวจบ ด้วยมั่นใจในเสียง สส.จากพรรคพันธมิตรใหม่ 264 เสียง ที่ไม่มีลุง และเสียง สว.อีกนับร้อยเสียง แต่นึกไม่ถึงว่าจะเจอโรคเลื่อน
หากสรุปภาพรวมของเหตุการณ์โรคเลื่อน 3 ส.ค.นี้ สะท้อนว่า พล.อ.ประวิตร แห่งบ้านป่ารอยต่อ ยังมีเบ่งบารมีเหนือบ้านจันทร์ส่องหล้า
โรคเลื่อนแผนล่ม
เดิมที ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะแถลงข่าวความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล ช่วงบ่ายแก่ๆ วันที่ 3 ส.ค.นี้ และมีนัดหมายเจรจากับพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับพรรคชาติไทยพัฒนา
อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ยอมรับว่า มีนัดหมายกับแกนนำเพื่อไทย แต่เจอเลื่อนโหวตนายกฯ จึงต้องยกเลิกนัดหมาย
ท่าทีของเสี่ยหนู มีความชัดเจนไม่ได้แพ็คกับขั้ว 188 แบบไปไหนไปด้วยกัน แต่ละพรรคมีความเป็นอิสระในการทำงานการเมือง
“การแพ็กกับขั้วเดิมตอนนี้มันเป็นเสียงข้างน้อย ซึ่งภูมิใจไทยบอกแล้วว่าเราไม่จัดรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะอยากให้รัฐบาลมีความมั่นคง”
ทักษิณ มั่นใจในเสียง สส.จากภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา บวกกับพรรคจากขั้ว 312 บางพรรค เป็นต้นทุนสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลสูตรไม่มีลุง ไม่มีก้าวไกล
สิ่งที่คนแดนไกลคาดไม่ถึง เกมนี้จะปลุกให้พยัคฆ์บูรพาออกมาคำรามลั่น เพราะถูกหักหลัง
ไม่มีลุงจบข่าว
หลังเพื่อไทยแตกหักก้าวไกล กลับมีปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ สืบเนื่องจากสูตรไม่มีลุง ที่ส่งสัญญาณมาจากฮ่องกง ตั้งแต่ก่อนวันเกิด 26 ก.ค.นี้
มีข้อถกเถียงในกลุ่มแกนนำพลังประชารัฐ เรื่องการที่จะไปจับมือ เพื่อไทย จะไปสภาพใด ระหว่างไป 25 คนหรือไปทั้งพรรค ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องสั่งลูกพรรคให้อยู่นิ่งๆ ไว้
จากนั้น พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ก็ต่อสายหา สว.หลายกลุ่ม รวมถึงเจรจากับพรรคขั้ว 188 บางพรรค แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่หนุนเศรษฐา ทวีสิน
แม้แกนนำเพื่อไทย จะอ้างว่ามีเสียง สว. 100 กว่าเสียง จะมาโหวตให้เศรษฐา แต่หลังจากพี่ใหญ่ 3 ป.ลงทุนเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ก็เกิดความปั่นป่วนใน สว.ที่ได้รับการติดต่อจาก 2 ส.ค่ายสีแดง
ในภาวะสุญญากาศทางการเมืองเช่นนี้ จึงมีการวิเคราะห์สถาน การณ์ของบ้านป่ารอยต่อ ที่เริ่มเป็นต่อบ้านจันทร์ส่องหล้า
1.เปิดช่องเจรจาใหม่ และโอกาสของพลังประชารัฐ จะเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไทย มีมากขึ้น
2.เพื่อไทย ไม่มีทางเลือก หลังตัดขาดก้าวไกล อำนาจต่อรองของบ้านป่ารอยต่อสูงขึ้น
3.พล.อ.ประวิตร มีโอกาสลุ้นนายกฯ หากแผนจัดตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยถึงทางตัน เพราะยึดสูตรไม่มีลุง ไม่มีก้าวไกล
4.โรคเลื่อนทางการเมือง สะท้อน พล.อ.ประวิตรยังมีบารมีในกลุ่ม สว.สูงมาก และเป็นจุดศูนย์กลางของฝั่งอนุรักษนิยม
ดังนั้น นักวิเคราะห์การเมืองจึงประเมินว่า นี่เป็นชัยชนะชั่วคราวของลุงป้อม ก็ต้องรอดูว่า ทักษิณจะแก้เกมนี้อย่างไร และจะได้กลับบ้านหรือไม่