คอลัมนิสต์

ศูนย์อำนาจคู่ ‘ทักษิณ’ จันทร์ส่องหล้า ‘พจมาน’ บ้านใหม่รามอินทรา

ศูนย์อำนาจคู่ ‘ทักษิณ’ จันทร์ส่องหล้า ‘พจมาน’ บ้านใหม่รามอินทรา

19 ก.พ. 2567

ดีลเดิมเพิ่มเติมมี 2 บ้าน ทักษิณ บ้านจันทร์ส่องหล้า กลายเป็นศูนย์กลางอำนาจ คู่ขนานพจมาน คฤหาสน์ใหม่ย่านรามอินทรา

ดราม่าพักโทษ ทักษิณ ผู้นำตัวจริง บ้านจันทร์ส่องหล้ากลายเป็นศูนย์กลางอำนาจ คู่ขนานพจมาน บ้านใหม่รามอินทรา 


จับตาเย็นวันอังคาร ลูกหนังกระชับมิตร ทีมเศรษฐา ปะทะทีมสื่อ มวลชนที่สนามบอลอัลไพน์ฯ หน้าคฤหาสน์คุณหญิงพจมาน 


ยังโจษขานกันไม่จบ กรณีทักษิณ ชินวัตร ออกจาก ร.พ.ตำรวจ กลับบ้านจันทร์ส่องหล้า ในรอบ 17 ปี 
 

ปฏิกิริยาจาก ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ตั้งข้อสังเกตว่าการที่อดีตนายกฯทักษิณได้พักโทษกลับบ้าน ระวังประเทศไทยจะอยู่ในสภาพ ‘1 ประเทศ 2 นายกฯ’ 


หัวหน้าพรรคก้าวไกลยืนยันว่า นี่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่มโนทางการเมือง เพราะคนในพรรคเพื่อไทยย่อมรู้เรื่องนี้ดี


ด้าน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง อยู่ระหว่างการตรวจราชการในพื้นที่ภาคอีสานตอนเหนือ ได้ตอบโต้ว่า “...อย่าดราม่ากันว่ามีนายกฯ กี่คน รัฐธรรมนูญไทยก็ระบุอยู่แล้วว่ามีนายกฯคนเดียว ก็มีคนเดียวก็คือผมนี่แหละ”

ศูนย์อำนาจใหม่
นับจากวันที่ 18 ก.พ. 2567 เป็นต้นไป เมื่ออดีตนายกฯทักษิณ ได้รับการพักโทษ หลังต้องติดคุก(นอน ร.พ.ตำรวจ)มานานกว่า 6 เดือน และได้กลับไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า


ทุกย่างก้าวของทักษิณ จึงถูกโยงกับภูมิทัศน์การเมืองไทย เพราะทักษิณเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลเศรษฐา


ว่ากันตามจริง กำเนิดของรัฐบาลเศรษฐา ก็มาจากดีลลับดีลข้ามขั้ว โดยมีเป้าหมายสกัดพรรคก้าวไกล ไม่ให้จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ และเปิดทางทักษิณกลับไทย


ฉากทัศน์ทางการเมืองนับจากนี้ไป คงจะไม่เห็นการเปลี่ยนม้ากลางศึกอย่างแน่นอน เศรษฐา ทวีสิน ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แม้จะถูกค่อนขอดว่า เป็นนายกฯเชิงพิธีกรรม


ส่วนการปรับ ครม.จะไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ อย่างเร็วก็น่าจะหลังเดือน พ.ค.2567 เป็นการปรับให้คณะรัฐมนตรีครบ 36 คน(ปัจจุบันมี 34 คน) ตามโควตาของเพื่อไทยและพลังประชารัฐรวม 2 ตำแหน่ง


เนื่องจากบริบทการเมืองทุกวันนี้ ต่างจากปี 2544 สมัยนั้น ทักษิณคืออัศวินม้าขาว และนโยบายประชานิยมเป็นจุดแข็งของพรรคไทยรักไทย ทักษิณจึงอำนาจได้เต็มไม้เต็มมือ ปรับ ครม.บ่อย คราวละ 4-6 เดือน โดยไร้แรงกระเพื่อม


ทุกวันนี้ เป็นรัฐบาลพิเศษดีลข้ามขั้ว ทักษิณก็ไม่ได้อำนาจเต็มมือเหมือนสมัยไทยรักไทย ยังต้องเงี่ยหูฟังผู้ถืออำนาจหลังม่าน


ในเงื่อนไขดีลปรองดอง จึงต้องประคองรัฐนาวาเศรษฐาต่อไป และทักษิณ-พจมานเอง ก็ไม่ประสงค์จะให้อุ๊งอิ๊ง ก้าวขึ้นเป็นนายกฯในเร็ววันนี้


สำหรับตัวทักษิณ ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป กว่าจะปรากฏตัวต่อสาธารณะ โดยจะรอวาระพิเศษของประเทศ จะได้แสดงความจง รักภักดีให้เป็นที่ประจักษ์ 

 

ทักษิณ ปักหลักบ้านจันทร์ส่องหล้า ส่วนคุณหญิงพจมานอยู่บ้านใหม่รามอินทรา

 

 

จับตาบ้านหลังใหม่
อันที่จริง บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ได้เป็นรัฐบาลนอกทำเนียบเพียงแห่งเดียว เพราะใครก็รู้ว่า ตระกูลชินวัตร มีคฤหาสน์บ้านเลขที่ 38 ย่านรามอินทรา-นวมินทร์ เป็นบ้านหลังใหม่ ที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ พาลูกหลานไปพำนักอยู่ที่นั่นนานแล้ว 


คุณหญิงอ้อ ก็มีบทบาทสำคัญในการถือดีลปรองดอง เพราะเป็นผู้ประสานงานภายใน ระหว่างที่ทักษิณยังอยู่ต่างประเทศ


ฉะนั้น หลัง 18 ก.พ. 2567 จึงมีศูนย์อำนาจอยู่ 2 บ้านคือ บ้านจันทร์ส่องหล้า จรัลสนิทวงศ์ 69 และบ้านเลขที่ 38 ย่านรามอินทรา


ด้านหน้าคฤหาสน์หลังดังกล่าวคือ สนามอัลไพน์ ฟุตบอล แคมป์ เทรนนิ่ง กรุงเทพฯ (Alpine Football Camp Training Bangkok) ซึ่งเย็นวันอังคารที่ 20 ก.พ. 2567 พรรคเพื่อไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมเตะฟุตบอลสานสัมพันธ์ ระหว่างทีมพรรคร่วมรัฐบาล กับทีมสื่อมวลชน ที่สนามอัลไพน์ฯ 


วันนั้น เศรษฐา ผู้ชื่นชอบกีฬาลูกหนังจะลงสนามดวลแข้งกับทีมนักข่าวด้วย และอาจมีหัวหน้าเพื่อไทย อุ๊งอิ๊งมาร่วมเชียร์ให้กำลังใจด้วย


ภาพรวมการเมืองไทย ในวันที่ทักษิณได้พักโทษที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากดีลเดิม เพื่อไทยยังต้องเป็นผู้ถือธงนำอนุ รักษนิยมใหม่สกัดก้าวไกล