คอลัมนิสต์

ละครชีวิต ‘ชลน่าน’ เด็กวัดรัฐมนตรี ตำนาน ‘สส.นกแล’ ไทยรักไทย

ละครชีวิต ‘ชลน่าน’ เด็กวัดรัฐมนตรี ตำนาน ‘สส.นกแล’ ไทยรักไทย

05 ก.ย. 2566

ฉากชีวิต ชลน่าน จากเด็กวัดถึงหมอบ้านนอก วาสนาชะตาคน หนึ่งในตำนาน สส.นกแล ยุคไทยรักไทย ก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข

ทางชีวิตลูกชาวไร่ ชลน่าน จากเด็กวัดถึงหมอบ้านนอก หนึ่งในตำนาน สส.นกแล ยุคไทยรักไทย สู่รัฐมนตรีสาธารณสุข   


สส.นกแล คือดอกผลการเมืองแบบคิดใหม่ ทำใหม่ โดยทักษิณ ชินวัตร ใต้ร่มธงไทยรักไทย เมื่อ 22 ปีที่แล้ว  


กว่าจะถึงวันนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ ผ่านการทำงานที่โรงพยาบาลในชนบท 14 ปี ก่อนจะตัดสินใจก้าวสู่ถนนการเมือง ตั้งแต่ปี 2544
 

ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่มี เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เฉพาะพรรคเพื่อไทย มีรัฐมนตรี 2 คนคือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข และ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่มีต้นทุนการเมืองจากการเป็น สส.นกแล พรรคไทยรักไทย


ทั้งหมอชลน่าน และสุทิน ไม่ได้เป็นลูกหลานนักการเมือง ไม่ใช่นักการท้องถิ่นสังกัดบ้านใหญ่ เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว พวกเขาเป็นคนรุ่นใหม่ มีศรัทธาในอุดมการณ์ประชาธิปไตย 

 

รูปหล่อแต่ยากจน
“ไหล่” หรือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เกิดในครอบครัวชาวไร่ชาวสวนที่บ้านนาสา อ.เวียงสา จ.น่าน หลังจากแม่เสียชีวิต ตอนที่ไหล่หรือชลน่าน อายุได้ 4 ปี


เจ้าอาวาสวัดไหล่น่าน นำ ด.ช.ไหล่ ไปอยู่ที่วัดและและเรียนที่โรงเรียนบ้านบุญเรือง จนเรียนมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเวียงสา 

ไหล่หรือชลน่าน เป็นเด็กรูปหล่อ เรียนดีแต่ยากจน เมื่อเรียนจบ ม.ศ.5 ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยสอบติดคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

 

นพ.ชลน่าน ในวัยหนุ่ม รูปหล่อแต่ครอบครัวมีฐานะยากจน


หนุ่มเมืองน่านเข้าเมืองหลวง มาอาศัยเป็นเด็กวัดอยู่ที่วัดน้อยนพคุณ เขตดุสิต ระหว่างเป็น นศพ. (นักศึกษาแพทย์) หารายได้เป็นติวเตอร์วิชากายวิภาคศาสตร์ (Anatomy) ให้กับเพื่อนๆ นศพ. มีเงินทองส่งเสียตัวเองจนเรียนจบแพทย์ศาสตร์


หลังจบการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นพ.ชลน่าน ใช้เวลา 14 ปี กับการเป็นแพทย์ในจังหวัดน่าน


ปี 2530-2531 แพทย์ประจำ รพ.นาหมื่น อ.นาหมื่น จ.น่าน


ปี 2531-2533 ผู้อำนวยการ รพ.นาหมื่น อ.นาหมื่น จ.น่าน 


ปี 2533-2538 ผู้อำนวยการ รพ.นาน้อย อ.นาน้อย จ.น่าน 


ปี 2538-2543 ผู้อำนวยการ รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว อ.ปัว จ.น่าน 


อ.นาหมื่น อ.นาน้อย และ อ.ปัว เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว เป็นพื้นที่ห่างไกลความเจริญ และอยู่ในเขตอิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.)

 

 

สมัย นพ.ชลน่าน เป็น ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว อ.ปัว จ.น่าน

 

 

นกแลในตำนาน
หมอบ้านนอกอย่างชลน่าน มีความฝันอยากเป็นศัลยแพทย์ จึงไปสมัครขอทุนเรียนแพทย์เฉพาะทางจากโรงพยาบาลน่าน แต่ทุนนั้นกลับกลายเป็นของแพทย์ที่ไม่ได้อยู่ใน จ.น่าน


นั่นคือ จุดเปลี่ยนของชลน่าน ที่มองว่า การเป็นหมอตัวเล็กๆ อยู่ในชนบท มีข้อจำกัดในการช่วยเหลือคนอื่น จึงอยากทำงานการเมือง


ช่วงปี 2542-2543 คำรณ ณ ลำพูน สส.น่าน พรรค ปชป. เป็น รมช.สาธารณสุข รัฐบาลชวน 2 จึงมีแกนนำ ปชป.สายเหนือมาชักชวนให้หมอชลน่าน ลงสมัคร สส.ในสีเสื้อ ปชป. แต่หมอชลน่านปฏิเสธ 


กระทั่งมีแกนนำพรรคไทยรักไทย ลงพื้นที่เมืองน่าน พร้อมด้วยนโยบายประชานิยม หมอชลน่าน จึงตัดสินใจสมัคร สส.น่าน ในนามพรรคไทยรักไทย


ปี 2544 นพ.ชลน่าน ลงสมัคร สส.น่าน เขต 2 (อ.บ้านหลวง, อ.เวียงสา, อ.นาน้อย, อ.นาหมื่น, อ.แม่จริม และอ.สันติสุข) ได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น และเป็น สส.น่าน ติดต่อกันมา 6 สมัย


อันเนื่องมาจากชัยชนะเหนือความคาดหมายของพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 6 ม.ค. 2544 กวาด สส.มาได้ 248 คน (แยกเป็น สส.เขต 200 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ  48 คน)


ในจำนวน 248 คนพบว่า เป็น สส.เก่า จากการเลือกตั้งปี 2539 เพียง 93 คน ที่เหลืออีก 155 คน บางคนเป็นอดีต สส.รุ่นเก่า แต่ส่วนใหญ่คือ สส.นกแล หรือ สส.ใหม่ ที่ไม่ได้เป็นเครือญาติอดีต สส. หรือเด็กบ้านใหญ่


สส.นกแล พรรคไทยรักไทย ปี 2544 ที่ยังได้รับเลือกเป็น สส.พรรคเพื่อไทย ในปัจจุบัน มีอยู่หลายคน อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และ สุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ, พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย, เอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย ฯลฯ


สำหรับ สส.นกแลในตำนาน ที่บินมาไกลเกินฝันคือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และ สุทิน คลังแสง กำลังรอการพิสูจน์ฝีมือในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใหญ่ จะสอบผ่านหรือสอบตก ประชาชนจะเป็นผู้ให้คะแนน