ผ่าบล็อกโหวต ‘ชวน’ กรีดระบบอุปถัมภ์ยึด ‘ปชป.’ ล็อกโผทีมดาวล้อมเดือน
เรียบร้อยก๊วนดาวล้อมเดือน ชวน กรีดบล็อกโหวต ลดทอนประชาธิปไตยใน ปชป. ปิดทางมาดามเดียร์เข้าแข่งขัน อดีต สส.นอกโผ ชวดเก้าอี้กรรมการบริหารพรรค
ฝ่าระบบอุปถัมภ์ ชวน กรีดบล็อกโหวต ลดทอนประชาธิปไตยใน ปชป. เหตุสามเสือบ้านใหญ่ดาวล้อมเดือน เฉลิมชัย-เดชอิศม์-ชัยชนะ ล็อกโผยึดเบ็ดเสร็จ
มิได้มีเพียงกรณี มาดามเดียร์ ถูกปิดทางเข้าสู่เวทีแข่งขันหัวหน้าพรรค อดีต สส.หญิงรายหนึ่งก็โดนหางเลขบล็อกโหวต หลุดกรรมการบริหารพรรค
ควันหลงการประชุมเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย
จะว่าไปแล้ว ก่อนวันประชุมใหญ่ 1 วัน คนในพรรคสีฟ้าก็รู้ชัดว่า เฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ปชป.แน่นอน ด้วยกติกาของพรรคที่กำหนดให้สัดส่วนเสียง สส.มากถึง 70% อีก 30% มาจากกรรมการพรรค และสมาชิกบางส่วน
เมื่อเฉลิมชัย มี สส.อยู่ในมือ 21 คน จากทั้งหมด 25 คน ย่อมได้เปรียบคู่แข่งขันทุกคน แต่วัฒนธรรมการเมืองของ ปชป.คือ ระบบการแข่งขัน ไม่ใช่การฮั้ว ไม่ใช่ล็อกตัวกันไว้ล่วงหน้า เหมือนหลายพรรคการเมืองกระทำกัน
สัญญาณการยึดพรรคแบบเบ็ดเสร็จ เริ่มจากวันที่ 7 ธ.ค. 2566 ชวลิต ประธานสาขาพรรค จ.ประจวบคีรีขันธ์ คนสนิทเสี่ยต่อ เฉลิมชัย ส่งข่าวให้โหวตเตอร์ภาคอีสาน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ก่อนกำหนดการเดิม 1 วัน เพื่อมามอบดอกไม้ให้กำลังใจเสี่ยต่อ ณ ที่ทำการพรรค ปชป. ตอนเที่ยงวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา
คืนวันนั้น(8 ธ.ค.) โหวตเตอร์ที่เป็นสาขาพรรคจากทุกภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคใต้ ได้เข้าพักที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ฯ โดยการจัดการของชวลิต และทีมงานของ เดชอิศม์ ขาวทอง
หลังเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่พรรค ปชป. ชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ จึงให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เฉลิมชัย ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค และนี่คือระบบอุปถัมภ์ ที่บั่นทอนประชาธิปไตยในพรรค ปชป.
โตแล้วแตก ‘เฉลิมชัย’ บ้านใหญ่ยึด ‘ปชป.’ คนเก่าทยอยทิ้งพรรค
ซ้ายรำพัน ‘ปิยบุตร’ ปลุกส้มสวนทาง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ทำสงครามความคิดยกใหม่
ปิดทางคนรุ่นใหม่
อันเนื่องจากไลน์หลุดในการเลือกหัวหน้าพรรค ปชป. ซึ่งถูกระบุว่าเป็นข้อความของประธานสาขาพรรคจังหวัดหนึ่งที่ส่งให้โหวตเตอร์ ระบุว่า 1.ถ้ามีการโหวตงดเว้นข้อบังคับพรรค 70:30 เราจะไม่ยกมือ 2.ถ้ามีการงดเว้นคุณสมบัติให้มาดามเดียร์ เราจะไม่ยกมือ
เฉพาะกรณีการปิดทางมาดามเดียร์ ไม่ให้เข้าสู่ลู่การแข่งขัน ชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ได้เล่าเบื้องหลังบรรยากาศในที่ประชุมว่า
“เมื่อเห็นโพยที่มีคนส่งมาให้ดู เป็นโพยล็อกเอาไว้ว่า อย่าไปรับการลงมติ 3 ใน 4 เพื่อยกเว้นข้อบังคับ (6) ผมเห็นเขาสกัด จึงต้องขออนุญาตพูดในที่ประชุม ขอร้องสมาชิกว่า ขอเปิดโอกาสให้คุณวทันยา ได้มีโอกาสแข่งขัน”
จากการลุกขึ้นพูดของผู้อาวุโส ชวน หลีกภัย ทำให้มาดามเดียร์ได้เสียงเพิ่มขึ้น แต่ก็ขาดไป 60 กว่าเสียง ได้ไม่ถึง 3 ใน 4 ซึ่งอดีตนายกฯ บอกว่า “ทำไมไปกลัวเขา น่าจะแข่งขัน หัวหน้าพรรคจะได้มาโดยการแข่งขัน ไม่ใช่ได้มาตามโพย”
โผดาวล้อมเดือน
นอกจากกรณีมาดามเดียร์ เจอโพยปิดทางไม่ให้มีการงดใช้ข้อบังคับ ทำให้ชวดลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป. ยังมีกรณี สส.หญิงรายหนึ่ง อยู่นอกโผกลุ่มเพื่อนเฉลิม จึงไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค
มีรายงานข่าว รัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรค ปชป. ได้เสนอตัวเองเข้าแข่งในรอบเลือกกรรมการบริหาร 8 คน เพราะเชื่อมั่นในประชาธิปไตยของพรรคเก่าแก่
ตามปกติการเลือกกรรมการบริหารพรรค จะเปิดกว้างให้สมาชิกพรรคเสนอตัวลงสมัครแข่งขัน เพื่อให้โหวตเตอร์ในพรรคได้เลือกแบบตะลุมบอน(เลือกโดยเสรีไม่มีโผ)
สำหรับครั้งนี้ กลับมีโผดาวล้อมเดือน ล็อกไว้ครบทั้ง 8 คน ประกอบด้วย ประกอบ รัตนพันธ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช, เมฆินทร์ เอี่ยมสอาด อดีตผู้สมัคร สส.สุพรรณบุรี มือทำงานเสี่ยต่อ เฉลิมชัย, สงกรานต์ จิตสุทธิภากร อดีต สส.นครสวรรค์, สมชาติ ประดิษฐพร อดีต สส.สุราษฏร์ธานี และยูนัยดี วาบา สส.ยะลา
พร้อมกับ 3 สาวหน้าใหม่คือ พลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ อดีตผู้สมัคร สส.ภูเก็ต, ปุณณ์สิริ บุญยเกียรติ อดีตผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช และเจนจิรา รัตนเพียร ทีมงาน ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
ที่สำคัญ ทั้ง 3 สาว มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึง 5 ปี เหมือนกรณีมาดามเดียร์ ทางแกนนำกลุ่มดาวล้อมเดือน จึงเสนองดใช้ข้อบังคับ(6) รวดเดียว 3 คน ด้วยเสียงหนุน 3 ใน 4 ครบตามกติกา จึงได้เป็นกรรมการบริหารพรรคตามโผเป๊ะ