ก้าวไกลรุก ‘อุ๊งอิ๊ง’ ดันนิรโทษกรรมแตะ ‘ชั้น 14’ จุดพลุอภิสิทธิ์ชน
ก้าวไกลรุกนิรโทษกรรมถ้วนหน้า แตะทักษิณ บนชั้น 14 โยนคำถามถาโถมใส่ อุ๊งอิ๊ง ปลุกวลีไม่มียุติธรรมแบบอภิสิทธิ์ชน เพื่อไทยเมิน ไม่ยุ่งคดี ม.112
ครบ 100 วัน ทักษิณ บนชั้น 14 คำถามถาโถมใส่ อุ๊งอิ๊ง ก้าวไกลชิงรุกเพื่อไทย เสนอนิรโทษกรรมถ้วนหน้า ไม่มียุติธรรมแบบอภิสิทธิ์ชน
แกนนำก้าวไกล เปิดปฏิบัติการเขย่าชั้น 14 เดินสายขายแนวคิดนิรโทษกรรมทุกขั้วสี ชูสปิริตธนาธร ขอสละสิทธิ์ ไม่อยากเป็นอภิสิทธิ์ชน
นับจากวันที่ 23 ส.ค. 2566 เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้นำตัวทักษิณ ชินวัตร ส่งโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการบำบัดรักษา จนถึงวันที่ 30 พ.ย.นี้ ก็ครบ 100 วัน
อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร เดินทางมาประชุมคณะกรรมการซอฟพาวเวอร์แห่งชาติครั้งที่ 2/ 2566 ที่กระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามนักข่าวกรณีอดีตนายกฯทักษิณมารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจครบ 100 วันว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการพักฟื้น และไม่ได้ข่าวเรื่องจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ
อีกด้านหนึ่ง ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินสายพูดคุยกับแกนนำ กปปส. , คนเสื้อเหลือง และคนเสื้อแดง เพื่อขอการสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งพรรคก้าวไกล เตรียมเสนอต่อประธานรัฐสภาในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯ 12 ธ.ค. 2566
สำหรับท่าทีของพรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาล ได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า การนิรโทษกรรมจะต้องไม่มีประเด็นเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
เหนืออื่นใด แกนนำเพื่อไทยทราบดีว่า พรรคสีส้มจุดพลุนิรโทษกรรมทุกขั้วสี มีเป้าหมายแอบแฝง หวังกระทบถึงคนชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยมองว่านั่นเป็นการยุติธรรมแบบอภิสิทธิ์ชน
ปรองดองของจริง
ก่อนหน้านี้มีคำถามว่า ทำไมพรรคก้าวไกล จึงไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณี ทักษิณ ชินวัตร ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ
ข้อกังขาที่ว่าพรรคก้าวไกล ไม่แตะคนบนชั้น 14 ได้แปรเปลี่ยนไปในทันที เมื่อมีการขับเคลื่อนร่างกฎหมายนิรโทษกรรม
ยกตัวอย่างเมื่อ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ได้ยืนยันว่า การนิรโทษกรรมจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง หากเรามีกระบวนการที่หาความคิดเห็นร่วมกันได้
“..แต่การที่มีใครคนใดคนหนึ่งได้รับกระบวนการยุติธรรมแบบอภิสิทธิ์ชน ขณะที่คนอื่นไม่ได้รับเลย อันนี้จะเป็นเงื่อนไขความขัดแย้ง”
เมื่อพิธีกรรายการดังกล่าวถามว่า “ใครๆ” ชัยธวัช ก็ตอบว่า “เราก็เห็นกันอยู่”
แม้หัวหน้าต๋อม ชัยธวัช จะไม่ระบุชื่อเสียงเรียงนาม แต่ก็รู้ว่า เขาหมายถึงทักษิณ ชินวัตร ที่พักรักษาตัวอยู่บนชั้น 14 ร.พ.ตำรวจ
จริงๆ แล้ว เมื่อ 5 ก.ย. 2566 ปิยบุตร แสงกนกกุล ได้โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องรัฐบาลเศรษฐา และทุกพรรคในสภาฯ ควรเร่งผลักดันการนิรโทษกรรมคดีการแสดงออกทางการเมือง
ปิยบุตร อ้างถึงกรณีทักษิณ ชินวัตร ได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี ทำให้มีคนจำนวนมากตั้งคำถาม และไม่เห็นด้วยกับกรณีทักษิณ โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน
ด้วยเหตนี้ ปิยบุตรจึงเสนอให้รัฐบาลเศรษฐา เป็นเจ้าภาพในการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมทุกขั้วสี แต่เมื่อเพื่อไทยไม่ขยับ ก้าวไกลก็เปิดเกมรุกทันที
เกมซ้อนซ่อนเงื่อน
อีกประเด็นหนึ่งที่ชัยธวัช พยายามเปิดประเด็นใหม่ แต่สะเทือนถึงคนชั้น 14 ทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทยไม่พอใจ
ระหว่างที่ชัยธวัช เดินทางไปพบกับอดีตพระพุทธอิสระ ที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้หยิบยกประเด็นในร่างกฎหมายนิรโทษกรรม มีอยู่ช่องหนึ่งที่เปิดทางให้ใครก็ตามที่ไม่ประสงค์รับสิทธิพิจารณานิรโทษกรรมได้
หัวหน้าพรรคก้าวไกลบอกว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ที่เจอคดี 112 ได้ขอสละสิทธิ์ ไม่เข้าสู่กระบวนการนิรโทษกรรม
“ผมก็คุยกับพุทธอิสระว่าเชื่อว่าคุณธนาธรจะไม่ขอรับสิทธิ์นี้ ท่านยังตั้งคำถามว่ากล้าหาญขนาดนั้นเชียวเหรอ” ชัยธวัชกล่าว
จากปากคำของชัยธวัช ทำให้ภาพของธนาธร โดดเด่นขึ้นมา และผู้คนก็สงสัยคนชั้น 14 มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะวลีที่ว่าการยุติธรรมแบบอภิสิทธิ์ชน