กระชับอำนาจ ‘ทักษิณ’ สยบคลื่นใต้น้ำ ‘บ้านใหญ่อีสาน’ เยียวยาคนอกหัก

กระชับอำนาจ ทักษิณ สยบแรงกระเพื่อม บ้านใหญ่อีสาน รอเยียวยาหัวใจ อดีตแกนนำ นปช.ปั่นข่าวเสี้ยม สอดประสานคนอกหักชวดเก้าอี้ รมต.

สส.อีสานฐานใหญ่เพื่อไทย ทักษิณคุมไม่อยู่ ก็อย่าหวังจะกลับมายิ่งใหญ่ ตอนนี้เหลือแค่ 73 คน กลายเป็นการบ้านข้อที่ยากที่สุดของนายใหญ่

ก่อนที่ ทักษิณ ชินวัตร จะย่างเหยียบไปที่อาคารโอเอไอทาวเวอร์ ถ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคเพื่อไทย จตุพร พรหมพันธุ์ ชิงเขย่านายเก่า ด้วยเปิดข้อมูลสุดแสนพิสดารว่า มี สส.อีสาน พรรคเพื่อไทย 30 คน ไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่สนามกอล์ฟกองทัพบก
 

บังเอิญข้อมูล 30 สส.อีสาน ก็ดันไปตรงกับข่าวปล่อยจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่กระจ่ายข่าวว่า สส.เพื่อไทย 30 คน จะร่วมคว่ำงบประมาณฯ วาระสาม เพื่อให้มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ จากเศรษฐา เป็น พล.อ.ประวิตร

เอาเข้าจริง เสียงโหวตงบฯ วาระสอง วาระสามผ่านฉลุย ไม่มีปฏิบัติโหวตคว่ำตามมีการปล่อยข่าว

มีข้อน่าสังเกตว่า สส.อาวุโส จากจังหวัดในภาคอีสานกลาง ที่ถูกเอ่ยชื่อในการข่าวพิสดาร กลับไม่แสดงตัวมาชี้แจงแถลงไขแต่อย่างใด

ถ้านำการข่าวของจตุพร มาเทียบเคียงกับการข่าวของสำนักข่าวออนไลน์ ก็คงหาคำตอบได้ไม่ยาก ใครจงใจปั่น ใครตั้งใจเสี้ยม

บ้านใหญ่ไม่เหมือนเดิม
การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จำนวน สส.อีสาน ทั้งหมด 133 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย ได้ 73 ที่นั่ง เป็นอันดับหนึ่ง แต่ก็ถือว่าล้มเหลว เพราะก่อนหน้านั้น เคยได้ไม่ต่ำกว่า 120 ที่นั่ง

ดังนั้น ช่วงการจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา จึงเกิดแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทย เพราะ สส.อีสาน 73 คน จาก สส.ทั้งหมด 141 คน อย่างน้อยต้องมี 8 เก้าอี้เป็นของ สส.อีสาน หากคิดตามคณิตศาสตร์การเมือง

ปรากฏว่า เพื่อไทยภาคอีสาน ได้ 6 เก้าอี้รัฐมนตรีคือ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอีเอส, สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวฯ, สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม, มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม, เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย และไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ 

ที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุดคือ สุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ ที่มีพื้นฐานมาจาก สส.นกแล ไม่ใช่บ้านใหญ่ แต่คว้าเก้าอี้ใหญ่

สส.บ้านเดียวกันอย่าง ประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ บ้านใหญ่มหาสารคาม กลายเป็นคนอกหัก 

จริงๆ แล้ว สส.อาวุโสในภาคอีสาน ยังมีอีกเยอะที่รอคิวเป็นรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น ฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด, ประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์, ธเนศ เครือรัตน์ สส.ศรีสะเกษ รวมถึงดาวรุ่งอีสาน จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด

 

 

เยียวยาคนอกหัก
ในวันที่ทักษิณ ชินวัตร ไปออนทัวร์เชียงใหม่ 14-16 มี.ค. 2567 มีรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงไปรอพบหลายคน และหนึ่งในนั้นคือ เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย 

เกรียง กัลป์ตินันท์ ตามประกบทักษิณ ไปชมอุทยานราชพฤกษ์ และคลองแม่ข่า ตั้งแต่วันแรกๆ แสดงตัวว่าเป็นสายตรงบ้านใหญ่เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ 

ส่วน ไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ ก็โผล่ไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับทักษิณ ที่บ้าน พักของเจ๊แดง ซึ่งไชยา ก็สังกัดค่ายเจ๊แดง เหมือนกับเสี่ยเกรียง

ช่วงที่มีกระแสข่าวปรับ ครม. ชื่อของเกรียง และไชยา ก็อยู่ในข่ายจะถูกปรับออก เนื่องจากผลงานไม่เด่น ไม่เข้าตานายใหญ่

เฉพาะไชยา พรหมา ที่ได้เข้าป้าย รมช.เกษตรฯ นาทีสุดท้าย ก็มีรายงานข่าวว่า หากมีการปรับ ครม. วิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี จะขอชิงโควตารัฐมนตรีอีสานเหนือแทนไชยา 

สอดรับกับการเคลื่อนไหวในพื้นที่อุดรธานี ศราวุธ เพชรพนมพร อดีต สส.อุดรธานี 4 สมัย เอาศัยเวทีการแสดงหมอลำเป็นการแนะนำตัวต่อชาวบ้าน คล้ายเตรียมตัวจะลงสมัครนายก อบจ.อุดรธานี แทนวิเชียร

ดังนั้น การเข้าพรรคเพื่อไทยในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ของทักษิณ ไม่เพียงแต่มาพบปะพูดคุยกับ สส. และอดีต สส. แต่อาจจะรวมถึงการเยียวยาหัวใจ สส.อาวุโสหลายคนที่พลาดหวังจากเก้าอี้รัฐมนตรี