ดีลลับการละคร ‘พจมาน’ คนหลังม่านพา ‘ทักษิณ’ คืนรังจันทร์ส่องหล้า
ดีลเดิมเพิ่มเติม ทักษิณ กลับบ้านจันทร์ส่องหล้า พจมาน แม่ทัพหลังม่าน ยึดเพื่อไทย เล่นเกมซ่อนกลปฏิรูปพรรค เพื่อภารกิจดีลปรองดอง
ผู้กุมดีล พจมาน หญิงหลังม่าน ทักษิณ คืนบ้านจันทร์ส่องหล้า หลังยึดเพื่อไทย เล่นเกมซ่อนกลปฏิรูปพรรค เพื่อภารกิจดีลปรองดอง
เหตุทักษิณกลับบ้าน เพื่อไทยกลายเป็นอนุรักษนิยมใหม่ เผชิญหน้ากองหนุนอนุรักษนิยมเก่า จับตาเกมปลุกอภิสิทธิ์ชนเหนือกฎหมาย
เช้าตรู่วันที่ 18 ก.พ. 2567 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมลูกสาว พิณทองทาและแพทองธาร เดินทางออกจากอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจ กลับบ้านจันทร์ส่องหล้า
ตอนสายวันเดียวกัน มีรถตู้เบนซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 4 ขท.2566 โดยปิดม่านทึบทั้งคัน คาดว่าเป็นรถของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ วิ่งเข้าไปบ้านจันทร์ส่องหล้า
ย้อนไปปี 2565 เต็มไปด้วยข่าวลือคุณหญิงอ้อหรือคุณหญิงพจมาน เปิดดีลลับพาทักษิณกลับบ้าน กระทั่งวันหนึ่ง โทนี่ วู้ดซั่ม หรือทักษิณพูดผ่านคลับเฮาส์ว่า “กลับก็คือกลับ ไม่กลับก็คือไม่กลับ พวกนักวิเคราะห์อย่าไปคิดเยอะ ผมไม่มีอะไร”
คนในพรรคเพื่อไทยรู้ดีว่า คุณหญิงอ้อคือ นางพญาจันทร์ส่องหล้าตัวจริง ซึ่งปกติ คุณหญิงอ้อจะทำตัวโลว์โปรไฟล์ และออกสื่อเท่าที่จำเป็น
วันที่ 10 ก.ย. 2565 คุณหญิงพจมาน ปรากฏตัวในกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ นั่นคือการส่งสัญญาณว่า บ้านจันทร์ส่องหล้ามีเดิมพัน ต้องเป็นรัฐบาลและพาทักษิณกลับบ้าน
นางพญาหลังม่าน
ทักษิณ ชินวัตร ค้นพบบุคลิกพิเศษในตัวคุณหญิงอ้อ ‘นุ่มนวลแต่เด็ดเดี่ยวเข้มแข็ง’ ตั้งแต่สมัยรักแรกพบ
ดังที่ปรากฏในบันทึกชีวิตเรื่อง “สาวน้อยเซนต์โย..รักแรกพบนัก เรียนนายร้อยหนุ่ม” ในเว็บไซต์ thaksinofficial
“บุคลิกนุ่มนวลที่แฝงความเข้มแข็งในที..ทำให้ผมตกหลุมรักแรกพบ หรือที่เรียกกันว่า Love at first sight ผู้หญิงคนนี้ทันที”
คุณหญิงพจมานไม่ชอบการเมือง แต่เมื่อทักษิณ เข้าร่วมงานกับพรรคพลังธรรม และก่อตั้งพรรคไทยรักไทย คุณหญิงอ้อก็พร้อมสนับสนุน
ปี 2543 คุณหญิงพจมาน เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้าให้สัมภาษณ์นิตยสารสกุลไทย ซึ่งช่วงนั้น ทักษิณกำลังนำทัพไทยรักไทยหาเสียงเลือกตั้ง
“อ้อเป็นคนไม่ขัดใจ ในเมื่อพี่ทักษิณบอกว่าอยากเล่นการเมืองเพื่อตอบแทนแผ่นดิน..”
ในอดีต พรรคไทยรักไทย มีมากกว่า 10 มุ้ง แต่รวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ทักษิณ ปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยมีหลายมุ้ง ก็ต้องขึ้นต่อคุณหญิงอ้อเพียงคนเดียว
สไตล์คุณหญิงอ้อ ชอบทำงานหลังม่าน มีความเป็นผู้นำสูง ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาเหมือนญาติสนิท และกล้าตัดสินใจ กล้าทุบโต๊ะ
อย่างไรก็ตาม คุณหญิงอ้อไม่เคยทิ้งพรรค และไม่เคยทิ้งมวลชน เพียงแต่คุณหญิงไม่ปรากฏตัวในแถวหน้า
เพื่อไทยยุคปรองดอง
ปลายปี 2563 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ชิงลงมือทางการเมืองด้วยการลาออก ทำให้คุณหญิงพจมาน ประมุขบ้านจันทร์ส่องหล้า ต้องส่งคนมาทำการรีโนเวทพรรคเพื่อไทย
มือไม้ของคุณหญิงอ้อในการปฏิรูปพรรคเพื่อไทย ก็คือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช
การยึดพรรคเพื่อไทยคืนมา คุณพจมานมาแนวทางปรองดองชัดเจน คนเสื้อแดงบางกลุ่มอาจคาดหวังจะให้พรรคเพื่อไทย ชูธงประชาธิปไตยแบบพรรคก้าวไกล ก็จะรู้สึกผิดหวัง
คุณหญิงจันทร์ส่องหล้า เคยบอกทักษิณว่า “ฉลาดมากเกินไป” ถึงอยู่เมืองไทยไม่ได้ ซึ่งเป็นคำพูดที่แฝงนัยการเมือง สะท้อนวิธีคิดแบบพจมาน จะเน้นปรองดองมากกว่าแตกหัก
ดีลรัฐบาลแห่งชาติหรือดีลลับลังกาวี ที่ไม่มีพรรคก้าวไกล เป็นข้อตกลงก่อนวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 แต่สถานการณ์พลิกผัน พรรคก้าวไกล ได้ สส.มากกว่าพรรคเพื่อไทย จึงต้องมีการลากเกมจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล-เพื่อไทย มาจนถึงทางตัน ก่อนจะมีการพลิกขั้วตามดีลเดิม
การจัดตั้งรัฐบาลดีลข้ามขั้ว โดยกลุ่ม สว.สายอำนาจ โหวตเห็นชอบเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ในวันเดียวกับทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับถึงประเทศไทย ล้วนเป็นผลมาจากดีลปรองดองทั้งสิ้น