ซูเปอร์ดีล ‘เศรษฐา’ รอมชอมอำนาจแฝง ‘ประยุทธ์’ เขตทหารห้ามเข้า
ครบรอบ 17 ปี 19 กันยาที่เงียบงัน 'เศรษฐา' รอมชอมอำนาจแฝง ประยุทธ์ ขุนศึก ตท.19-20 ประกบ รมว.สุทิน แค่นอมินีทหาร.
เขตทหารห้ามเข้า เศรษฐา รอมชอมอำนาจแฝง ประยุทธ์ ขุนศึก ตท.รุ่น 19-20 ประกบ รมว.สุทิน เหมือนส่วนต่อขยายระบอบจันทร์โอชา
เก็บตกครบรอบ 17 ปี รัฐประหาร 2549 ในความเงียบงันของเพื่อไทย เขตทหาร ยังเป็นพื้นที่พิเศษ ตระกูลชินวัตร ห้ามเข้า
ด้อมส้มแห่ตั้งข้อสังเกต ครบรอบ 17 ปี การยึดอำนาจล้มรัฐบาลทักษิณ 19 ก.ย. 2549 ปรากฏว่า คนในตระกูลชินวัตร และแกนนำพรรคเพื่อไทย กลับไม่มีใครพูดถึงรัฐประหาร ราวกับว่า ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศไทย
ขณะที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เดินทางไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ ก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการสืบทอดอำนาจของคณะทหาร ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน
ถ้าจำกันได้ ในวันแถลงนโยบายรัฐบาลเศรษฐาต่อที่ประชุมรัฐสภา แกนนำพรรคก้าวไกล ได้ชำแหละ ครม.เศรษฐาว่า เป็นส่วนต่อขยายของระบอบประยุทธ์ เชื่อว่า การปฏิรูปกองทัพจะไม่เกิดขึ้น เพราะมีแต่นโยบายเขตทหารห้ามเข้า
ในความเป็นจริง นายกฯเศรษฐา รับดูงานความมั่นคงทั้งหมดได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
เฉพาะกระทรวงกลาโหม นายกฯเศรษฐา มอบให้ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมเงา ทำหน้าที่ประสานกับทหาร-รัฐบาล
ดังนั้น นายกฯเศรษฐา จึงแถลงที่รัฐสภาว่า ไม่ขอใช้คำว่า ปฏิรูปกองทัพ แต่ขอใช้คำว่าพัฒนาร่วมกัน
ล่าสุด สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม แจ้งให้นักข่าวทราบว่า ขอลดการให้สัมภาษณ์ลงบ้าง เพราะพูดไปเยอะแล้ว มีคนบอกว่าเหมือนเป็นโฆษกกระทรวง
ว่ากันว่า มีใครบางคนส่งซิกมายังแกนนำเพื่อไทย ขอให้สุทิน คลังแสง ลดการเดินสายให้สัมภาษณ์สื่อ เพราะเกรงพูดเยอะไป แล้วไปกระทบคนในกองทัพ
ระบอบประยุทธ์ภาค 2
หากพิจารณาจากคำอภิปรายในสภาฯของฝ่ายค้าน ที่ระบุว่า รัฐบาลเศรษฐา เป็นส่วนต่อขยายของระบอบประยุทธ์ ก็อาจมีมูลความจริงบางส่วน
เมื่อปรากฏชื่อ บิ๊กเล็ก-พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เตรียมทหารรุ่น20 อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งเป็น พล.อ.ณัฐพล เป็นมือทำงานคนสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
บิ๊กอั๋น-พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เตรียมทหารรุ่น 19 อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีกลาโหม
พล.อ.สมศักดิ์ เคยทำงานให้กับ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล อดีตรัฐมนตรีช่วยกลาโหมมาก่อน และเป็นน้องรักของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม จะเป็น บิ๊กตุ่น-พล.อ.อ.สุรพล พุทธมนต์ เตรียมทหารรุ่น 20 อดีตรอง ผบ.ทอ. เพื่อนรักของพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์
เดิมที มีชื่อของบิ๊กแป๊ะ-พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกลาโหม จะมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม แต่มีการปรับเปลี่ยนให้ พล.อ.นิพัทธ์ ขยับไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้านความมั่นคง
ชินวัตรห้ามเข้า
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2566 เศรษฐา ทวีสิน ได้นำ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม และ ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ไปร่วมรับประทานอาหารกับ ผบ.เหล่าทัพ ชุดใหม่ ได้แก่ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด, พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทร. และ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.
มีรายงานว่า หลังการพูดคุยมีนายทหารระดับแกนนำของเตรียมทหารรุ่น 20 ได้ให้ พล.อ.ทรงวิทย์ เป็นคนกลางประสานงานกับขั้วอำนาจใหม่ ขอให้มีอดีตนายทหาร ตท.20 ไปนั่งทำงานเคียงข้าง สุทิน คลังแสง
เนื่องจากซูเปอร์ดีลอันทรงพลัง เขตทหารยังคงเป็นพื้นที่ต้องห้ามของตระกูลชินวัตร อย่างกรณีโผเถื่อนกรณีพายัพ และลูกชาย ที่จะมีตำแหน่งใหญ่ในกลาโหม ซึ่งสุทิน ต้องชิงดับไฟเสียแต่ต้นลม
สมุหกลาโหมคลังแสง อาจต้องเขียนข้อแนะนำของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ควบ รมว.กลาโหมที่บอกว่า หากเราไม่ไปกร่าง ก็ไม่มีปัญหา ทหารมีวินัย ไว้ที่โต๊ะในห้องทำงาน เพื่อรับประกันความมั่นคงในเก้าอี้ รมว.กลาโหม