ตัวจริงทำเนียบ ‘เศรษฐา’ พึ่งบริการ ‘มนพร’ ฝ่าดราม่า 3 นายกฯ
ใต้เงาจันทร์ส่องหล้า เศรษฐา พิสูจน์ผู้นำตัวจริง ขยันลุยพื้นที่ พึ่งบริการ มนพร มือประสานสิบทิศ ปรับทุกข์ผูกมิตร สร้างความใกล้ชิด สส.
ฝ่าดราม่า 3 นายกฯ เศรษฐา พิสูจน์ผู้นำตัวจริง พึ่งบริการ มนพร มือประสานสิบทิศ รวบรวมกำลังหนุนเบอร์หนึ่งทำเนียบรัฐบาล
ใต้เงาจันทร์ส่องหล้า เศรษฐา ขยันลุยพื้นที่ ปรับทุกข์ผูกมิตร สร้างความใกล้ชิด สส. พักหลังเยือนอีสานเหนือถี่ขึ้น
สัปดาห์นี้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ดูเหมือนไม่อยากพบหน้านักข่าวมากนัก คงอยากหลบกระแสดราม่า 3 นายกฯ
ต้นตอของดราม่า 3 นายกฯนั้น มาจากวันที่นายกฯเศรษฐา ไปเยี่ยมคารวะอดีตนายกฯทักษิณ
เกจิการเมืองสำนักหนึ่งมองสวนกระแสว่า การเข้าพบทักษิณอย่างเปิดเผยนั้น ก็เพื่อสยบข่าวลือที่ว่า นายกฯเศรษฐา จะเป็นนายกฯไม่ครบเทอม
สอดรับกับ มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์กรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ประเทศไทยมีนายรัฐมนตรี 2-3 คน
“ขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีนายกฯคนเดียว คือ นายเศรษฐา ทวีสิน เพราะเป็นนายกฯ ที่มาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผ่านการเลือกของสมาชิกรัฐสภา 6 เดือนที่ผ่านมา..”
‘รัฐมนตรีเดือน’ มนพร เจริญศรี น่าจะเป็นรัฐมนตรีคนเดียวในพรรคเพื่อไทย ที่กล้าออกมาพูดกับสื่ออย่างไม่สะทกสะท้าน
เนื่องจากระยะหลัง นายกฯเศรษฐา ลงพื้นที่ภาคอีสานบ่อย และจะเห็นมนพร ตามประกบไปด้วยทุกครั้ง
นัยว่า บทบาทของมนพร ในฐานะผู้ประสานงาน สส.เพื่อไทยสายอีสาน ได้รับการยอมรับจากเศรษฐา และสามารถแก้ปัญหานายกฯขาลอยได้
หลังกลับจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกฯเศรษฐา ก็มีคิวไปภาคอีสานในวันที่ 2 มี.ค. 2567 โดยจะลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด
ดูเหมือนว่า รัฐมนตรีเดือน จะเดินทางไปกรุยทางล่วงหน้ามาแล้วทั้ง 2 จังหวัดในช่วงสัปดาห์ก่อน
มือประสานสิบทิศ
มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และ สส.นครพนม เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า พรรคเพื่อไทยเหมือนต้นไม้ใหญ่ ที่รากแก้วคือทักษิณ ชินวัตร นี่เป็นเรื่องจริงที่คนเพื่อไทยไม่ปฏิเสธ
สำหรับเศรษฐา ทวีสิน อาสาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายใหญ่นายหญิงให้การยอมรับ คนเพื่อไทยก็ต้องหนุนเต็มที่
เศรษฐาเป็นคนนอกตระกูลชินวัตร มีบุคลิกแบบซีอีโอหัวนอก ไม่มีประสบการณ์งานการเมือง ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างนายกฯ กับ สส.
หน้าที่ของมนพร เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงในการลงพื้นที่ของนายกฯเศรษฐา โดยเธอจะต้องประสาน สส.ในพื้นที่ล่วงหน้า
อย่างเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2567 นายกฯเศรษฐา ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สกลนคร ซึ่งพรรคเพื่อไทย มี สส. 5 คน แต่ก็ไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรี
ในฐานะ รมช.คมนาคม มนพรก็ต้องเข้ามาดูแลพื้นที่สกลนคร เพราะมีเขตติดต่อกับ จ.นครพนม
ที่มั่นอีสานเหนือ
เช่นเดียวกับ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.กาฬสินธุ์ เป็นที่มั่นการเมืองของเพื่อไทยมายาวนาน แต่ในการจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา ไม่มีรัฐมนตรีที่มาจาก 2 จังหวัดนี้
เพื่อไทยร้อยเอ็ด มี สส. 5 คน ประกอบด้วยฉลาด ขามช่วง เขต 2, นรากร นาเมืองรักษ์ เขต 4, จิราพร สินธุไพร เขต 5, กิตติ สมทรัพย์ เขต 6 และชญาภา สินธุไพร เขต 8
เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายก อบจ.ร้อยเอ็ด สังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งในการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งหน้า คู่แข่งสำคัญของเศกสิทธิ์ก็คือพรรคก้าวไกล
สำหรับเพื่อไทย กาฬสินธุ์ มี สส. 4 คน ได้แก่ วิรัช พิมพะนิตย์ เขต 1, พลากร พิมพะนิตย์ เขต 2, ทินพล ศรีธเรศ เขต 5 และประเสริฐ บุญเรือง เขต 6
เฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ ก็สังกัดเพื่อไทย ไม่น่าจะมีคู่แข่งที่น่ากลัวในสมัยหน้า หาก สส.ในพื้นที่ทุกพรรคทุกสีร่วมมือกันได้
ทั้งร้อยเอ็ดและกาฬสินธุ์ มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ได้ลงมาตรวจราชการในพื้นที่หลายครั้งแล้ว เนื่องจากสมัยที่ผ่านมา เพื่อไทยเพลี่ยงพล้ำ ถูกพรรคคู่แข่งเจาะฐานสีแดงไปได้
การเดินมาเยือนของนายกฯเศรษฐา ก็คงเยียวยาความรู้สึก สส.ในพื้นที่ไปได้ อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ถูกทอดทิ้ง