คอลัมนิสต์

ลุ้นกลับไทย ‘ยิ่งลักษณ์’ ศาลชี้ชะตาคดี ‘จัดโรดโชว์’ บ่วงกรรมสุดท้าย

ลุ้นกลับไทย ‘ยิ่งลักษณ์’ ศาลชี้ชะตาคดี ‘จัดโรดโชว์’ บ่วงกรรมสุดท้าย

04 มี.ค. 2567

ชี้ชะตา ยิ่งลักษณ์ ศาลนัดฟังคดีจัดโรดโชว์ 239 ล้านบาท บ่วงกรรมสุดท้าย ผลบวกหรือลบ จะให้คำตอบเรื่องอนาคตกลับบ้านได้หรือไม่

ลุ้นวิบากกรรมสุดท้าย ยิ่งลักษณ์ ศาลนัดฟังคดีจัดโรดโชว์ 239 ล้านบาท ผลบวกหรือลบ จะชี้ชะตาอนาคตกลับบ้านได้หรือไม่


หากยิ่งลักษณ์ รอดพ้นคดีจัดโรดโชว์ เหลือเพียงบ่วงกรรมคดีจำนำข้าวที่ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี ซึ่งต้องมากลับมารับโทษตามกฎหมาย


วันที่ 4 มี.ค. 2567 เวลา 09.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดี อม.2/2565 ที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับพวกรวม 6 คน จำเลย คดีจัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 เพื่อเอื้อประโยชน์โดยมิชอบ
 

ป.ป.ช.ยื่นฟ้อง โดยสรุปว่ามีการใช้อำนาจโดยมิชอบ ในการจัดแข่งขันราคาจัดจ้างงบอีเวนต์โครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายเป็นเงิน 239 ล้านบาท


ตามความเห็นของทีมทนายของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เชื่อว่า อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์จะรอดคดีมีสูง เพราะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการฮั้วตามข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. ในรูปคดีมีเพียงจำเลย 2 คนที่สุ่มเสี่ยง

 

ผลแห่งคดีจัดโรดโชว์
การพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 4 มี.ค. 2567 ในคดีจัดโรดโชว์อาจออกมา 2 แนวทาง


แนวทางแรก ศาลจะต้องอ่านคำตัดสินต่อหน้าจำเลยครบทุกคน ซึ่งหากจำเลยที่ถูกฟ้องคนใดคนหนึ่งไม่มาปรากฏตัว ศาลจะเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปก่อน แล้วจะนัดอ่านคำพิพากษาภายในไม่เกินสามสิบวัน 


ถ้าจำเลยทุกคนมาครบ ขาดเพียงอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ศาลฎีกาอาจอ่านคำตัดสินคดีวันที่ 4 มี.ค. ไม่ต้องเลื่อนก็ได้  


เนื่องจากก่อนหน้านี้ วันที่ 26 ธ.ค. 2566 ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องยิ่งลักษณ์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช.มาแล้ว โดยไม่เลื่อนแต่อย่างใด
 

แนวทางที่สอง หากศาลฎีกาตัดสินยกฟ้องจำเลยทั้งหมด หรือตัดสินว่าจำเลยบางคนมีความผิด 


สมมติว่า ยิ่งลักษณ์ รอด เพราะยกฟ้อง ไม่มีส่วนรู้เห็น พยานหลักฐานโยงไปไม่ถึง ฉากทัศน์การเมืองนับจากวันนี้ไป ผู้คนก็จะตั้งคำถามว่า น้องสาวทักษิณ จะกลับประเทศไทยได้เมื่อใด

 

 

ยิ่งลักษณ์แวะมาสิงคโปร์ เมื่อเดือน ก.พ.นี้

 

วิบากกลับบ้าน
เมื่อวันที่อดีตนายกฯทักษิณ ได้รับการพักโทษ กูรูการเมืองต่างจุดประเด็นยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับไทยภายในปีนี้ หลังเมื่อตรวจสอบคดีที่ยิ่งลักษณ์ตกเป็นจำเลยที่ศาลฎีกาอยู่ 2 คดี


คดีแรก ศาลฎีกายกฟ้องไปแล้ว คือคดีย้ายถวิล เปลี่ยนศรี ซึ่งศาลฎีกาตัดสินไปเมื่อ 26 ธ.ค. 2566 แต่กฎหมายเปิดช่องให้อุทธรณ์คดีได้


ดังนั้นหากอัยการสูงสุดจะยื่นต่อต้องยื่นอุทธรณ์คดีภายในสามสิบวัน นับแต่ 26 ธ.ค. 2566


มาจนถึงวันนี้ ยังไม่ปรากฏข่าวอัยการสูงสุด ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาแล้วหรือยัง


คดีที่สอง สมมติว่า ศาลยกฟ้อง อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์รอด ก็ต้องรอลุ้นอีกว่า ป.ป.ช.ที่ยื่นฟ้องคดีนี้เอง หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาหรือไม่ 


บ่วงกรรมของยิ่งลักษณ์ จึงมีคดีจำนำข้าว ซึ่งศาลฎีกาออกหมายจับคดีจำนำข้าว เพราะโดนตัดสินจำคุก 5 ปี หากกลับประเทศไทยได้มาเพื่อใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ ก็ต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ 


เหนืออื่นใด ยิ่งลักษณ์ในวัย 56 ปี ไม่ใช่ 70 ปีเหมือนพี่ชาย หากคดีที่ค้างคาจบหมดแล้ว ยิ่งลักษณ์จะวางแผนกลับไทยมารับโทษคดีจำนำข้าว แล้วขอใช้สิทธิ์พักโทษ ตามรอยทักษิณคงยาก


อย่างไรก็ตาม คนในตระกูลชินวัตร ก็ต้องลุ้นคดีสุดท้ายคือ คดีจัดโรดโชว์ให้สิ้นสุดก่อน จึงจะคิดอ่านเรื่องการเดินทางกลับไทย


ในมิติทางการเมืองคงหนีไม่พ้นเรื่องดีลลับ เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มีคนเห็นอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ บินโฉบเข้ามาที่กัมพูชา เข้าคารวะสมเด็จฮุนเซน ทำให้ฉากทัศน์กลับไทยใกล้เป็นความเป็นจริง