คอลัมนิสต์

เรื่องเพศเป็นพิษ ‘ปิยบุตร’ วิพากษ์คณะนำ ‘เพื่อนเอก’ อย่าลูบหน้าปะจมูก

เรื่องเพศเป็นพิษ ‘ปิยบุตร’ วิพากษ์คณะนำ ‘เพื่อนเอก’ อย่าลูบหน้าปะจมูก

17 ต.ค. 2566

ส้มไม่หวาน ปิยบุตร วิพากษ์ปัญหาการคุกคามทางเพศในก้าวไกล แนะคณะนำสายเพื่อนเอก ไม่ดูเบาเรื่องเพศ อย่าลูบหน้าปะจมูก

พิษเรื่องเพศ ปิยบุตร เทศนาคณะนำสายเพื่อนเอก อย่าแก้ปัญหาแบบลูบหน้าปะจมูก อย่าห่วงภาพลักษณ์พรรค มากกว่าความถูกต้อง


เรื่องลับในพรรคก้าวไกล ถูกเปิดเปลือย ผ่านกรณีการคุกคามทางเพศของสมาชิกพรรค แถมอดีตครูใหญ่ลงมือชำแหละ


สะเทือนทั้งวงการเมือง เมื่อ ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล และทนายแจม-ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ กรรมการวินัยของพรรค แถลงข่าวกรณีปัญหาการคุกคามทางเพศของสมาชิกพรรคก้าวไกล 

โฆษกพรรคก้าวไกลบอกว่า นี่คือการสร้างบรรทัดฐานใหม่ ไม่หลบหนีปัญหา และไม่สร้างวัฒนธรรมการปกปิดการกระทำผิดของคนในองค์กร 


ตรงข้ามกับ ปิยบุตร แสงกนกกุล กลับโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่องความรุนแรงทางเพศคือ ปัญหาของทุกคน โดยร่ายยาวปัญหาการคุกคามทางเพศภายในพรรคก้าวไกล และเสนอทางแก้ให้พรรคอีกด้วย

 

 

ทนายแจม-ศศินันท์ กรรมการวินัยพรรคก้าวไกล เห็นด้วยกับข้อเสนอของปิยบุตร

 


ดูเหมือนอาจารย์ป๊อก ปิยบุตร จะพุ่งเป้าไปที่คณะนำของพรรคก้าวไกลชุดปัจจุบัน ที่มี ชัยธวัช ตุลาธน เป็นหัวหน้าพรรค และอภิชาติ ศิริสุนทร เป็นเลขาธิการพรรค 


เป็นที่รู้กันว่า กรรมการบริหารพรรคชุดนี้ เรียกกันว่า กลุ่มเพื่อนเอก หรือธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 


อาจารย์ป๊อกมองว่า กรณีการแถลงข่าวของไอติม และทนายแจมเป็นการรับเผือกร้อนแทนพรรค “คณะนำพรรคไม่กล้าเผชิญปัญหาเหล่านี้อย่างซึ่งหน้าและตรงไปตรงมา” 


ขณะที่ด้อมส้มจำนวนไม่น้อย กลับรู้สึกว่า ปิยบุตรไม่ใช่ครูใหญ่คนเก่า ใช้อคติมาวิจารณ์พรรคก้าวไกล และบางกลุ่มเลยเถิดถึงขั้นมองว่า อาจารย์ป๊อกเปลี่ยนจุดยืน

ลูบหน้าปะจมูก
นับแต่ ปิยบุตร แสงกนกกุล ประกาศวางมือทางการเมือง และถอยออกมาเป็นผู้สังเกตการณ์ ก็ได้ลงมือเขียนบทวิจารณ์พรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง


ประเด็นเรื่องข้อร้องเรียนปัญหาความรุนแรงทางเพศที่กระทำโดยผู้สมัคร สส. และ สส.พรรคก้าวไกล หลายกรณีที่เป็นข่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจารย์ป๊อกชี้ว่า คณะนำพยายามหนีปัญหา เลี่ยงตอบคำถามนักข่าว และไม่ได้สนใจแก้ปัญหายุติความรุนแรงทางเพศภายในองค์กร


“คณะนำต้องอย่าคิดแต่เรื่องภาพลักษณ์พรรค อย่าคิดแต่ว่า ปัญหาเหล่านี้เหมือนยุงรำคาญ ที่บินมาไต่ตอมพรรค”  


อีกประเด็นหนึ่งที่อาจารย์ป๊อก มองเห็นคือ การฝึกอบรมและสร้างความตระหนักรู้เรื่องความเท่าเทียมทางเพศให้กับบุคลากรทุกคนในพรรคก้าวไกล


“เท่าที่ผมทราบ พรรคก็มีความพยายามจัดอบรมในเรื่องเหล่านี้ แต่ให้เวลาน้อยไปหน่อย ในการประชุมหลายๆ ครั้ง เวทีอบรมเรื่องนี้มักเป็นของแถม ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง และบรรดาคนในพรรค และ ส.ส. ก็มักไม่ค่อยให้ความสนใจ บรรยายไปแต่ละครั้ง กลับกลายเป็นเรื่องตลกโปกฮา แซวกันไปมาว่าใครมีพฤติกรรมอย่างไรเสียมากกว่า”


อาจารย์ป๊อกยังเรียกร้องให้คนของพรรคก้าวไกล ทั้งชายและหญิงช่วยกันรื้อถอนวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ในสังคม และสร้างความเท่าเทียมทางเพศ ความเคารพต่อผู้อื่นให้เกิดขึ้นจริง    

 

 

ลัทธิพรรคพวก
ถ้าจำกันได้ ในช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ปิยบุตร แสงกนกกุล ได้เปิดการวิจารณ์พรรคก้าวไกล มารอบหนึ่งแล้ว 


ที่ขาดไม่ได้ อาจารย์ป๊อกยังพูดถึงคณะนำ และการมีส่วนร่วมของคนทั้งพรรค โดยยกตัวอย่างว่า สมัยพรรคเพิ่งตั้งใหม่ คณะนำของพรรคอาจยังไม่ไว้เนื้อเชื่อใจคนในพรรคอย่างถ้วนหน้า 


“การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ อาจมาจากวงปิดของคณะนำไม่กี่คน ในขณะที่ สส.คนอื่นๆ อาจคิดว่าต้องยอมสภาพเช่นนี้ไปก่อนในระยะแรก”


คำว่า วงปิด นี่แหละ สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดลัทธิพรรคพวก ซึ่งหลายกรณีที่อาจารย์ป๊อก ออกมาวิจารณ์ผ่านโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้ คาดว่า น่าจะมีประเด็นเรื่องวงปิดด้วย


ปัญหาความรุนแรงทางเพศภายในพรรค ที่คณะนำชักช้า ซื้อเวลา ไม่สนใจแก้ไข ก็อาจมีเรื่องของลัทธิพรรคพวกด้วย